เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - กระทรวงสาธารณสุขกาซาแถลงวันนี้ (2 พ.ย.) ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 9,061 คน รวมเด็ก 3,760 คน และบาดเจ็บ 32,000 คน และเป็นครั้งแรกในคืนวันพุธ (1 พ.ย.) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ยืนกรานต้องมีการ “หยุดพัก” เพื่อมนุษยธรรมในการเปิดทางให้ตัวประกันหนีออกไปจากเขตฉนวนกาซา หลังอิสราเอลโจมตีศูนย์ผู้อพยพจาบาเลียเป็นครั้งที่ 2 ขณะที่จุดข้ามแดนราฟาห์เปิดเป็นวันที่ 2 หลังวันแรกมีชาวต่างชาติถือหนังสือเดินทางสหรัฐฯ ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น อังกฤษ สามารถอพยพออกไปได้สำเร็จ แต่ไม่มี "ไทย" รวมอยู่ในนั้น
อัลญะซีเราะห์ สื่อกาตาร์รายงานวันนี้ (2 พ.ย.) ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เป็นครั้งแรกได้ออกมาแสดงการสนับสนุนให้มีการหยุดพักเพื่อมนุษยธรรมในสงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์
อ้างอิงจาก CNN ของสหรัฐฯ เกิดขึ้นหลังทั้งผู้นำสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงทางความมั่นคงอเมริกาต้องเผชิญหน้ากับคำถามต่อคำมั่นสัญญาของอิสราเอลในการที่จะทำให้พลเรือนเสียชีวิตน้อยที่สุด และสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในกาซาจะส่งผลต่อทางการเมืองในประเทศของไบเดนอย่างไร
ในคืนวันพุธ (1) ระหว่างการปราศัยหาเสียงที่เมืองมินนาโปลิส รัฐมินนิโซตา ผู้นำสหรัฐฯ ถูกขัดโดยนักเคลื่อนไหวที่ตั้งคำถามไปถึงการหยุดยิงในกาซา
ไบเดนตอบกลับมาว่า “ผมคิดว่าพวกเราต้องการการหยุดพัก” และเขาขยายความต่อเมื่อถูกถามโดยยืนยันว่า “เป็นเวลาต้องนำเหล่านักโทษออกไป”
ซึ่งคำว่าเหล่านักโทษหมายความถึงตัวประกันของกลุ่มติดอาวุธฮามาส ทำเนียบขาวแถลงชี้แจง
อัลญะซีเราะห์ชี้ว่า การออกมาเรียกร้อง “หยุดพัก” (pause) นี้ถือเป็นการเปลี่ยนทิศทางของทำเนียบขาวที่ก่อนหน้าเคยอ้างว่า ทางสหรัฐฯ จะไม่กำหนดว่าอิสราเอลจะมีปฏิบัติการทางการทหารเช่นไร
ทั้งนี้ แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวได้ให้ข้อมูลแก่เอบีซีนิวส์ว่า ไบเดนไม่ได้พูดผิดในคืนวันพุธ (1) เมื่อเขากล่าวเขาได้เคยโน้มน้าวนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ให้หยุดยิง
โดยแหล่งข่าวชี้ว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ หมายความไปถึงการหยุดพักชั่วคราวในการปล่อยตัวประกันชาวอเมริกัน 2 คนออกมาในเดือนที่ผ่านมา โดยชี้ว่าคำว่า "pause" นี้สามารถถูกตีความได้หลายความหมายและยังใกล้เคียงกับคำว่า “หยุดพักทางมนุษยธรรม” (humanitarian pause)
CNN รายงานว่า รัฐบาลไบเดนประสบความสำเร็จในบางส่วนสามารถกดดันเทลอาวีฟให้เปิดช่องทางมนุษยธรรมสำหรับบรรเทาทุกข์ พบว่าไบเดนได้กล่าวต่อเนทันยาฮูในวันอาทิตย์ (29 ต.ค.) ว่า สิ่งของบรรเทาทุกข์ต้องผ่านเข้าไปภายในเขตฉนวนกาซา และต้องมีการเพิ่มอย่างเห็นได้ชัด
สกายนิวส์รายงานวันพฤหัสบดี (2) ว่า กองทัพอิสราเอลแถลงจำนวนตัวเลขตัวประกันของกลุ่มฮามาสล่าสุดอยู่ที่ 242 คนจากแต่เดิมเชื่อว่าอยู่ที่ 240 คน
โตเกียวแถลงว่า พลเมืองญี่ปุ่น 10 คน พร้อมกับครอบครัวชาวปาเลสไตน์ 8 คนที่ติดอยู่ในฉนวนกาซามีความประสงค์จะอพยพออกไปอียิปต์
จุดข้ามแดนราฟาห์เปิดอีกครั้งในวันพฤหัสบดี (2) พบว่ามีชาวต่างชาติไม่ต่ำกว่า 335 คนสามารถอพยพออกไปอียิปต์ในวันพุธ (1) ในบรรดาคนเหล่านีัมีผู้ถือหนังสือเดินทางออสเตรเลีย ออสเตรีย บัลแกเรีย สาธารณรัฐเช็ก ฟินแลนด์ อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น จอร์แดน อังกฤษ และสหรัฐฯ แต่ไม่มี "ไทย" รวมอยู่ในนั้น สกายนิวส์ชี้
ทั้งนี้ รอยเตอร์ได้อ้างแหล่งข่าวนักการทูตที่ไม่เปิดเผยชื่อให้ข้อมูลว่า มีผู้ถือหนังสือเดินทางต่างชาติจำนวนราว 7,500 คนคาดว่าจะเดินทางออกไปจากกาซาตลอด 2 สัปดาห์หลังจากนี้
สกายนิวสชี้ว่า ในการเปิดจุดข้ามแดนราฟาห์วันพุธ (1) มีผู้บาดเจ็บสาหัสซึ่งเป็นชาวกาซาหลายสิบคนถูกนำตัวเข้าไปรักษาที่อียิปต์ ความสำเร็จในการผลักดันให้มีการเปิดจุดข้ามแดนราฟาห์เพื่ออพยพฉุกเฉินนี้มาจากกาตาร์-สหรัฐฯ ร่วมกันเป็นประเทศกลางผลักดันให้เกิดข้อตกลงระหว่างอิสราเอล ฮามาส และอียิปต์
อัลญะซีเราะห์ รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขกาซาแถลงวันนี้ (2 พ.ย.) ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 9,061 คน รวมเด็ก 3,760 คน และบาดเจ็บ 32,000 คน