เอพี/เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เดินทางถึงกรุงเทลอาวีฟ อิสราเอล วันพุธ (18 ต.ค.) เปิดวงแขนกว้างปกป้องอิสราเอล ยืนยัน “ทีมอื่น” โจมตีโรงพยาบาลกาซาที่ทำให้ผู้เสียชีวิตดับถึง 500 คน "ไม่ใช่อิสราเอล" รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษโจมตีสื่อชี้รีบออกมาประณามอิสราเอลเร็วเกิน ด้านกองกำลังทหาร IDF โชว์คลิปเสียงดักฟังการสื่อสารติดอาวุธ ชี้ฮามาสยิงจรวดเกิดตกใส่โรงพยาบาลแบ็บติส อัล-อาห์ลี (Al-Ahli Baptist Hospital) อย่างไม่ตั้งใจ ส่วนผู้ช่วยรัฐมนตรีสาธารณสุขกาซาเผย 4 วันก่อนหน้า กองกำลังทหาร IDF เคยเตือนโรงพยาบาลเกิดเหตุให้รีบอพยพ ขณะที่ชาติอาหรับ 22 ชาติรวมตัวให้มีการยุติหยุดยิงทันที
เอพีรายงานวันนี้ (18 ต.ค.) ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เดินทางมาถึงกรุงเทลอาวีฟ อิสราเอล วันพุธ (18) โดยมีผู้นำอิสราเอลมารอต้อนรับถึงสนามบินและมีภาพโผสวมกอดของนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู อย่างเป็นที่ฮือฮา
เอพีชี้ว่า ไบเดนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากท่ามกลางอิสราเอลที่ตกเป็นจำเลยในสายตาชาวโลกหลังโรงพยาบาลแบ็บติส อัล-อาห์ลี (Al-Ahli Baptist Hospital) ในเขตฉนวนกาซาโดนโจมตีทางอากาศในชั่วข้ามคืนที่ผ่านมา ส่งผลทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 500 คน และคาดว่าน่าจะสูงกว่านั้น
ขณะที่ชาติอาหรับ 22 ชาติเรียกร้องให้มีการประกาศหยุดยิง อ้างอิงจากเดอะการ์เดียน และสอดคล้องการการออกจดหมายเปิดผนึกโดยผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายไม่ต่ำกว่า 800 คน รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศ และการศึกษาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และสังหารหมู่ได้เตือน "อิสราเอล" ว่ากำลังเสี่ยงที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ในเขตฉนวนกาซา
และในวันพุธ (18) เจ้าหน้าที่อียิปต์ยืนยันว่าด่านข้ามแดนราฟาห์ (Rafah crossing) ยังคงปิดลง
เอพีชี้ว่า ประธานาธิบดีไบเดนยังคงแสดงให้โลกเห็นว่า สหรัฐฯ ยังคงยืนอยู่เคียงข้างอิสราเอลต่อไปแม้ว่าเขาจะออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์โรงพยาบาลกาซาก็ตาม
ซึ่งในระหว่างการหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ไบเดนยังได้ออกมาเปิดข้อมูลโดยกล่าวว่า
"จากในสิ่งที่ผมได้เห็น มันดูเหมือนว่าราวกับว่าเป็นการกระทำของทีมอื่น ไม่ใช่คุณ"
โดยผู้นำสหรัฐฯ ได้ชี้ไปว่าการโจมตีโรงพยาบาลกาซาคืนวันอังคาร (17) ไม่ใช่ฝีมือของฝั่งอิสราเอลแต่เป็นของกลุ่มฮามาส และกล่าวต่อว่า และมีคนเป็นจำนวนมากที่ไม่แน่ใจว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการระเบิดที่นั่น
เอพีชี้ว่า อย่างไรก็ตามไบเดนไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดออกมาว่าเหตุใดเขาจึงเชื่อว่าอิสราเอลไม่ได้เป็นผู้โจมตีโรงพยาบาลกาซา
ซึ่งหลังเกิดเหตุทั้ง 2 ฝ่ายอิสราเอลและปาเลสไตน์ต่างชี้นิ้วใส่กันว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ลงมือ โดยกระทรวงสาธารณสุขกาซาแถลงว่า เป็นการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล แต่ทว่ากองทัพอิสราเอลออกมาปฏิเสธความเกี่ยวข้องพร้อมชี้ไปว่า โรงพยาบาลแบ็บติส อัล-อาห์ลีนั้นถูกโจมตีโดยฝีมือของกลุ่มญิฮัดซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์อีกกลุ่มที่เกิดจากการยิงจรวดผิดพลาดไม่ตั้งใจ แต่ทว่ากลุ่มญิฮัดออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบเช่นกัน
ผู้นำสหรัฐฯ ในระหว่างการร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีอิสราเอลชุดระหว่างสงครามได้ยืนกรานซ้ำว่า สหรัฐฯ ยังคงหนุนหลังอิสราเอลไม่เปลี่ยน
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า โรงพยาบาลซึ่งเป็นจุดที่เกิดเหตุพบว่าเมื่อ 4 วันก่อนหน้า ทหาร IDF ของอิสราเอลได้ออกมาเตือนให้รีบอพยพออกไป
โดยในรายละเอียด ผู้ช่วยรัฐมนตรีสาธารณสุขกาซา ยูเซฟ อาบู อัล-ริช (Youssef Abu Al-Rish) กล่าวเปิดเผยว่า โรงพยาบาลโรงพยาบาลแบ็บติส อัล-อาห์ลี เคยโดนอิสราเอลโจมตี 2 ครั้งในวันเสาร์ (14)
และเสริมต่อว่า ในวันถัดมา กองกำลัง IDF ของอิสราเอลได้ติดต่อผู้จัดการโรงพยาบาล นายแพทย์ มาฮีร์ อายัด (Dr.Maher Ayad) พร้อมกับวิจารณ์เขาอย่างหนักจากการที่ “ไม่ยอมสั่งอพยพ” ออกไป
อัล-ริชเปิดเผยว่า IDF ได้พูดกับผู้จัดการโรงพยาบาลว่า การยิงโจมตีวันเสาร์ (14) เป็นการเตือน “คุณได้รับการเตือนเมื่อวานด้วยการยิง 2 ครั้ง ดังทำไมถึงไม่สั่งอพยพโรงพยาบาลออกไปจนกระทั่งมาถึงเดี๋ยวนี้”
ขณะเดียวกัน สกายนิวส์สื่ออังกฤษรายงานว่า ในทันทีที่ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศรับรองว่า “ทีมอื่น” เป็นคนลงมือก่อเหตุ ส่งผลทำให้กลุ่มฮามาสออกมาแถลงโจมตีทันที
โดยกล่าวว่า สหรัฐฯ ลำเอียงเข้าข้างอิสราเอลอย่างเห็นได้ชัด
รอยเตอร์รายงานล่าสุดว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ริชี ซูแน็ก แถลงวันพุธ (18) ว่า หน่วยงานข่าวกรองอังกฤษกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างเป็นอิสระถึงเหตุระเบิดโรงพยาบาลกาซา
ผู้นำอังกฤษกล่าวต่อรัฐสภาเวสต์มินสเตอร์ว่า “พวกเราไม่สมควรที่จะรีบด่วนตัดสินก่อนที่พวกเราจะได้ข้อเท็จจริงทั้งหมด”
และเขาเสริมต่อว่า “หน่วยงานข่าวกรองของพวกเรากำลังเร่งวิเคราะห์หลักฐานเพื่อการตามหาข้อเท็จจริงอย่างเป็นเอกเทศ พวกเราจากจุดนี้ไม่สามารถกล่าวอะไรได้มากไปกว่านี้ได้”
ทั้งนี้ ก่อนหน้ารัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ได้ออกมาโจมตีสื่อที่รีบออกมาประณามอิสราเอล สกายนิวส์รายงานว่า กองกำลังทหาร IDF โชว์คลิปเสียงดักฟังการสื่อสารติดอาวุธ https://twitter.com/i/status/1714545680562184434 ชี้ไปว่า ฮามาสยิงจรวดเกิดตกใส่โรงพยาบาลแบ็บติส อัล-อาห์ลี แต่ทว่าสื่ออังกฤษไม่สามารถพิสูจน์ความถูกต้องได้