อิออเน เบลาร์รา รัฐมนตรีสิทธิสังคมของสเปน เร่งเร้าบรรดาผู้นำยุโรป ให้จัดการกับอิสราเอลในทันที ในนั้นรวมถึงตัดขาดความสัมพันธ์ทางการทูตและกำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ หลังรัฐยิวยังทิ้งบอมบ์ถล่มกาซาอย่างหนัก และยกระดับปฏิบัติการทางภาคพื้นเล่นงานนักรบฮามาส ในฉนวนปาเลสไตน์ที่ถูกปิดล้อมแห่งนี้ พร้อมเตือนถ้าไม่ดำเนินการใดๆ อียูก็เสี่ยงกลายเป็นผู้สมคบคิดในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
นอกจากนี้แล้วรัฐมนตรีหญิงรายนี้ยังเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับ เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ตามคำกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงครามกับพลเรือนในกาซา "ตามหลังค่ำคืนแห่งความโหดเหี้ยมในกาซา ฉันมีสารง่ายๆ แต่เป็นสารที่สำคัญมากๆส่งถึงพวกผู้นำยุโรป อย่าทำให้เรากลายเป็นผู้สมคบคิดฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การกระทำนี้ ไม่ใช่ในนามของเรา" เบลาร์รา กล่าวในแฟลตฟอร์มเอ็กซ์(ทวิตเตอร์)
มีชาวปาเลสไตน์มากกว่า 8,000 ราย ในนั้นเป็นเด็ก 3,342 คน ที่เสียชีวิตในฉนวนกาซา นับตั้งแต่ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลเริ่มต้นขึ้น ปฏิบัติการแก้แค้นดังกล่าว มีขึ้นหลังจากพวกนักรบฮามาส บุกจู่โจมเข้าไปในอิสราเอลอย่างไม่คาดคิด พร้อมๆกับยิงจรวดเข้าใสดินแดนอิสราเอลหลายรร้อยลูกเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม สังหารผู้คนไปราวๆ 1,400 ราย และจับตัวประกันทั้งชาวอิสราเอลและชาวต่างชาติ ไปประมาณ 230 คน
ในการพูดถึงความรุนแรงของสถานการณ์ในกาซาในปัจจุบันและการตอบโต้ที่ไม่สมเหตุสมผลของอิสราเอล รัฐมนตรีสิทธิสังคมของสเปน ได้ยกตัวอย่างกรณีที่มีการตัดอินเตอร์เน็ตและบริการโทรศัพท์ในฉนวนแห่งนี้โดย ชี้ว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าว มีเป้าหมายที่ชัดเจนมากๆ นั่นคือรับประกันว่าอิสราเอลจะสามารถก่ออาชญากรรมกับมนุษยชาติโดยไม่ต้องเผชิญกับผลสนองใดๆ
"การนิ่งเฉยของเรา กำลังเปลี่ยนเราให้กลายเป็นผู้สมคบคิด" รัฐมนตรีหญิงรายนี้เน้นย้ำ โดยอ้างว่า "อิสราเอลกำลังเชื่อว่าพันธมิตรนานาชาติจะรับประกันเอกสิทธิ์คุ้มครองพวกเขา"
"เราจำเป็นต้องดำเนินการในตอนนี้ พรุ่งนี้อาจสายเกินไป" เธอกล่าวต่อ พร้อมส่งเสียงเรียกร้องไปถึงพวกผู้นำยุโรป "ตัดขาดความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัฐอิสราเอล ทำการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับพวกที่อยู่เบื้องหลังการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ครั้งนี้ เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่าง และโดยปราศจากข้อสงสัยเลย ต้องนำตัว เนทันยาฮู ขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศ เพื่อที่เขาจะถูกดำเนินคดีในสิ่งที่เขาเป็น นั่นคืออาชญากรสงคราม"
นอกจากนี้แล้ว เธอยังเรียกร้องไปยังเหล่าพลเมืองอียู ให้ออกมารวมตัวบนท้องถนนสายต่างๆ และส่งเสียงดังมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ครั้งนี้สิ้นสุดลง
กองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอล ยกระดับปฏฺิบัติการโจมตีทั้งทางอากาศและทางภาคพื้นเล่นงานอิสราเอลในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้การติดต่อสื่อสารเกือบถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง และเพิ่งสามารถเชื่อมโยงการติดต่อกลับมาได้บางส่วนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามการปิดล้อมฉนวนกาซายังคงมีต่อไป โดย เนทันยาฮู ประกาศในวันเสาร์(28ต.ค.) ว่าสงครามกับฮามาส "เข้าสู่เฟส 2" แล้ว
(ที่มา:อาร์ทีนิวส์)