ชาวเยอรมนีนับหมื่นคนออกมาเดินขบวนสนับสนุนอิสราเอลที่กรุงเบอร์ลินในวันอาทิตย์ (22 ต.ค.) ขณะที่นายกรัฐมนตรี โอลาฟ ชอลซ์ ประกาศจะกวาดล้างกระแสต่อต้านชาวเซมิติก (anti-semitic) หรือกระแสต่อต้านชาวยิว ที่กลับมาทวีความรุนแรงอีกครั้งในเมืองเบียร์ ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา
ตำรวจเยอรมนีระบุว่า มีประชาชนราว 10,000 คนออกมารวมตัวที่ประตูบรันเดนบูร์กเพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับอิสราเอลและคัดค้านลัทธิต่อต้านชาวเซมิติก ในขณะที่ผู้จัดงานอ้างว่ามีคนเข้าร่วมกิจกรรมนี้มากถึง 25,000 คน
ประธานาธิบดี ฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ แห่งเยอรมนี กล่าวกับบรรดาผู้ชุมนุมว่า “การที่ชาวยิวต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดกลัวอีกครั้งในวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศของเรา เป็นสิ่งที่ไม่อาจทนรับได้”
“ทุกๆ ครั้งที่เกิดการโจมตีต่อคนยิวหรือสถาบันของชาวยิว มันคือเรื่องที่น่าละอายสำหรับเยอรมนี การโจมตีที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งทำให้ตัวผมเองรู้สึกอับอายและโกรธแค้น”
ชไตน์ไมเออร์ ยังบอกด้วยว่า โศกนาฏกรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวโดยพวกนาซี (Holocaust) ทำให้เยอรมนีมีความรับผิดชอบมากกว่าใครๆ ที่จะต้องปกป้องชีวิตคนยิว
“ระบอบประชาธิปไตยของเราไม่มีการแบ่งแยก ไม่ว่าคุณจะมาจากที่ไหน เคยผ่านประสบการณ์อะไร หรือนับถือศาสนาใดก็ตาม ทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศนี้จะต้องรู้จักค่ายกักกันเอาช์วิตซ์ และต้องเข้าใจถึงความรับผิดชอบที่ประเทศของเรามีต่อเรื่องนี้”
ก่อนหน้านั้น นายกรัฐมนตรี โอลาฟ ชอลซ์ ก็ได้กล่าวในทำนองเดียวกันระหว่างเดินทางไปร่วมพิธีเปิดโบสถ์ยิวแห่งใหม่ที่เมืองเดสโซ (Dessau)
“จะไม่มีการอดทนใดๆ ทั้งสิ้นต่อลัทธิต่อต้านชาวเซมิติกในเยอรมนี” ชอลซ์ กล่าว พร้อมย้ำว่าเยอรมนี “จะปกป้องและป้องกัน” ชีวิตของชาวยิวทุกคน
นายกฯ เมืองเบียร์ยังแสดงความตกตะลึงที่กระแสเกลียดชังชาวยิวกำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก รวมถึงในเยอรมนี ซึ่งเขามองว่าเป็นเรื่องที่ “น่าละอาย”
นับตั้งแต่กลุ่มติดอาวุธฮามาสเริ่มเปิดปฏิบัติการจู่โจมอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ในเยอรมนีก็เริ่มมีทั้งฝ่ายที่หนุนอิสราเอลและฝ่ายที่เชียร์ปาเลสไตน์ออกมาจัดกิจกรรมประท้วงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในบางแห่งมีการป่าวร้องสโลแกนต่อต้านชาวเซมิติกด้วย
เยอรมนีเป็นหนึ่งในประเทศที่มีชุมชนชาวยิวและชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่มากที่สุดในยุโรป โดยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มมีคนนำรูป “ดาวแห่งเดวิด” หรือรูปดาว 6 แฉกที่เป็นสัญลักษณ์ของศาสนายูดายและชาวยิวไปติดตามอาคารห้างร้านหลายแห่ง ขณะที่โบสถ์ยิวแห่งหนึ่งในกรุงเบอร์ลินก็ถูกปาระเบิดน้ำมันใส่
พ่อแม่ชาวยิวบางคนไม่กล้าส่งลูกไปโรงเรียน เพราะกลัวว่าเด็กๆ จะได้รับอันตราย
แม้กลุ่มผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ส่วนใหญ่จะประกาศจุดยืนชัดเจนว่าพวกเขาต้องการประท้วงวิกฤตมนุษยธรรมที่เกิดขึ้นในกาซา และไม่ได้สนับสนุนการกระทำของฮามาส ทว่าทางการเยอรมนีก็สั่ง “แบน” การชุมนุมทั้ง 2 รูปแบบ แถมตำรวจยังใช้สเปรย์พริกไทยเข้าสลายการชุมนุมของฝ่ายหนุนปาเลสไตน์ด้วย ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลเยอรมนีกำลังเลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน
ที่มา : รอยเตอร์