xs
xsm
sm
md
lg

ความจริงอีกด้าน! สื่อตะวันตกแฉ “3 หัวหน้าฮามาส” รวยไม่ต่ำกว่า 11 พันล้านดอลลาร์ ใช้ "รร.โฟร์ซีซัน" สุดหรูในกาตาร์เป็นฐาน แต่ปล่อยปาเลสไตน์นับล้านยากจน "รอยเตอร์-เอพี" ปัดเสียงหลงไม่เคยรู้ล่วงหน้า "โจมตีอิสราเอล 7 ต.ค."

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - 3 ผู้นำฮามาสมีความร่ำรวยสุทธิไม่ต่ำกว่า 11 พันล้านดอลลาร์ ใช้ชีวิตหรูหราทั้งในเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว โรงแรมหรูหราระดับไฮเอนด์ และแมนชันพื้นหินอ่อนท่ามกลางประชาชนปาเลสไตน์ 2.3 ล้านคนในเขตฉนวนกาซาภายใต้การปกครองต้องอยู่อย่างยากจนและหวาดกลัว ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์และสำนักข่าวเอพีชื่อดังเจองานเข้าปัดเสียงหลงไม่ได้รู้ล่วงหน้าถึงฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลวันที่ 7 ต.ค.ตามที่เว็บไซต์โปรอิสราเอลอ้าง

เดลีเมล สื่ออังกฤษรายงานวันอังคาร (8 พ.ย.) ว่า ขณะที่โลกกำลังให้ความสนใจไปที่ชะตากรรมของประชาชนปาเลสไตน์ในเขตฉนวนกาซาที่ต้องอยู่อย่างยากลำบาก และมีรายงานว่าชีวิตในเขตฉนวนกาซาถึงขั้นมีสัดส่วน 1 สุขาต่อ 700 คน ผู้หญิงใช้ยาเลื่อนประจำเดือนและอาบน้ำในทะเลแทน แต่ในอีกด้านหนึ่งกลับพบว่า 3 ผู้นำกลุ่มฮามาสที่ปกครองกาซา คาเล็ด มาชาล (Khaled Mashaal) และอิสมาอิล อานิเยห์ (Ismail Haniyeh) นั้นกลับมีความมั่งคั่งสุทธิคนละ 4 พันล้านดอลลาร์ และกรรมการฝ่ายการเมืองกลุ่มฮามาส มูซา อาบู มาร์ซุค (Mousa Abu Marzouk) มีความมั่งคั่ง 3 พันล้านดอลลาร์ อ้างอิงจากฟ็อกซ์นิวส์

คนเหล่านี้แสดงความร่ำรวยผ่านไลฟ์สไตล์ที่หรูหราจากเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวที่มีการตกแต่งภายในอย่างงดงาม การใช้โรงแรมโฟร์ซีซันในกาตาร์เป็นกองบัญชาการโจมตี และอาศัยอยู่ในแมนชั่นสุดหรูที่มีพื้นหินอ่อนงดงาม

ฟ็อกซ์นิวส์รายงานว่า กลุ่มฮามาสที่ถูกรัฐบาลสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีในฐานะกลุ่มก่อการร้ายมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1พันล้านดอลลาร์/ปี จากเครือข่ายทั่วโลก รวมถึงเงินสกุลดิจิทัลคริปโตฯ อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจถูกกฎหมาย และการเก็บภาษี รวมไปถึงการกรรโชกทรัพย์จากชาวกาซาภายใต้การปกครอง และมีรายได้เป็นรองอันดับ 2 แค่จากกลุ่มก่อการร้าย IS

เดลีเมลรายงานว่า อ้างอิงจากเอกสารตามการรายงานของหนังสือพิมพ์เยอรมนี Welt am Sonntag พบว่า กลุ่มฮามาสนี้ไม่ใช่กลุ่มติดอาวุธที่ยากจน ทางกลุ่มมีอาณาจักรการเงินนอกเขตฉนวนกาซามูลค่าเกือบ 750 ล้านดอลลาร์ และในอดีตอิสราเอลไฟเขียวให้กาตาร์สามารถบริจาคเงิยหลายล้านดอลลาร์ให้องค์การบริหารกาซา ขณะที่เงินช่วยเหลือต่างประเทศอื่นๆ นั้นผ่านเข้ามาทางองค์การบริหารปาเลสไตน์ และหน่วยงานบรรเทาทุกข์ต่างๆ ของสหประชาชาติ

ซึ่งเหมือนเช่นฟ็อกซ์นิวส์เปิดเผย กลุ่มฮามาสที่บริหารเขตฉนวนกาซายังสามารถระดมทุนด้วยการเก็บภาษีสินค้าที่เดินทางผ่านเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินที่สลับซับซ้อนเพื่อเลี่ยงจุดข้ามแดนอียิปต์ในทางใต้ในการนำอาหาร ยารักษาโรค เชื้อเพลิง เงินสด รวมอาวุธเข้าไปในกาซาอย่างสะดวก

เดลีเมลกล่าวว่า ในความหรูหราที่แสดงออกมาจากในรายงานที่มีการอ้างมาอย่างยาวนานว่า หนึ่งในฐานปฏิบัติการของผู้นำฮามาสนั้นอยู่ภายในโรงแรมโฟร์ซีซันที่กรุงโดฮา กาตาร์

เพราะในปี 2015 พบว่า คาเล็ด มาชาล เปิดการแถลงข่าวที่ห้องบอลรูมของโฟร์ซีซันที่เขาโจมตีอิสราเอล และมีการกล่าวว่าเขาใช้เวลาเป็นส่วนใหญ่ในโรงแรม

และในบรรดาผู้นำฮามาส 3 คน พบว่า ฮานิเยห์วัย 61 ปี คุณพ่อลูก 13 คนเชื่อว่ามีความร่ำรวยมากที่สุดในกลุ่ม

เดลีเมลชี้ว่า นับตั้งแต่ปี 2019 เขาหลบซ่อนตัวอาศัยอยู่ในโรงแรมสุดหรูต่างๆ ทั้งในกาตาร์และตุรกี

หนังสือพิมพ์เยอรมนี Bild รายงานว่า ฮานิเยห์มักบินระหว่างกรุงเตหะราน กรุงอิสตันบูล กรุงมอสโก และกรุงไคโรด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของเขาเองในการเดินทางไปพบผู้นำคนอื่นๆ

ขณะเดียวกัน สงครามอิสราเอล-ฮามาสลามถึงจริยธรรมสื่อ สกายนิวส์รายงานวันนี้ (9) ว่า สำนักข่าวตะวันตกชื่อดังต่างออกมาปฏิเสธเสียงหลงไม่รู้เรื่องหลังเว็บไซต์โปรอิสราเอล HonestReporting ได้ตีพิมพ์บทความ “รูปภาพไร้พรมแดน” (Photographers Without Borders) ซึ่งมีเนื้อหาอ้างว่า ช่างภาพนักข่าวของสำนักข่าวตะวันตกชื่อดังรู้ล่วงหน้าถึงการโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.

ภายในบทความได้อ้างไปถึงช็อตรูปภาพมากมายที่ไม่สามารถยืนยันได้

สื่ออังกฤษกล่าวว่า สำนักข่าวรอยเตอร์และสำนักข่าวเอพีที่ถูกระบุชื่อได้ออกมาปฏิเสธอย่างหนักแน่น

รอยเตอร์กล่าวผ่านแถลงการณ์มีใจความว่า “รอยเตอร์ปฏิเสธโดยสิ้นเชิงที่อ้างว่าทางสำนักข่าวรู้ล่วงหน้าของการโจมตีหรือการที่เรามีนักข่าวฝังตัวในกลุ่มฮามาส”

อัลญะซีเราะฮ์ของกาตาร์รายงานเพิ่มเติมว่า สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยว่าได้รับภาพถ่ายจาก 2 ช่างภาพอิสระประจำกาซาที่ประจำอยู่บริเวณพรมแดนสำหรับสังเกตการณ์ในเช้าวันที่ 7 ต.ค. และทางสำนักข่าวไม่เคยมีความสัมพันธ์กับคนเหล่านี้มาก่อน

รอยเตอร์แถลงต่อว่า ภาพถ่ายเหล่านี้ที่เผยแพร่โดยรอยเตอร์นั้นถูกถ่าย 2 ชั่วโมงหลังกลุ่มฮามาสยิงจรวดข้ามพรมแดนทางใต้ของอิสราเอล และนานกว่า 45 นาทีหลังจากอิสราเอลแถลงว่ามีมือปืนบุกข้ามพรมแดนเข้าไป

นอกจากนี้ รอยเตอร์ยืนยันว่า นักข่าวรอยเตอร์ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ในจุดพิกัดที่ถูกอ้างถึงในบทความของ HonestReporting แต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเอพีที่มีชื่อเปิดเผยได้ออกมาปฏิเสธเช่นกัน โดยกล่าวผ่านแถลงการณ์มีใจความว่า “สำนักข่าวเอพีไม่เคยมีการรู้ถึงการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ก่อนเกิดเหตุ”








กำลังโหลดความคิดเห็น