ผู้นำมาเลเซียประกาศวันนี้ (7 พ.ย.) ว่าจะไม่ยอมรับการคว่ำบาตรฝ่ายเดียว (unilateral sanctions) หลังจากที่สหรัฐฯ เตรียมเสนอร่างกฎหมายกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่างชาติที่ให้การสนับสนุนฮามาส หรือกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ในดินแดนปาเลสไตน์
ร่างกฎหมาย Hamas International Financing Prevention Act ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสกัดกั้นเงินช่วยเหลือที่นานาชาติมีให้ต่อกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และกำลังรอเข้าสู่การโหวตในชั้นวุฒิสภา
“เราขอปฏิเสธที่จะยอมรับมาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวที่ออกโดยสหรัฐฯ หรือประเทศใดๆ ก็ตาม เราจะยอมรับเฉพาะมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาติ (UNSC) ซึ่งถือว่าเป็นมติแบบพหุภาคี” นายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม ระบุในคำแถลงต่อรัฐสภาวันนี้ (7)
“เรายังไม่เห็นด้วยกับสหรัฐฯ (ในการออกกฎหมายคว่ำบาตรต่างชาติที่สนับสนุนฮามาส) และ (การออกกฎหมายนี้) จะไม่มีผลต่อจุดยืนหรือนโยบายของมาเลเซีย”
ผู้นำเสือเหลืองระบุด้วยว่า ตนได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับผู้นำชาติมุสลิมหลายประเทศ ซึ่งพวกเขาก็ล้วนแต่ประกาศจุดยืนเดียวกับมาเลเซีย
อย่างไรก็ดี อันวาร์ ยอมรับว่ารัฐบาลกัวลาลัมเปอร์กำลังเฝ้าติดตามกระบวนการผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแดนสือเหลือง หากมีการพิสูจน์ได้ว่ามาเลเซียมอบความช่วยเหลือให้แก่กลุ่มฮามาส หรือกลุ่มอิสลามิกญิฮาดปาเลสไตน์ (Palestinian Islamic Jihad)
“การคว่ำบาตรใดๆ ก็ตามต่อมาเลเซียอาจมีผลต่อการประเมินของรัฐบาลสหรัฐฯ และบริษัทอเมริกันที่มีต่อมาเลเซีย รวมถึงกระทบโอกาสด้านการลงทุนของบริษัทอเมริกันในมาเลเซียด้วย” อันวาร์ ระบุ
มาเลเซียซึ่งมีพลเมืองส่วนใหญ่นับถืออิสลามเป็นหนึ่งในชาติที่เป็นปากเสียงให้แก่ปาเลสไตน์มาโดยตลอด และสนับสนุนทางออกแบบ 2 รัฐควบคู่ (two-state solution) เพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์
ปัจจุบัน มาเลเซียยังคงไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล
ผู้นำระดับสูงของฮามาสเคยเดินทางเยือนมาเลเซียบ่อยครั้ง และยังมีโอกาสได้เข้าพบกับนายกฯ มาเลเซียมาแล้วหลายคน
อันวาร์ ปฏิเสธแรงกดดันจากชาติตะวันตกที่เรียกร้องให้รัฐบาลมาเลเซียแถลงประณามกลุ่มฮามาส และยอมรับว่าสหรัฐฯ เคยแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับจุดยืนที่มาเลเซียมีต่อปาเลสไตน์
ที่มา : รอยเตอร์, New Straits Times
