เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ตัวเลขเสียชีวิตรวมพุ่งวันนี้ (12 ต.ค.) ไม่ต่ำกว่า 2,500 คน พลเมืองสหรัฐฯ เสียชีวิตเพิ่ม 22 คน และไทยอยู่ที่ 21 คน ล่าสุด โดนจับเพิ่ม 16 คน สื่อนอกรายงานสถานการณ์แรงงานไทย 15 คนเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ หนึ่งในแรงงานไทยจาก Moshav Mavki’im เผยประสบการณ์เฉียดตาย โดนยิงที่เข่าวันเสาร์ (7 ต.ค.) ในวันเดินทางไปทำงานที่สวนเชอร์รี หนักยิ่งกว่าหนังสงคราม ไม่รู้ว่าตัวเองรอดชีวิตมาได้อย่างไร ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน เดินทางถึงกรุงเทลอาวีฟวันพฤหัสบดี (12) พบผู้นำอิสราเอลปลอบประโลมขวัญ “พวกเราอยู่ที่นี่แล้ว..พวกเราจะไม่ไปไหน”
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานวันนี้ (12 ต.ค.) ว่า แรงงานไทยจากอิสราเอลเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ ถึงบ้านแล้วชุดแรกจำนวน 15 คน โดยเครื่องร่อนลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิเช้าวันพฤหัสบดี (12) ขณะที่ตัวเลขเสียชีวิตของพลเมืองไทยในอิสราเอลเพิ่มเป็น 21 คน
กรัชกร พุทธสอน (Katchakorn Pudtason) หนึ่งในแรงงานไทยชุดแรกที่ถูกอพยพกลับบ้านเปิดใจว่า ตัวเขานั่งอยู่บนรถบรรทุกของนายจ้างอิสราเอลระหว่างที่ตัวเขาและเพื่อนร่วมงานกำลังเดินทางไปสวนเชอร์รีที่ตั้งอยู่ใกล้ฉนวนกาซาในวันเสาร์ (7) ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ
การโจมตีที่เกิดมาตั้งแต่เช้าวันนั้นที่มีทั้งมิสไซล์ลง การยิงปะทะเกิดขึ้นไม่ห่างออกไป แต่หลังจากที่แรงงานทั้งหมดเข้าไปหลบภัยภายในบ้านพักของนายจ้างอิสราเอลเพื่อความปลอดภัย คนทั้งหมดคิดว่าน่าจะปลอดภัยกว่าหากกลับไปที่ฟาร์ม
กรัชกร เปิดเผยว่าเขารู้สึกไปถึงบางอย่างหลังได้ยินเสียงเหมือนประทัดดังขึ้นทางซ้ายมุ่งหน้าสู่ถนนใหญ่ไม่ห่างจากฟาร์มที่ทำงาน แรงงานไทยรีบหลบต่ำบนพื้นราบทันที และได้รีบบอกเตือนเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งที่เขาคิดว่าทั้งเขาและเพื่อนร่วมงานอาจถูกปืนยิงใส่ “ดังนั้นแล้วปืนยังคงยิงเสียงดังลั่นปัง ปัง”
เขากล่าวว่า ไม่แน่ชัดว่าใครเป็นคนยิงออกมา “ผมไม่คิดว่ามีผู้ก่อการร้ายอยู่แถวนั้น มีเพียงแต่ทหารอิสราเอลประจำการแถวนั้น”
คุณกรัชกร เปิดเผยว่า ระหว่างที่กำลังหลบภัยเขารู้สึกเจ็บแปลบบริเวณหัวเข่า พบว่าเขาได้รับบาดเจ็บจากกระสุนที่ยิงออกมาจากด้านซ้ายของตัวรถ “ในเวลานั้นเมื่อผมถูกยิง มันไม่ดูน่ากลัวเหมือนการยิงที่ตามมาหลังจากนั้น มันเหมือนกับว่าพวกเขากำลังยิงไล่ตามหลังพวกเรา ปัง ปัง มันรุนแรงมากกว่าภาพยนตร์สงครามเสียอีก”
เดอะการ์เดียนรายงานว่า พบว่ามีการยิงข้ามแคมป์ที่พักแรงงานคนไทยในฟาร์ม แต่โชคดีที่ไม่มีใครถูกจับเป็นตัวประกัน แต่ทว่ามี 4 คนได้รับบาดเจ็บ และ 1 ในนั้นยังคงอยู่ในโรงพยาบาล
ทั้งนี้ กรัชกร ซึ่งมีภูมิลำเนาที่จังหวัดพะเยาทำงานอยู่ที่อิสราเอลมาเป็นระยะเวลา 1 ปี 3 เดือน และเป็นหนึ่งในจำนวนมากของแรงงานไทยที่ย้ายไปทำงานในภาคการเกษตรที่อิสราเอล เขาอาศัยอยู่ในเมือง Moshav Mavki’im
เดอะการ์เดียนรายงานว่า แรงงานไทยรายนี้ได้รับเงินเดือน 70,000 บาท (1,575 ปอนด์) พร้อมค่าล่วงเวลา ทำงานในฟาร์มปลูกแตงกวาและเชอร์รี ถือเป็นรายได้สูงเมื่อเทียบกับรายได้ขั้นต่ำในไทยที่ 10,620 บาท/เดือน โดยอ้างอิงจากสื่อไทยพบว่า ครอบครัวของเขาได้รับเงินที่ส่งกลับมาจากอิสราเอลตกราว 50,000-60,000 บาท/เดือน โดยฝ่ายภรรยาไม่อยากให้สามีกลับเข้าไปทำงานที่อิสราเอลอีกแล้ว
ครอบครัวในไทยร้องไห้ด้วยความเป็นห่วงและรอคอยการกลับไปบ้านที่ไทย แต่คุณกรัชกรเปิดเผยว่า เขาบอกทางบ้านว่า เขาไม่เป็นไรและไม่ได้รับบาดเจ็บภายในแต่ไม่สามารถทำงานได้ พร้อมกับยืนยันว่าจะกลับไปทำงานที่อิสราเอลอีกครั้งหากหายดีและสถานการณ์ปลอดภัย เขาเปิดเผยว่า เขามีหนี้สินในการกู้เงินสำหรับเดินทางไปอิสราเอล
สื่ออังกฤษรายงานว่า นายจ้างอิสราเอลสามารถขับพาตัวเขาไปที่ปลอดภัยและหลังจากนั้นพาไปส่งโรงพยาบาลซึ่งเขาเล่าว่ามีความอลหม่านไปทั่วด้านใน
“ผมเห็นคนจำนวนมากร้องไห้” และกล่าวต่อว่าทหารอิสราเอลมักวิ่งเข้าไปในห้องฉุกเฉิน อาการบาดเจ็บนั้นกระสุนทะลุเข้าไปตัดเส้นเอ็นแต่ไม่ทำอันตรายต่อกระดูก การรักษาไม่ได้รับยาแก้ปวดหรือการฉีดยา และทำให้เขาเดินทางกลับบ้านและรับประทานยาแก้ปวดพาราแทน
รัฐบาลไทยรายงานเป็นทางการถึงยอดผู้เสียชีวิต 21 คนล่าสุด และโดนจับเป็นตัวประกันอีก 16 ราย กรัชกรรำพึงอย่างไม่เชื่อว่า “ผมไม่รู้เลยว่าผมรอดชีวิตมาได้อย่างไร..ผมไม่อยากเชื่อเลยว่ารอดครั้งนี้มาได้”
ไทม์สออฟอิสราเอลรายงานว่า เทลอาวีฟทำสงครามย่างเข้าสู่วันที่ 6 ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตในฝั่งอิสราเอลอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 1,300 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ผู้บาดเจ็บกว่า 3,300 คน และคาดว่าจำนวนตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสจับไปมีอยู่ราว 200 คน ชะตากรรมของคนเหล่านี้ยังไม่ทราบ
เดอะการ์เดียนรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์แถลงตัวเลขผู้เสียชีวิตในเขตฉนวนกาซาอยู่ที่ 1,200 คนในช่วงต้นวันพฤหัสบดี (12) รวมถึง 51 คนที่เสียชีวิตในปฏิบัติการโจมตีแบบปูพรมของอิสราเอลในช่วงข้ามคืนจนถึงก่อนรุ่งสาง
อัลญะซีเราะห์ สื่อกาตาร์รายงานว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แถลงก่อนที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน จะเดินทางถึงกรุงเทลอาวีฟพบว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตของพลเมืองสหรัฐฯ เพิ่มเป็น 22 คนล่าสุด ขณะที่มีอีก 17 คนไม่สามารถติดต่อได้
ไทม์ออฟอิสราเอลรายงานว่า บลิงเคนพบกับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮูในวันนี้ (12) พร้อมทั้งจับมืออย่างให้กำลังใจ เขากล่าวว่า “ผมรู้สึกดีใจที่ได้พบคุณอีกครั้ง ผมขอแสดงความเสียใจต่อสถานการณ์เหล่านี้” และเสริมต่อว่า “พวกเราอยู่ที่นี่แล้ว พวกเราจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”
เดอะการ์เดียนรายงานว่า หลังจากที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้พบกับฝ่ายอิสราเอลแล้ว เขามีกำหนดพบกับประธานาธิบดีปาเลสไตน์ มาห์มูด อับบาส ต่อไป ซึ่งสถานการณ์การสู้รบยังคงตึงเครียด โฆษกกองทัพอิสราเอลแถลงล่าสุดว่า กลุ่มติดอาวุธฮามาสยังคงพยายามที่จะบุกเข้าอิสราเอลจากทางทะเล
โฆษกยังเปิดเผยว่า กองกำลังทหาร IDF อิสราเอลได้ปิดล้อมฉนวนกาซาไว้แล้วจะไม่มีใครสามารถเข้าและออกได้ หากมีคนพยายามเข้าไปหรือออกมาจะถูกยิงทันที พร้อมกันนี้ กองทัพกำลังเตรียมพร้อมสำหรับเฟสต่อไป โดยจะรอสัญญาณไฟเขียวจากเนทันยาฮู สำหรับการบุกทางภาคพื้น
