เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ผู้นำโลกตะวันตกยักษ์ใหญ่ 5 ชาติออกแถลงการณ์ร่วมวันจันทร์ (9 ต.ค.) แสดงการสนับสนุนต่อ “อิสราเอล” ในความพยายามของเทลอาวีฟเพื่อป้องกันตัวเองหลังถูกโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัวจากกลุ่มติดอาวุธฮามาส ขณะที่สถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงเทพฯ ร่อนแถลงการณ์เป็นภาษาไทยสำหรับแถลงการณ์ร่วมเรื่องสถานการณ์ในอิสราเอล
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันจันทร์ (9 ต.ค.) ว่า หลังจากการหารือทางโทรศัพท์ครั้งสำคัญในวันจันทร์ (9) ร่วมกันระหว่างผู้นำโลกตะวันตก 5 ชาติ ได้แก่ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ริชี ซูแน็ก ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง นายกรัฐมนตรีเยอรมนี โอลาฟ ชอลซ์ และนายกรัฐมนตรีอิตาลี จอร์เจีย เมโลนี โดยแถลงการณ์ร่วมที่ออกมาในสถานการณ์อิสราเอล-ปาเลสไตน์นี้ พบว่าผู้นำชาติทั้ง 5 ประกาศให้การสนับสนุนอิสราเอลอย่างรวดเร็วและร่วมกัน และแถลงประณามต่อกลุ่มติดอาวุธฮามาส
โดยในวันอาทิตย์ (8) หรือ 1 วันหลังเกิดเหตุรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน ออกคำสั่งเคลื่อนกองกำลังกองทัพเรือสหรัฐฯ รวมกองเรือบรรทุกข์เครื่องบินสหรัฐฯ เข้าไปใกล้ทางตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพื่อการป้องปราม
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีอังกฤษเมื่อช่วงต้นของวันจันทร์ (9) เปิดเผยว่า เขาจะออกคำสั่งให้การสนับสนุนแก่อิสราเอลทั้งทางการทูต ข่าวกรอง และทางความมั่นคง หากมีการร้องขอเกิดขึ้นหลังนั่งเป็นประธานประชุมฉุกเฉินคอบบร้า
ซึ่งสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงเทพฯ ร่อนแถลงการณ์เป็นภาษาไทยบนเว็บไซต์ทางการของสถานทูตในวันจันทร์ (9) สำหรับแถลงการณ์ร่วมเรื่องสถานการณ์ในอิสราเอลโดยมีใจความดังนี้
"วันนี้ ผู้นำของฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ออกแถลงการณ์ร่วมภายหลังการหารือกันดังต่อไปนี้
วันนี้ พวกเรา — ประธานาธิบดีมาครงของฝรั่งเศส นายกรัฐมนตรีชอลซ์ของเยอรมนี นายกรัฐมนตรีเมโลนีของอิตาลี นายกรัฐมนตรีซูนัคของสหราชอาณาจักร และประธานาธิบดีไบเดนของสหรัฐอเมริกา – ต่างแสดงการสนับสนุนอย่างแน่วแน่และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันต่อรัฐอิสราเอล และประณามกลุ่มฮามาสและการก่อการร้ายอันน่าสะพรึงกลัวของกลุ่มดังกล่าว
เราขอแถลงอย่างชัดเจนว่าการกระทำของผู้ก่อการร้ายกลุ่มฮามาสนั้นไร้เหตุผล ขาดความชอบธรรม และพึงถูกประณามจากประชาคมโลก ไม่มีเหตุผลใดจะสามารถนำมาใช้เป็นข้ออ้างเพื่อสร้างความชอบธรรมให้การก่อการร้าย ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทั่วโลกต่างได้ร่วมรับรู้เหตุการณ์อันโหดเหี้ยมที่กลุ่มฮามาสสังหารหมู่ผู้คนหลายครอบครัวในบ้านเรือนของพวกเขา เข่นฆ่าคนหนุ่มสาวกว่า 200 คนที่ไปร่วมงานเทศกาลดนตรี และจับผู้หญิงสูงอายุ เด็ก และคนทั้งครอบครัวไปเป็นตัวประกัน
ประเทศของเราจะสนับสนุนอิสราเอลในความพยายามที่จะปกป้องตนเองและประชาชนของตนจากความโหดร้ายดังกล่าว เราขอเน้นย้ำว่านี่ไม่ใช่เวลาที่ฝ่ายใดก็ตามซึ่งเป็นปฏิปักษ์ต่ออิสราเอลจะฉวยโอกาสจากการโจมตีเหล่านี้เพื่อผลประโยชน์ของตน
เราทุกคนตระหนักถึงความปรารถนาอันชอบธรรมของชาวปาเลสไตน์และสนับสนุนมาตรการเพื่อความยุติธรรมและเสรีภาพที่เท่าเทียมกันสำหรับทั้งชาวอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์ แต่ทั้งนี้ โปรดระลึกว่า กลุ่มฮามาสมิได้เป็นตัวแทนที่สะท้อนความปรารถนาดังกล่าวและมิได้สร้างประโยชน์ใดแก่ชาวปาเลสไตน์ หากแต่เป็นผู้ก่อให้เกิดความหวาดกลัวและเหตุนองเลือด
จากนี้ไป เราจะยังคงร่วมมือเป็นหนึ่งเดียวกันในฐานะพันธมิตรและเพื่อนของอิสราเอล เพื่อให้อิสราเอลสามารถปกป้องตนเองได้ และเพื่อสร้างปัจจัยหนุนสันติภาพและความเป็นหนึ่งเดียวกันของภูมิภาคตะวันออกกลางในท้ายที่สุด”
เดอะการ์เดียนวิเคราะห์แถลงการณ์โดยชี้ไปว่า ถึงแม้ว่าตัวแถลงการณ์ร่วมของผู้นำ 5 ชาติโลกตะวันตกจะประณามกลุ่มฮามาส แต่แถลงการณ์ยังคง “ยอมรับ” ความปรารถนาอันชอบธรรมของประชาชนชาวปาเลสไตน์ในเขตฉนวนกาซา
ขณะที่ haaretz สื่ออิสราเอลรายงานวานนี้ (10) ถึงแถลงการณ์ร่วมนี้เช่นกันเหมือนสื่อสารออกไปให้ประชาชนยิวรับทราบ
โดยรายงานย้ำว่าตามแถลงการณ์ร่วมจากบรรดาผู้นำชาติตะวันตกยักษ์ใหญ่ทั้ง 5 ชาติได้ชี้ไปว่า ประเทศตะวันตกทั้ง 5 ชาติทั้งหลายจะสนับสนุน อิสราเอล ในความสามารถของตัวเองที่จะปกป้องตัวเองและต่อประชาชนชาวยิว และ haaretz ยังชี้ไปที่แถลงการณ์ร่วมที่ได้ย้ำให้เห็นว่า "นี่ไม่ใช่เวลาที่ฝ่ายใดก็ตามซึ่งเป็นปฏิปักษ์ต่ออิสราเอลจะฉวยโอกาสจากการโจมตีเหล่านี้เพื่อผลประโยชน์ของตน" เหมือนจะส่งสารจากเทลอาวีฟออกไปกลายๆ ต่ออิหร่านที่เป็นอริของเทลอาวีฟ