เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - รัฐมนตรีต่างประเทศ ปานปรีย์ พหิทธานุกร แถลงวันนี้ (3 พ.ย.) ว่า ไทยอยู่ระหว่างเจรจากดดันให้อียิปต์ กาตาร์ และอิหร่าน เพื่อช่วยตัวประกันคนไทย 23 คนกลับประเทศ ประสบความสำเร็จหว่านล้อมอียิปต์จนไฟเขียวเจ้าหน้าที่ไทยเข้าไปที่จุดข้ามแดนราฟาห์เพื่อรับตัวประกัน ด้านเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์อิสราเอลพบหลักฐานแรงงานไทยโดนฮามาสจ่อยิงศีรษะดับ และมีร่องรอยการโดนทรมาน
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานวันนี้ (3 พ.ย.) ว่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ปานปรีย์ พหิทธานุกร แถลงว่า ฝ่ายไทยได้กดดันเตหะรานในการหารือร่วมกับรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านขอให้ช่วยเหลือตัวประกันไทย 23 คนที่อยู่ภายใต้การควบคุมตัวของกลุ่มติดอาวุธฮามาสให้เป็นอิสระ
ไทยต้องทำงานแข่งกับเวลาระหว่างที่สถานการณ์ภายในกาซาเลวร้ายลงทุกขณะโดยกองกำลัง IDF ล่าสุดวันพฤหัสบดี (2) ทำการปิดล้อมเขตฉนวนกาซาไปแล้ว 3 ด้านและมีปฏิบัติการสู้รบภายในเมืองกาซา
รัฐมนตรีต่างประเทศไทยสัปดาห์นี้เดินสายอยู่ในตะวันออกกลางทั้ง "อียิปต์" และ "กาตาร์" และได้พบกับรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ฮอสเซน อามีร์ อับดอลลาเฮียน (Hossein Amir-Abdollahian) ที่กรุงโดฮา กาตาร์ เพื่อกระตุ้นให้เตหะรานใช้สายสัมพันธ์ที่มีต่อกลุ่มติดอาวุธฮามาสให้ปล่อยแรงงานไทยกลับออกมาอย่างปลอดภัย
"ผมชี้ต่อพวกเขาว่าคนไทยทำงานที่นั่นเป็นกลุ่มคนรายได้ต่ำ และทำงานในภาคการเกษตรเพื่อเพิ่มรายได้ของพวกเขา" รัฐมนตรีต่างประเทศ ปานปรี ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวที่กรุงเทพฯ ในวันศุกร์ (3)
และเสริมว่า "ผมได้หารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านและเปิดเผยว่า แรงงานไทยนั้นไม่เกี่ยวข้องต่อทั้งการเมืองและความขัดแย้ง ผมขอให้รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านช่วยส่งสารนี้ต่อให้กลุ่มฮามาสว่า "คนเหล่านี้เป็นแค่คนงานเท่านั้น" "
ในการเปิดเผยปานปรี กล่าวว่า ทั้ง 3 ชาติต่างให้คำมั่นสนับสนุนอย่างเต็มในการให้การช่วยเหลือต่อการเจรจา
รัฐมนตรีต่างประเทศยังชี้ว่า "ชาติเหล่านี้ได้แสดงความที่ว่ายิ่งมีการหยุดยิงเร็วเท่าใด ตัวประกันจะได้รับเป็นอิสระเร็วขึ้นเท่านั้น"
ดูเหมือนไทยจะประสบความสำเร็จในบางส่วนเพราะในระหว่างการเจรจา พบว่ารัฐบาลอียิปต์ยอมตกลงไฟเขียวให้เจ้าหน้าที่ไทยสามารถเดินทางไปที่จุดข้ามแดนราฟาห์ได้ในกรณีที่มีตัวประกันถูกปล่อยตัวออกมา เดอะการ์เดียนรายงาน
ขณะที่ VOA ของสหรัฐฯ รายงานถึงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่มีการบ่งชี้ว่า แรงงานไทยถูกกลุ่มติดอาวุธฮามาสจ่อยิงที่ศีรษะหรือมีการทรมานเกิดขึ้น
โดยเจ้าหน้าที่อิสราเอลซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการบ่งชี้เอกลักษณ์บุคคลของเหยื่อที่เสียชีวิตจากการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค.เจ้าหน้าที่อิสราเอลต่างกล่าวว่า พบว่าบางศพมีร่องรอยการถูกทรมาน
ซึ่งจากการให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่อิสราเอลประจำฐาน ชูร์รา (Churra) ทำให้มีการเปิดเผยว่า แรงงานไทยจำนวนหนึ่งที่เสียชีวิตและถูกส่งมาที่ฐานแห่งนี้นั้นเป็นแรงงานภาคเกษตรกรรมของชุมชนที่เรียกว่า คิบบุตซ์ (kibbutz) ในอิสราเอล
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อิสราเอล นาธา เคตซ์ (Natha Ketz) กล่าวว่า สัปดาห์ที่แล้วเขาได้รับร่างผู้เสียชีวิตราว 8-10 คนที่เป็นแรงงานไทยทำงานในพื้นที่การเกษตรใกล้เขตฉนวนกาซา
โดยเปิดเผยว่า "ผมได้รับศพคนเหล่านี้ และในเวลานั้นผมเห็นมือของพวกเขาถูกมัดไพล่หลัง..พวกเขาอยู่ในท่าคุกเข่าพร้อมกับมีรูกระสุนปืนอยู่ที่ศีรษะคนเหล่านั้น"
ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับท่าการสังหารปลิดชีพ
เจ้าหน้าที่อิสราเอลยังให้คำจำกัดความถึงกลุ่มติดอาวุธฮามาสว่า คนกลุ่มนี้มีเป้าหมายที่สังหารและทำลายทุกอย่างตามทางของพวกเขา...ไม่สนว่าเหยื่อนั้นเป็นชาวยิวหรือไม่