เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล คุยโวว่ากองทัพบุกลึกเข้าไปในฉนวนกาซา เกินกว่าที่พวกนักรบฮามาสจินตนาการไว้แล้ว และส่งเสียงเตือนไปพวกฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอน จะ "ก่อความผิดพลาดครั้งใหญ่หลวงที่สุดในชีวิต" หากคิดเปิดแนวรบใหม่เต็มรูปแบบกับอิสราเอล
ระหว่างกล่าวจากกองบัญชาการทหารเคอร์ยา ในเทล อาวีฟ นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ระบุว่า "ในทางใต้ สงครามกำลังเดินหน้าด้วยพละกำลังที่พวกฮามาสไม่เคยพบเจอมาก่อน กาซา ซิตี ถูกปิดล้อมแล้ว เรากำลังปฏิบัติการอยู่ภายในกาซา ซิตี เรากำลังก่อแรงกดดันอย่างหนักหน่วงใส่พวกฮามาส ทุกๆ ชั่วโมง ทุกๆ วัน"
เขาบอกว่าพวกก่อการร้ายหลายพันรายถูกกำจัดแล้ว ทั้งบนพื้นดินและในอุโมงค์ใต้ดิน ในนั้นจำนวนมากเป็นผู้วางแผนและลงมือจู่โจมเข่นฆ่าผู้คนในอิสราเอลมากกว่า 1,400 ราย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
ความเห็นของเนทันยาฮู สอดคล้องกับคำกล่าวอ้างของ พล.ต.ยารอน ฟินเคลมาน นายหทารบังคับบัญชาของกองบัญชาการภาคใต้แห่งกองทัพอิสราเอล บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่บริเวณใกล้ๆ พรมแดนติดต่อกับกาซา ว่า "เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี IDF (กองทัพอิสราเอล) กำลังสู้รบในพื้นที่หัวใจของกาซาซิตี้ ตรงหัวใจของลัทธิก่อการร้าย"
"ทุกๆ วันและทุกๆ ชั่วโมง กองกำลัง IDF กำลังเข่นฆ่าพวกนักรบหัวรุนแรง เปิดเผยให้เห็นเครือข่ายอุโมงค์ และทำลายอาวุธ และรุกคืบหน้าต่อเนื่องเข้าไปยังศูนย์กลางต่างๆ ของศัตรู"
เนทันยาฮู อ้างด้วยว่าปฏิบัติการทางภาคพื้น ได้ทำลายกองบัญชาการ ฐานที่มั่นและอุโมงค์ของพวกฮามาสอย่างนับไม่ถ้วน "พวกฮามาสกำลังพบว่า เรากำลังไปถึงสถานที่ต่างๆ ที่พวกเขาเคยคิดว่าเราคงไม่มีวันไปถึง"
นายกรัฐมนตรีรายนี้ระบุต่อว่า ทหารของกองทัพอิสราเอล ได้เรียนรู้บทเรียนภายในฉนวนกาซา และทหารเหล่านั้นได้ส่งผ่านบทเรียนดังกล่าวสู่กำลังพลที่กำลังฝึกฝนอยู่ภายในอิสราเอล ก่อนที่กำลังพลเหล่านี้จะถูกส่งเข้าไปยังกาซา นอกจากนี้ เขายังกล่าวยกย่องความศรัทธาและความมุ่งมั่นของเหล่าทหารในการปกป้องประเทศบ้านเกิดของตนเอง
ในสถานการณ์ทางภาคเหนือ เนทันยาฮู เปิดเผยว่ากองกำลังป้องกันตนเองอิสราเอล เป็นทั้งฝ่ายตั้งรับและฝ่ายโจมตี พร้อมเตือนว่า อิสราเอลจะไม่ให้อภัยพวกฮิซบอลเลาะห์หรือฮามาสในเลบานอน "ที่กำลังทำอันตรายต่อชุมชนของเราและประชาชนของเรา"
"เราจะตอบโต้ด้วยการระดมยิงอย่างหนักหน่วง ต่อการโจมตีใดๆ ของพวกเขาที่เล่นงานเรา" เนทันยาฮูประกาศกร้าว "ถ้าฮิซบอลเลาะห์เข้าสู่สงคราม พวกเขาจะทำผิดพลาดครั้งใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตของพวกเขา"
ในแง่ของตัวประกันที่ถูกควบคุมตัวในกาซา เนทันยาฮูเผยว่าเขาได้พูดคุยกับประธานสภากาชาด และขอให้สภากาชาดหาทางช่วยเหลือให้ตัวประกันได้รับการปล่อยตัวออกมาในทันที ตามข้อกำหนดของกฎหมายระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม เขายังเน้นย้ำว่า "จะไม่มีการหยุดยิงโดยปราศจากการส่งคืนผู้ถูกลักพาตัวไปกลับมา และปฏิบัติการทางภาคพื้นเป็นส่วนสำคัญ ในความพยายามพาตัวประกันกลับบ้าน"
นอกจากนี้ เนทันยาฮูยังประกาศว่า "อิสราเอลจะทำลายศักยภาพทางทหารและการปกครองของฮามาส กาซาจะไม่เป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอลอีกต่อไป"
สงครามครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นมาในวันที่ 7 ตุลาคม เมื่อพวกนักรบฮามาสบุกข้ามรั้วความมั่นคงที่ถูกสร้างเอาไว้ล้อมรอบกาซา และสังหารชาวอิสราเอลไป 1,400 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน นอกจากนั้น ยังจับเอาไปเป็นตัวประกันกว่า 200 คน ทั้งนี้ตามตัวเลขของฝ่ายอิสราเอล นับแต่นั้นมาอิสราเอลได้ถล่มโจมตีกาซาอย่างแหลกลาญ เข่นฆ่าผู้คนไปมากกว่า 10,000 คนแล้ว โดยราว 40% เป็นเด็กๆ ตามตัวเลขของพวกเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขที่นั่น
ในวันอังคาร (7 พ.ย.) อิสราเอลประกาศให้เวลาชาวเมืองตั้งแต่ 10.00 น. จนถึง 14.00 น. ในการหลบหนีออกจากกาซาซิตี้ โดยพวกชาวเมืองซึ่งหนีออกมาเล่าว่า ขบวนรถถังอิสราเอลมีการเคลื่อนไหวส่วนใหญ่แล้วในเวลากลางคืน และกองทหารอิสราเอลกำลังอาศัยการโจมตีทั้งจากทางอากาศและจากปืนใหญ่และจรวด ในการเคลียร์เส้นทางเพื่อการบุกทางภาคพื้นดินของพวกเขา
ทั้งนี้ เนทันยาฮู ก็เช่นกัน เป็นอีกครั้งที่เขาเรียกร้องให้พลเรือนกาซาอพยพลงไปทางใต้
อิสราเอลยังระบุว่า ได้โจมตีเป้าหมายฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนเมื่อวันจันทร์เพื่อตอบโต้จรวดหลายระลอกที่ยิงใส่เมืองทางเหนือของอิสราเอล กองทัพยิวสำทับว่า ตรวจพบจรวด 30 ลูกยิงมาจากเลบานอนภายในเวลาชั่วโมงเดียว
ทั้งนี้ ฮิซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ยิงต่อสู้ข้ามพรมแดนกับกองกำลังอิสราเอลมาตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ซึ่งเป็นการต่อสู้ครั้งรุนแรงที่สุดนับจากที่ทั้งสองฝ่ายทำสงครามกันในปี 2006
ด้านฮามาสเผยว่า ยิงขีปนาวุธ 16 ลูกโจมตีเมืองนาฮารียา และไฮฟาในอิสราเอล
(ที่มา : เดอะไทม์สออฟอิสราเอล/รอยเตอร์)