เอเจนซีส์ - อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เกือบโดนผู้พิพากษาศาลนิวยอร์กวานนี้ (6 พ.ย.) สั่งควบคุมตัวออกนอกศาลหลังไม่เลิกโจมตีทางการเมืองระหว่างขึ้นให้การในคดีฉ้อโกงธนาคาร 250 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทรัมป์กำลังต่อสู้หลังธุรกิจของตัวเองในรัฐนิวยอร์กถูกสั่งถอดใบอนุญาตการทำธุรกิจและสูญเสียการควบคุมไป รวมตึกทรัมป์ทาวเวอร์ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน โดนัลด์ จูเนียร์ ขึ้นศาลต้นเดือนยืนยันไม่รู้เห็นถึงหลักฐานทางการเงินที่อ้างความมั่งคั่งพ่อเกินจริงเพื่อให้ได้เงื่อนไขที่ดีที่สุดจากประกันภัยและสถาบันการเงิน รวม "ดอยช์แบงก์" ของเยอรมนี
สกายนิวส์ของอังกฤษ รายงานวานนี้ (6 พ.ย.) ว่า อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ สัปดาห์ที่ผ่านมาถูกศาลสั่งปรับ 10,000 ดอลลาร์ หลังเขาละเมิดคำสั่งห้ามเขาออกไปนอกศาลโจมตีส่วนตัวต่อเจ้าหน้าที่ศาลในคดีฉ้อโกงธนาคารมูลค่า 250 ล้านดอลลาร์
ซึ่งในการปรากฏตัวขึ้นศาลนิวยอร์กวันจันทร์ (6) อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงว่า เขาคาดว่าจะยังคงอยู่ในการเมืองสหรัฐฯ พ้นไปจากปี 2021 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขาหมดสมัยการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ
นักข่าว NBC ของสหรัฐฯ รายงานบรรยากาศภายในศาลนิวยอร์กว่า กระบวนการพิจารณาไต่สวนนั้นมีความตึงเครียดมาก พร้อมเสริมต่อว่า ดูเหมือนผู้นำสหรัฐฯ จะกล่าวฉวัดเฉวียนไปมา
ในจุดหนึ่งพบว่าผู้พิพากษาศาลนิวยอร์ก อาร์เธอร์ เอนโกรอน (Arthur Engoron) ได้สั่งให้ทีมกฎหมายของทรัมป์ควบคุมความประพฤติของลูกความ พร้อมเสริมต่อว่า “นี่ไม่ใช่การหาเสียงทางการเมือง
ผู้พิพากษายังสั่งอดีตผู้นำสหรัฐฯ ว่า “โปรดแค่ตอบคำถาม ไม่ต้องปราศรัย”
และหลังจากนั้นผู้พิพากษาเอนโกรอน ออกคำสั่งต่อ คริส คิซ (Chris Kise) ให้ทำการควบทรัมป์ หรือไม่เขาจะสั่งขับออกไปจากคอกพยาน
สกายนิวส์รายงานว่าเหมือนเช่นคำให้การของบุตรชาย 2 คนของเขาสัปดาห์ที่ผ่านมา อดีตผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันว่า นักบัญชีของบริษัทเป็นผู้รับผิดชอบต่อรายงานการเงิน
"สิ่งที่ผมทำคือการอนุมัติและให้ผู้คนอะไรก็ตามที่จำเป็นสำหรับทีมนักบัญชีในการทำรายงาน" ทรัมป์แถลงต่อศาลนิวยอร์ก
และขณะที่เขาได้ออกไปจากศาล เป็นอีกครั้งที่ทรัมป์ได้เรียกคดีของตัวเองว่า "โกง" พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าการให้การของเขาในศาลเป็นไปได้อย่างดีมาก
ทั้งนี้ CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า รองอัยการสูงสุดรัฐนิวยอร์ก เควิน วอลเลซ (Kevin Wallace) ทำให้อดีตผู้นำสหรัฐฯ แถลงต่อหน้าศาลวานนี้ (6) ว่า เขายอมรับว่าเขามีความมั่งคั่งสุทธิ 2.5 พันล้านดอลลาร์เพื่อค้ำประกันเงินกู้ผ่านธนาคารดอยช์แบงก์ของเยอรมนี ที่แท้จริงแล้วทรัมป์มีความมั่งคั่งไม่ถึงจำนวนดังกล่าว
กลางศาลทรัมป์ประกาศว่า เขาเป็นคนค้ำประกันต่อเงินกู้นี้
“ใช่.. ผมทำ” เขากล่าว
สื่อสหรัฐฯ กล่าวว่า วอลเลซชี้ว่า เงินกู้นี้กำหนดให้อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ อยู่ในฐานะผู้ค้ำประกันด้วยโดยที่ต้องมีสภาพคล่องที่ปราศจากภาระผูกพัน (unencumbered liquidity) จำนวน 50 ล้านดอลลาร์
ทรัมป์แถลงต่อศาลว่า “ใช่..ผมมีเงินสดเยอะมาก” และกล่าวไปถึงธนาคารดอยช์แบงก์ว่า “พวกเขาต้องการมีเงินสด”
อดีตผู้นำสหรัฐฯ กล่าวต่อว่า “มันขึ้นๆ ลงๆ แต่ผมมีเงินสดเยอะมานานมากแล้ว”
CNN ชี้ต่อว่า เงื่อนไขเงินกู้ยังกำหนดให้ทรัมป์ต้องคงสถานะความมั่งคั่งสุทธิอยู่ที่ 2.5 พันล้านดอลลาร์
ภายในศาลทรัมป์ยังกล่าวต่อว่า “เงินกู้นี้ถูกจ่ายคืนเต็มจำนวนโดยไม่มีการผิดนัด ไม่มีปัญหาและธนาคารรู้สึกตื่นเต้น พวกเขาได้เงินคืน”
อดีตผู้นำสหรัฐฯ ยังเปิดเผยต่อว่า “ธนาคารชอบผมมากๆ”
สื่อสหรัฐฯ เปิดเผยว่า แหล่งข่าวใกล้ชิดได้แสดงความเห็นว่า ทีมกฎหมายของอดีตผู้นำสหรัฐฯ มีความพอใจเป็นอย่างมากต่อการให้การของเขาภายในศาลหลังช่วงเช้ามีความตึงเครียดระหว่างผู้พิพากษาและลูกความ (ทรัมป์)
ทั้งนี้ CNN ชี้ว่า ดูเหมือนอดีตผู้นำสหรัฐฯ ถูกวอลเลซตั้งคำถามถึงความถูกต้องของบัญชีการเงินนับตั้งแต่สิงหาคม ปี 2014 หรือไม่ และอดีตผู้นำสหรัฐฯ ตอบกลับมาว่า "ผมหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น"
โดยเขาย้ำว่า "ผมหวังว่าจะเป็นเช่นนั้นผมไม่ได้ทำมันด้วยตัวเอง" และเมื่อถูกอัยการรัฐนิวยอร์กซักต่อว่า "คุณไม่รู้อะไรเลยเช่นนั้นหรือ?"
อดีตผู้นำสหรัฐฯ ตอบกลับมาว่า "ผมสันนิษฐานว่าเป็นเช่นนั้น" และเสริมว่า "ผมมีคน ผมจ่ายเงินพวกเขาด้วยเงินจำนวนมาก พวกเขาเป็นนักบัญชี ผมสันนิษฐานว่าพวกเขาจะทำบัญชีอย่างเที่ยงตรง"
บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานว่า บุตรสาวของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ อิวองกา ทรัมป์ มีกำหนดจะขึ้นให้การในวันพุธ (8)
โพลิติโกรายงานวันที่ 1 พ.ย.ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ หรือดอน จูเนียร์ บุตรชายคนโตของทรัมป์ซึ่งเป็นผู้บริหารร่วมอาณาจักรธุรกิจของเขาได้ขึ้นศาลเพื่อให้การในคดีนี้
อย่างไรก็ตาม ดอน จูเนียร์ ปฏิเสธโดยอ้างต่อศาลว่า เขาไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ในการเตรียมหลักฐานทางการเงินต่างๆ เมื่อปี 2017 ที่ทำให้ความมั่งคั่งของอดีตผู้นำสหรัฐฯ สูงเกินความเป็นจริง
โพลิติโกกล่าวว่า เอกสารถูกกล่าวว่ามันถูกเตรียมภายใต้การปรึกษาหารือกลุ่มผู้ดูแลผลประโยชน์ให้บิดาของเขา และหนึ่งในนั้นคือ "ดอน จูเนียร์"