สหรัฐฯ และจีนลงความเห็นพ้องที่จะทำงานร่วมกันเพื่อปูทางสู่การประชุมซัมมิตระหว่างประธานาธิบดี โจ ไบเดน และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในเดือนหน้า ตามรายงานของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ภายหลังการหารือระหว่าง หวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน และบรรดานักการทูตระดับสูงของอเมริกาที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ในการเดินทางเยือนสหรัฐฯ ครั้งแรกของรัฐมนตรีต่างประเทศจีนนับตั้งแต่ปี 2018 หวัง อี้ ยังได้มีโอกาสเข้าพบประธานาธิบดี ไบเดน เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ซึ่งทำเนียบขาวระบุว่าถือเป็น “โอกาสที่ดี” ในการเปิดช่องทางสื่อสารระหว่าง 2 มหาอำนาจซึ่งเป็นคู่แข่งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีนโยบายแตกต่างกันหลายอย่าง
เจ้าหน้าที่อเมริกันเผยด้วยว่า หวัง อี้ ได้ร่วมโต๊ะหารือกับ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ รวมระยะเวลาในการพูดคุย 9 ชั่วโมงตลอด 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการสนทนากันแบบ “ตรงไปตรงมา และลงรายละเอียดเชิงลึก”
ผู้ช่วยระดับสูงของ ไบเดน ได้หยิบยกข้อกังวลหลักๆ ของสหรัฐฯ ขึ้นมาหารือกับ หวัง อี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการฟื้นฟูช่องทางสื่อสารระหว่างทั้ง 2 ประเทศ พฤติกรรมของปักกิ่งในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ ปัญหาไต้หวัน ประเด็นสิทธิมนุษยชน การหลั่งไหลของสารตั้งต้นยา “เฟนทานิล” รวมไปถึงชะตากรรมของพลเมืองสหรัฐฯ ที่ถูกจับในจีน
หวัง และบลิงเคน ยังได้ “แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา” เกี่ยวกับวิกฤตความขัดแย้งที่กำลังปะทุรุนแรงในตะวันออกกลาง
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ดูเหมือนจะมีความคืบหน้ามากที่สุดก็คือแผนการจัดประชุมซัมมิตระหว่าง ไบเดน และ สี คู่ขนานไปกับการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ซึ่งสหรัฐฯ จะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นที่นครซานฟรานซิสโกในเดือน พ.ย.
“เรากำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมดังกล่าว” เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ผู้ไม่ประสงค์ออกนามให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน
“ปกติแล้วผู้นำจีนมักจะยืนยันต่อสาธารณชนเอาในช่วงใกล้ๆ วันจริง ฉะนั้นผมขอให้ทางจีนเป็นฝ่ายตัดสินใจเองว่าจะประกาศเมื่อไหร่”
ด้านกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงว่า หวัง อี้ ได้กล่าวกับประธานาธิบดี ไบเดน ว่าจุดประสงค์ในการมาเยือนสหรัฐฯ ครั้งนี้ก็เพื่อ “ฉุดรั้ง” ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ไม่ให้ย่ำแย่ลงไปอีก และทั้ง 2 ฝ่าย “เห็นพ้องต้องกันที่จะบรรลุเป้าหมายในการจัดประชุมซัมมิตระหว่างประมุขรัฐทั้งสองที่นครซานฟรานซิสโก”
เมื่อวันพฤหัสบดี (26) หวัง ได้กล่าวกับ บลิงเคน ว่าจีนและสหรัฐฯ มีมุมมองขัดแย้งกันหลายเรื่อง และจำเป็นที่จะต้องหารือ “เชิงลึกอย่างครอบคลุม” เพื่อลดความเข้าใจผิดและฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมามีเสถียรภาพอีกครั้ง
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยอมรับว่า สงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอยู่บ่อยๆ ในการเจรจากับ หวัง อี้ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าสหรัฐฯ จะสามารถโน้มน้าวจีนให้ช่วยใช้อิทธิพลควบคุมความขัดแย้งให้อยู่ในวงจำกัดได้หรือไม่
“เราได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และพยายามเรียกร้องให้จีนใช้แนวทางสร้างสรรค์มากกว่านี้ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องรวมถึงการพูดคุยกับอิหร่านให้อยู่ในความสงบ” เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งให้ข้อมูลกับรอยเตอร์
รัฐบาลจีนแถลงประณามความรุนแรงและการโจมตีพลเรือนในสงคราม แต่ในขณะที่ หวัง อี้ ย้ำว่าการกระทำของอิสราเอลขณะนี้ “เกินขอบเขตของการป้องกันตนเอง” ไปแล้ว แต่กลับไม่มีการพาดพิงถึงพวกฮามาส
ที่มา : รอยเตอร์