รัฐบาลฟิลิปปินส์ออกมาประณามหน่วยยามฝั่งจีนว่า “กระทำการข่มขู่คุกคามโดยปราศจากการยั่วยุ และใช้กลยุทธ์อันตราย” รวมถึงการใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงสกัดเรือของฟิลิปปินส์ที่พยายามเข้าไปส่งเสบียงให้แก่ทหารซึ่งประจำการในเขตน่านน้ำพิพาททะเลจีนใต้
คำแถลงของรัฐบาลฟิลิปปินส์วันนี้ (10 พ.ย) ระบุว่า พฤติกรรมของจีน “ไม่เพียงทำให้ชีวิตพลเมืองของเราตกอยู่ในความเสี่ยง แต่ยังก่อให้เกิดคำถามว่า ข้อเรียกร้องในการขอเจรจาอย่างสันตินั้นจริงใจแค่ไหน”
ฟิลิปปินส์มีการนำเรือขนเสบียงไปส่งให้แก่ทหารซึ่งประจำการอยู่บนซากเรือรบลำหนึ่งบนสันดอนพิพาท เซเกินด์ โทมัส (Second Thomas Shoal) หนึ่งในเกาะปะการังกลางทะเลจีนใต้ที่จีนและฟิลิปปินส์อ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนกันอยู่ โดยฟิลิปปินส์เรียกสันดอนแห่งนี้ว่า Ayungin ในขณะที่จีนเรียกว่า เหรินอ้ายเจียว (仁爱礁)
จีนอ้างอธิปไตยเหนือทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด และได้ส่งกองเรือหลายร้อยลำออกไปปฏิบัติภารกิจตรวจการณ์ทางทะเล รวมถึงกองเรือบางส่วนที่ฟิลิปปินส์เรียกว่า “กองกำลังติดอาวุธทางทะเลของจีน” ที่คอยขัดขวางภารกิจส่งเสบียงของมะนิลาอยู่เป็นประจำ
ด้านหน่วยยามฝั่งจีนระบุวันนี้ (10) ว่ามีเรือขนส่งขนาดเล็กของฟิลิปปินส์ 2 ลำ และเรือยามฝั่งอีก 3 ลำบุกเข้าไปในน่านน้ำรอบสันดอน เซเกินด์ โทมัส โดยไม่ได้ขออนุญาตจากรัฐบาลจีนก่อน พร้อมทั้งเตือนให้ฟิลิปปินส์หยุด “ละเมิด” อธิปไตยของปักกิ่ง
“ยามฝั่งจีนได้ติดตามเรือของฟิลิปปินส์ภายใต้กรอบของกฎหมาย ใช้มาตรการควบคุม และใช้แผนพิเศษชั่วคราวเพื่อให้ฝ่ายฟิลิปปินส์นำอาหารและข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันเข้าไปส่งได้” หน่วยยามฝั่งจีนระบุในคำแถลง
รัฐบาลฟิลิปปินส์ยอมรับว่าสามารถส่งเสบียงได้สำเร็จ แม้จะถูกกองเรือยางของยามฝั่งจีน “แสดงท่าทีข่มขู่คุกคามอย่างอันตรายในระยะประชิด” ก็ตาม
ตลอดหลายปีมานี้ ฟิลิปปินส์และจีนเกิดการเผชิญหน้าบริเวณสันดอน เซเกินด์ โทมัส อยู่บ่อยครั้ง หลังจากที่รัฐบาลปักกิ่งใช้มาตรการแข็งกร้าวยิ่งขึ้นในการอ้างกรรมสิทธิ์ทางทะเล ซึ่งสร้างความกังวลต่อประเทศเพื่อนบ้านที่อ้างสิทธิทับซ้อน รวมไปถึงชาติอื่นๆ ที่มีการเดินเรือผ่านน่านน้ำทะเลจีนใต้ เช่น สหรัฐฯ เป็นต้น
ที่มา : รอยเตอร์
