xs
xsm
sm
md
lg

อดีตนายกปากีฯ “นาวาซ ชารีฟ” กลับเข้าอิสลามาบัดครั้งแรก หลังหลบลี้ภัยในอังกฤษนาน 4 ปี ฮือฮา! วันแรกใช้ทั้ง "เครื่องบิน-ฮ." บินในประเทศไม่ต่างจากนักการเมืองโลกเสรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - อดีตนายกรัฐมนตรีปากีสถาน นาวาซ ชารีฟ วัย 73 ปี เดินทางกลับเข้ากรุงอิสลามาบัดครั้งแรกในรอบ 4 ปี หลังลี้ภัยการเมืองที่อังกฤษนาน 4 ปี จากคดีคอร์รัปชัน เตรียมกลับเข้ามาสู่อำนาจอีกครั้ง ฮือฮาวันแรกพบเดินทางด้วยเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ในประเทศเป็นส่วนใหญ่ ไม่ต่างนักการเมืองโลกเสรีทั้งอังกฤษและอเมริกัน

อัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์รายงานวานนี้ (21 ต.ค.) ว่า อดีตนายกรัฐมนตรีปากีสถานผู้เกรียงไกร วัย 73 ปี นาวาซ ชารีฟ เดินทางเข้าสู่กรุงอิสลามาบัดด้วยเครื่องเช่าเหมาลำที่เดินทางมาถึงประเทศบ้านเกิดในวันเสาร์ (21)

ซึ่งมีการคาดว่า ชารีฟที่ลี้ภัยทางการเมืองในอังกฤษนานถึง 4 ปี จะเป็นผู้นำการปราศรัยหาเสียงในบ้านเกิดของเขาที่เมืองลาฮอร์ และบรรดาผู้สนับสนุนต่างตบแต่งทั่วทั้งเมืองด้วยป้ายประกาศพรรคสีเขียวและสีเหลือง รวมไปถึงโปสเตอร์และธง

สื่อดอว์นของปากีสถานรายงานว่า เขากล่าวต่อหน้าบรรดาผู้สนับสนุนว่า “มีบางบาดแผลที่ต้องใช้เวลาในการเยียวยา แต่ผมไม่มีความปรารถนาต่อการแก้แค้น เพราะนาวาซ ชารีฟคนนี้มีเพียงแต่ความปรารถนาต่อความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับประชาชน”

อดีตผู้นำปากีสถานเดินทางมาถึงกรุงอิสลามาบัดในช่วงบ่ายของวันเสาร์ (21) และเขาต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งรวมไปถึงการลงทะเบียนด้วยระบบไบโอเมตริก

บรรยากาศเต็มไปด้วยความชื่นมื่น เครื่องเช่าเหมาลำของชารีฟทัชดาวน์รันเวย์ท่ามกลางการต้อนรับผู้ที่มารอไม่ต่ำกว่า 150 คน จากทั้งพรรคของเขา และกองทัพสื่อปากีสถานที่รอทำข่าวอย่างคับคั่ง

ชารีฟไม่ได้กลับเข้ามาที่ปากีสถานนับตั้งแต่เขาออกเดินทางไปที่กรุงลอนดอนในปี 2019 ด้วยเหตุผลการเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ระหว่างที่เขาต้องโทษจำคุก 14 ปีในเรือนจำในดีคอร์รัปชัน

โทษจำคุกของเขายังคงมีผลการบังคับใช้ แต่ทว่าในวันพฤหัสบดี (19) ศาลอิสลามาบัดออกคำสั่งห้ามเจ้าหน้าที่จับกุมตัวเขาก่อนที่ชารีฟจะปรากฏตัวที่ศาลในวันอังคารที่ 24 ต.ค.ที่จะถึง

อดีตนายกฯ นาวาซ ชารีฟ ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวก่อนที่เครื่องของเขาจะออกเดินทางจากดูไบว่า “พวกเราพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับการเลือกตั้ง” และเสริมต่อว่า “ประเทศของพวกเราที่สมควรที่จะต้องอยู่ในจุดสูงสุดของความมั่งคั่งกลับถดถอยอย่างแท้จริง”

ชารีฟเสริมต่อว่า “พวกเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ทำไมมันจึงมาถึงจุดนี้ได้”

ทั้งนี้ ปากีสถานมีรัฐบาลชุดรักษาการที่จะทำหน้าที่ไปจนถึงมกราคมปีหน้าซึ่งจะมีการเลือกตั้งทั่วไป

สื่อดอว์นของปากีสถานรายงานว่า ในวันที่กลับเข้าประเทศพบว่าชารีฟเดินทางต่อภายในประเทศด้วยเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์เป็นส่วนใหญ่ คล้ายคลึงกับนักการเมืองในอังกฤษและสหรัฐฯ ยังไงยังงั้น 

ซึ่งสื่อ Trendpak เคยรายงานเมื่อวันที่ 2 พ.ย. ปี 2018 ว่าระหว่างที่ชารีฟอยู่ในตำแหน่งผู้นำปากีสถานในประเทศที่ประชากรยากจนเป็นส่วนใหญ่ พบว่าเขาเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์บ่อยครั้งสูงถึง 2,167 ชม.ทีเดียว ซึ่งเปรียบเทียบกับอดีตนายกรัฐมนตรี อิมรอน ข่าน ซึ่งตามรายงานปี 2018 ข่านยังคงอยู่ในตำแหน่งและมีการใช้เฮลิคอปเตอร์เดินทางแค่ 33 ชม.เท่านั้น  

แต่ทว่าบีบีซี สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวันที่ 30 ส.ค. ปี 2018  ระบุว่า ข่านดูเหมือนไม่ต่างจากชารีฟในเรื่องการใช้เฮลิคอปเตอร์ของรัฐในการเดินทาง เพราะพบว่าข่านโดนวิพากษ์วิจารณ์จากการที่เขาเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์จากที่พักไปทำเนียบรัฐบาลในระยะทางแค่ 15  กม.เท่านั้น โดยเสียงวิจารณ์ชี้ว่าเป็นการสิ้นเปลืองภาษีประชาชนในการเดินทางไปกลับทำเนียบด้วยเฮลิคอปเตอร์

ดอว์นรายงานว่า ซึ่งหลังจากเครื่องเช่าเหมาลำบินเข้าสู่สนามบินและตัวเขาเสร็จสิ้นกระบวนการทางกฎหมายแล้ว พบว่า อดีตผู้นำเดินทางไปเมืองลาฮอร์ด้วยเครื่องบินซึ่งเดินทางถึงจุดหมายปลายทางหลังเวลา 17.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันเสาร์ (21)

และชารีฟได้รับการต้อนรับจากน้องชายซึ่งเป็นผู้นำปากีสถานคนที่ 23 เชห์บาซ ชารีฟ (Shehbaz Sharif) และแกนนำพรรคสันนิบาตมุสลิมปากีสถานนาวาซ (PML-N) ที่สนามบิน

หลังจากนั้น อดีตนายกฯ ชารีฟบินด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปป้อมลาฮอร์ (Lahore Fort) สำหรับการบวงสรวงก่อนที่จะไป Minar-i-Pakistan ซึ่งเป็นจุดการขึ้นเวทีปราศรัยทางการเมืองต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น