กระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียออกมาแถลงวันนี้ (7 พ.ย.) ว่า วัตถุประสงค์ของโรงพยาบาลอินโดนีเซีย (Indonesia Hospital) ในกาซามีไว้เพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยชาวปาเลสไตน์ หลังจากที่กองทัพอิสราเอลกล่าวหาว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ถูกฮามาสใช้เป็นฐานในการยิงโจมตีรัฐยิว
กองทัพอิสราเอลกล่าวอ้างว่ากลุ่มฮามาส “นำโรงพยาบาลต่างๆ มาใช้เป็นเครื่องมือทำสงครามอย่างเป็นระบบ” หลังจากที่ค้นพบเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดิน ศูนย์บัญชาการ และเครื่องยิงจรวด ซุกซ่อนอยู่ทั้งเบื้องล่างและบริเวณพื้นที่ติดต่อกับโรงพยาบาลหลายแห่งทางตอนเหนือของกาซา
กลุ่มฮามาสซึ่งปกครองฉนวนกาซามาตั้งแต่ปี 2007 ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้ และอ้างว่าอิสราเอลจงใจสร้างเรื่องโกหก
“โรงพยาบาลอินโดนีเซียในกาซาเป็นสถานพยาบาลที่ชาวอินโดนีเซียสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ด้านมนุษยธรรมอย่างสมบูรณ์แบบ และเพื่อตอบสนองความจำเป็นทางการแพทย์ของชาวปาเลสไตน์ในกาซา” กระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียระบุ
ทางกระทรวงย้ำว่า โรงพยาบาลแห่งนี้อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของทางการปาเลสไตน์ โดยมีอาสาสมัครชาวอินโดนีเซียจำนวนหนึ่งเข้าไปทำงานช่วยเหลือ
“เวลานี้โรงพยาบาลมีผู้ป่วยเข้ารักษาตัวเกินกว่าศักยภาพที่จะรองรับได้แล้ว” ทางกระทรวง ระบุ
ซาร์บินี อับดุลมูราด ประธาน MER-C ซึ่งเป็นกลุ่มอาสาสมัครที่สนับสนุนงบประมาณให้แก่โรงพยาบาลอินโดนีเซีย บอกกับรอยเตอร์วันนี้ (7) ว่า โรงพยาบาลอินโดนีเซีย “ล่มสลาย” เพราะไม่มีเชื้อเพลิงหลงเหลืออยู่แล้ว
ซาร์บินี ยังปฏิเสธข้อครหาของอิสราเอล โดยชี้ว่ากองทัพยิว “ใช้เรื่องนี้มาเป็นเหตุอ้างความชอบธรรมในการยิงโจมตีโรงพยาบาลอินโดนีเซีย”
อินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลก ออกมาเรียกร้องให้มีการหยุดยิง (ceasefire) เต็มรูปแบบ และได้ส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปยังกาซาด้วย
กระทรวงสาธารณสุขกาซาประกาศอัปเดตตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการยิงโจมตีของอิสราเอลไม่ต่ำกว่า 10,022 คนแล้ว ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเด็กถึง 4,104 คน ขณะที่ อันโตนีโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ก็ออกมาเตือนว่าวานนี้ (6) ว่าฉนวนกาซากำลังกลายเป็น “สุสานฝังร่างเด็กๆ”
ที่มา : รอยเตอร์