อิสราเอลส่งสัญญาณเตรียมพร้อมยกระดับโจมตีกลุ่มฮามาสด้วยปฏิบัติการทางทหารภาคพื้นดิน ขณะที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ประกาศหนุนหลังอิสราเอลเต็มที่ พร้อมฝากคำเตือนไปถึงมหาอำนาจรายอื่นๆ ที่อาจกำลังคิด “ฉวยโอกาส” จากสถานการณ์ความขัดแย้งครั้งนี้
รัฐบาลอิสราเอลระบุว่า ได้มีการส่งเครื่องบินขับไล่กว่าสิบลำเข้าไปโจมตีเป้าหมายกว่า 200 จุดตลอดค่ำคืนที่ผ่านมา (11 ต.ค.) ในเขตกาซาซิตี้ (Gaza City) ซึ่งถูกกลุ่มฮามาสใช้เป็นฐานในการยิงจรวดเข้ามาโจมตีดินแดนของอิสราเอล
กระทรวงสาธารณสุขกาซารายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดในฝั่งปาเลสไตน์อยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 900 คน บาดเจ็บอีก 4,600 คน ขณะที่กองทัพอิสราเอลแถลงยอดผู้เสียชีวิตในฝั่งอิสราเอลเพิ่มขึ้นเป็น 1,200 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกราวๆ 2,700 คน
“ฝ่ายเรามีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก” พ.ท.โจนาธาน คอนริคัส โฆษกกองทัพอิสราเอล โพสต์ข้อความผ่าน X
เหยื่อส่วนใหญ่เป็นพลเรือนซึ่งถูกยิงตายในบ้านตัวเอง ตามท้องถนน หรือแม้แต่ในงานเต้นรำกลางแจ้ง และยังมีชาวอิสราเอลรวมถึงชาวต่างประเทศอีกจำนวนหนึ่งถูกกลุ่มฮามาสจับไปเป็นตัวประกัน
โฆษกฮามาสออกมาแถลงขู่เมื่อวันจันทร์ (10) ว่าจะสังหารตัวประกันชาวอิสราเอล 1 คนในทุกๆ ครั้งที่บ้านเรือนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาถูกโจมตีโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ทว่าจนถึงค่ำวันอังคาร (10) ก็ยังไม่มีรายงานการสังหารตัวประกันเกิดขึ้น
โยอัฟ กัลลันต์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอิสราเอล กล่าวกับบรรดาทหารใกล้ๆ กับแนวรั้วที่กั้นชายแดนอิสราเอลกับฉนวนกาซา โดยบอกว่า “ฮามาสต้องการความเปลี่ยนแปลง พวกเขาก็จะได้มัน สิ่งที่เคยมีอยู่ในกาซาจะไม่มีอีกต่อไป”
“เราได้เริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศแล้ว และต่อไปเราก็จะจู่โจมภาคพื้นดิน เราสามารถควบคุมพื้นที่ไว้ได้ตั้งแต่วันที่ 2 และเราอยู่ระหว่างปฏิบัติการโจมตี ซึ่งมีแต่จะยกระดับขึ้นเรื่อยๆ”
อิสราเอลถอนทหารออกจากฉนวนกาซาเมื่อปี 2005 หลังจากที่ยึดครองมานานถึง 38 ปี ทว่ายังคงใช้มาตรการปิดล้อมต่างๆ อยู่หลังจากที่กลุ่มฮามาสก้าวขึ้นมาปกครองพื้นที่นี้เมื่อปี 2007
ล่าสุด รัฐบาลอิสราเอลได้ประกาศมาตรการปิดล้อมแบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งจะทำให้มีการตัดน้ำ ไฟฟ้า เชื้อเพลิง และอาหารที่จะเข้าไปยังดินแดนแห่งนี้
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวด้านความมั่นคง 3 คนให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ว่า มีจรวดจากฝั่งเลบานอนถูกยิงข้ามเข้ามายังพื้นที่ตอนเหนือของอิสราเอล ซึ่งทำให้กองทัพต้องมีการยิงตอบโต้ และยังมีกระสุนปืนใหญ่ถูกยิงมาจากฝั่งซีเรียด้วย ซึ่งทำให้หลายฝ่ายเริ่มกังวลว่าการสู้รบครั้งนี้อาจลุกลามขยายวงจนกลายเป็นสงครามระดับภูมิภาค
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ออกมาประณามปฏิบัติการโจมตีของกลุ่มฮามาสว่าเป็นการกระทำที่เลวทรามอย่างที่สุด (an act of sheer evil) พร้อมระบุว่าวอชิงตันกำลังเร่งส่งความช่วยเหลือทางทหารให้แก่อิสราเอล ซึ่งรวมถึงกระสุนพิสัยไกล และขีปนาวุธสกัดกั้นเพื่อเติมเต็มให้แก่ระบบป้องกันภัยทางอากาศ ‘ไอเอิร์น โดม’ (Iron Dome) ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้อิสราเอลใช้มาตรการตอบโต้ที่เป็นไปตาม “กฎของสงคราม”
ไบเดน บอกกับผู้สื่อข่าวว่า สหรัฐฯ ได้ยกระดับจุดยืนทางทหารในภูมิภาคเพื่อเสริมการป้องปราม ซึ่งรวมถึงการส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินและเครื่องบินขับไล่เข้าไปประชิดอิสราเอล
“ผมขอเตือนอีกครั้งไปยังประเทศ องค์กร หรือใครก็ตามที่กำลังคิดฉวยโอกาสจากสถานการณ์นี้ ผมขอพูดสั้นๆ เลยว่า อย่า” ไบเดน กล่าว ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการส่งสัญญาณไปถึงอิหร่านและบรรดากลุ่มตัวแทนในภูมิภาค
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เองย้ำว่าพวกเขา “ยังไม่พบหลักฐาน” ว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังปฏิบัติการโจมตีของกลุ่มฮามาส แต่ก็ชี้ว่าเตหะรานให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์กลุ่มนี้มานานแล้ว
ที่มา : รอยเตอร์