ฟังเสียงทางนี้บ้าง! 'กลุ่มยิวฝ่ายซ้าย' ประท้วงหน้าทำเนียบขาว เรียกร้อง ‘ไบเดน’ กดดันอิสราเอล ‘หยุดยิง’ ในกาซา

ตำรวจสหรัฐฯ จับกุมกลุ่มนักเคลื่อนไหวยิวฝ่ายซ้ายราว 30 คนที่มาชุมนุมประท้วงด้านนอกทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ (16 ต.ค.) โดยเรียกร้องให้ประธานาธิบดี โจ ไบเดน กดดันรัฐบาลอิสราเอลให้เลิกล้มแผนโจมตีภาคพื้นดินต่อฉนวนกาซา และประกาศ “หยุดยิง” ทันที

นักเคลื่อนไหวจากกลุ่ม IfNotNow และ Jewish Voice for Peace ต่างป่าวร้องสโลแกนและชูป้ายข้อความต่อต้านสงคราม พร้อมทั้งกล่าวหารัฐบาลนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลว่ามีแผน “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” (genocide)

ชาวยิวหัวซ้ายกลุ่มนี้มองว่า กองทัพอิสราเอลใช้ปฏิบัติการตอบโต้ที่ “ขาดศีลธรรม” ต่อการจู่โจมของพวกฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งได้คร่าชีวิตคนอิสราเอลไปแล้วอย่างน้อย 1,400 คน

ตำรวจสหรัฐฯ ได้เข้าจับกุมผู้ร่วมกิจกรรมประท้วงไปอย่างน้อย 30 คนตามรายงานของ ABC News

ผู้ประท้วงกลุ่มนี้ยังมองว่าประธานาธิบดี ไบเดน มีส่วน “รู้เห็นเป็นใจ” ให้อิสราเอลเปิดปฏิบัติการแก้แค้นที่หนักหน่วงเพื่อทำลายชุมชนในกาซา ตัดน้ำ ตัดไฟ และทำให้พลเรือนปาเลสไตน์ถูกสังหารไปแล้วไม่ต่ำกว่า 2,200 คน รวมถึงเด็กๆ 700 คน

เสียงวิจารณ์เหล่านี้มีขึ้นในขณะที่ผู้นำสหรัฐฯ ตอบรับคำเชิญของ เนทันยาฮู ไปเยือนอิสราเอลในวันพุธ (18 ต.ค.) เพื่อตอกย้ำจุดยืนของอเมริกาว่าพร้อมจะหนุนหลังรัฐยิวเต็มที่

แม้ ไบเดน จะแสดงท่าทีสนับสนุนอิสราเอลซึ่งเป็นฝ่ายโดนโจมตีก่อน แต่ก็เตือน เนทันยาฮู ว่าการกลับเข้าไปยึดครองฉนวนกาซาอีกครั้งหลังจากที่อิสราเอลถอนทหารออกมาเมื่อปี 2005 จะเป็น “ความผิดพลาดที่ร้ายแรง”

อีวา บอร์กวาร์ด (Eva Borgwardt) ผู้อำนวยการฝ่ายการเมืองของ IfNotNow เรียกร้องขอเข้าพบ ไบเดน โดยด่วน พร้อมย้ำว่าสถานการณ์กำลังเข้าขั้น “ความเป็นความตาย”

“เรามาที่นี่เพื่อบอกกับประธานาธิบดี ไบเดน ในฐานะผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรที่สุดในโลกว่า ท่านจำเป็นต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเรียกร้องการหยุดยิง การลดความตึงเครียด การปลดปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล และแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ที่เป็นต้นเหตุนำพวกเรามาสู่ฝันร้ายครั้งนี้”

ผู้จัดการประท้วงยังขู่จะกระทำอารยะขัดขืนต่างๆ เพื่อบีบให้ผู้กำหนดนโยบายของสหรัฐฯ ต้องหันมาฟังเสียงของพวกเขา ซึ่งรวมถึงการปิดทางเข้าออกทำเนียบขาว


นักเคลื่อนไหวเหล่านี้ชูป้ายข้อความที่เขียนว่า “ความโศกเศร้าของฉันไม่ใช่อาวุธของพวกคุณ” และ “หยุดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา” หลายคนบอกว่าพวกเขาต้องการให้สหรัฐฯ หยุดให้ท้ายอิสราเอลเข้าไปยึดครองเขตเวสต์แบงก์ รวมถึงเลิกสนับสนุน “ระบบการแบ่งแยกเชื้อชาติ” (system of apartheid) ที่รัฐบาลอิสราเอลใช้อยู่

พวกเขายังตำหนินโยบายของ ไบเดน ที่ขายระบบอาวุธล้ำสมัยมากมายให้แก่อิสราเอล แต่แทบไม่ได้เอ่ยถึงหรือวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่ฮามาสจู่โจมอิสราเอลแบบสายฟ้าแลบจนจุดชนวนวิกฤตการณ์ครั้งนี้ขึ้น

โอมาส บัดดาร์ (Omas Baddar) นักวิเคราะห์ชาวอเมริกันเชื้อสายปาเลสไตน์ ระบุว่าทำเนียบขาวกำลังแสดงพฤติกรรม “หน้าไหว้หลังหลอก” ในการประณามเรื่องที่รัสเซียบุกยูเครน แต่กลับปกป้องการกระทำของอิสราเอล

“ถ้าคุณลองเปรียบเทียบสิ่งที่รัฐบาลชุดนี้พูดเรื่องนโยบายต่างประเทศที่เน้นสิทธิมนุษยชนมาก่อน เรื่องความจำเป็นที่จะต้องยุติความรุนแรงจากสงครามที่รัสเซียกระทำต่อยูเครน แล้วลองดูคำพูดของพวกเขาต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในอิสราเอลและปาเลสไตน์วันนี้ มันคือความหน้าไหว้หลังหลอกที่สมควรจะถูกตำหนิติเตียนอย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่พวกเราจะทำได้” เขากล่าว

ซามี โกลด์ วัย 19 ปี นักศึกษารัฐศาสตร์และประวัติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตันซึ่งเข้าร่วมกิจกรรมประท้วงของกลุ่มชาวยิวฝ่ายซ้าย ยอมรับว่า ตัวเขาเองสนับสนุนแนวคิดจัดตั้งรัฐที่มี 2 ชนชาติ (bi-national state) ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เขามีปัญหากับครอบครัว โดยเฉพาะมารดาเป็นคนอิสราเอลโดยกำเนิด

“ชาวยิวถูกแบ่งแยกกีดกันมาหลายพันปี และถ้าจะมีหนทางในการก่อตั้งรัฐยิวที่ไม่ต้องกีดกันชนชาติอื่นได้ ผมก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่ แต่เราไม่ได้อาศัยอยู่ในโลกที่เป็นเช่นนั้น” เขากล่าว

“ครอบครัวก็ยังรักผมดีอยู่ แต่พวกเขาเสียใจกับแนวคิดของผม แต่ผมเชื่อว่าสักวันหนึ่งพวกเขาจะเข้าใจและสนับสนุนในสิ่งที่ผมเชื่อ”

ที่มา : The Guardian