รอยเตอร์/เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ทางการไทยวันพุธ (4 ต.ค.) แถลงเตรียมฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติท่ามกลางกระแสความวิตกถึงความปลอดภัยของต่างชาติ พบนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยตามโครงการฟรีวีซ่าที่เพิ่งเปิดตัว ด้านสิงคโปร์ประกาศเตือนพลเมืองให้ระมัดระวังระหว่างอยู่ในไทย ขณะที่พนักงานพ่อครัวภัตตาคารชั้น 4 ของห้างชาวพม่า ยืนยันกับสื่อมาเลย์ เชื่อมือปืนวัย 14 ปี ยิงร่วม 20 นัด
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (4 ต.ค.) ว่า เหตุการณ์ระทึกครั้งกลางกรุงเย็นวานนี้ (3) ที่ห้างสยามพารากอนซึ่งเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเป็นหนึ่งในจุดหมายเป็นที่รู้จักทางการท่องเที่ยวชื่อดัง แต่ทว่าการเสียชีวิต 2 คนที่เกิดขึ้นซึ่งเป็นชาวต่างชาติ 2 คนที่ 1 ในนั้นเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนสร้างความวิตก
นิกเกอิเอเชียรายงานว่า ความวิตกถูกชี้จากหุ้นโรงแรมและการท่องเที่ยวที่ตกลงอย่างหนักในช่วงเปิดของการซื้อขายตลาดหลักทรัพย์วันพุธ (4) จากการที่บรรดานักลงทุนต่างเทขายหุ้นด้วยความวิตกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้นจะลดลงหลังจากนี้โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนซึ่งรัฐบาลไทยเพิ่งเปิดโครงการฟรีวีซ่าเพื่อเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเข้ามา
จีนถือเป็นนักท่องเที่ยวแหล่งใหญ่สุดในการเดินทางเข้าไทยในช่วงก่อนเกิดโควิด-19
บลูมเบิร์ก รายงานเมื่อวันจันทร์ (2) ว่า บริษัทสายการบินไทยแอร์เวย์สเปิดเผยว่า เที่ยวบินจากจีนเต็ม 90% หลังรัฐบาลเริ่มใช้มาตรการฟรีวีซ่า
อ้างอิงจากการรายงานของบีบีซีภาคภาษาไทย รัฐบาลเปิดเผยว่านักท่องเที่ยวจีนที่เสียชีวิตเดินทางเข้าประเทศตามโครงการฟรีวีซ่าที่เพิ่งเดินหน้าใช้สัปดาห์ก่อน
รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ได้ตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน (Situation Command Center) แต่ในเวลานี้ยังไม่มีรายงานถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากตลาดจีน
รอยเตอร์รายงานว่า ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าหน่วยงานรัฐจะพยายามมากขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ
"พวกเราจำเป็นต้องปรัปปรุงความปลอดภัยในทุกด้านสำหรับทั้งนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ" แต่ทว่าไม่ได้เปิดเผยต่อในรายละเอียดถึงมาตรการดังกล่าว
ขณะที่เศรษฐา ได้แถลงให้คำมั่นในคืนวานนี้ (3) ซึ่งเป็นคืนเกิดเหตุผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า รัฐบาลของเขาจะบังคับใช้มาตรการความปลอดภัยขั้นสูงสุดเพื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ซึ่งปัญหาความรุนแรงจากอาวุธปืนและการครอบครองอาวุธปืนไม่ใช่เรื่องใหม่ในไทย ซึ่งหลังเกิดเหตุโซเชียลมีเดียต่างตั้งคำถามไปถึงมือปืนวัย 14 ปี ที่สามารถครอบครองอาวุธปืนแบลงก์ที่ถูกดัดแปลงและใช้เป็นอาวุธก่อเหตุฆ่าคนตาย รวมไปถึงภาพการฝึกซ้อมยิงที่สนามซ้อมยิงปืนนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร
รอยเตอร์กล่าวว่า การตรวจสอบความปลอดภัยตามพื้นที่สาธารณะในไทย ซึ่งรวมไปถึงศูนย์การค้าและระบบการขนส่งมวลชนค่อนข้างหละหลวม
รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมทรง สัจจาภิมุข (Somsong Sachaphimukh) ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า “สิ่งนี้กระทบต่อความเชื่อมั่นทางการท่องเที่ยวและจะกระทบต่อชื่อเสียงของเรา”
และกล่าวต่อว่า “ในอดีตมีการบ่นถึงความปลอดภัยจากจีน แต่นี่ถือเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง”
ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาในประเทศในปี 2019 อยู่ที่ 11 ล้านคน จากจำนวน 39.9 ล้านคนทั้งหมด แต่ทว่าการเดินทางกลับเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวจีนหลังวิกฤตโควิด-19 นั้นช้าส่งผลทำให้รัฐบาลตัดสินใจเปิดโครงการฟรีวีซ่าขึ้นก่อนเทศกาลหยุดยาวของจีน
ไทยเห็นตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศระหว่างมกราคม-ตุลาคมปีนี้อยู่ที่ 20 ล้านคน และมีการใช้จ่ายในประเทศจำนวน 839 พันล้านดอลลาร์ (22.58 พันล้านดอลลาร์) และไทยมีเป้าหมายต้องการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในปีนี้ให้ถึง 29 ล้านคน
แต่ทว่าในจีนเริ่มมีความวิตกมากขึ้นถึงสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยในไทยแล้ว รอยเตอร์กล่าว
ชาวเซินเจิ้นวัย 28 ปี แซ่ซ่ง (Song) แสดงความเห็นว่า “ก่อนหน้าผมเคยคิดถึงการมาท่องเที่ยวในไทยแต่หลังจากได้เห็นข่าวเมื่อคืนนี้ผมไม่คิดว่าจะดีมากหรือปลอดภัย ดังนั้นผมคงไม่คิดว่าจะไป”
และเสริมต่อว่า “เวลานี้ผมวางแผนที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวภายในประเทศมากกว่า”
นอกเหนือจากชาวจีนที่วิตกในความปลอดภัยแล้ว 1 วันหลังเกิดเหตุพบว่าพลเมืองสิงคโปร์ในกรุงเทพฯ ได้รับคำแนะนำให้ระมัดระวังตัวด้วยเช่นกัน
CNA สื่อสิงคโปร์รายงานว่า กระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ในวันพุธ (4) ว่า สถานทูตสิงคโปร์ประจำกรุงเทพฯ ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ไทยเพื่อตรวจสอบว่ามีพลเมืองของตัวเองได้รับผลกระทบในเหตุการณ์กราดยิงห้างสยามพารากอนหรือไม่
ซึ่งปัจจุบันยังไม่พบรายงาน และกล่าวต่อว่า “พลเมืองสิงคโปร์ในกรุงเทพฯ ได้รับคำแนะนำให้ระมัดระวัง มอนิเตอร์ข่าวในพื้นที่และทำตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น”
ทั้งนี้ สตาร์ออนไลน์ของมาเลเซียรายงานวันพุธ (4) ว่า พนักงานห้างสยามพารากอน ซานโตช (Santhosh) วัย 20 ปี ซึ่งทำหน้าที่เป็นพ่อครัวให้ภัตตาคารหนึ่งบนชั้น 4 เปิดเผยว่า ทั้งตัวเขาและเพื่อนร่วมงานต่างได้ยินเสียงดังขึ้นมาและพากันคิดว่าเกิดเหตุการต่อสู้กันขึ้น
“แต่ทว่าผู้จัดการของพวกเราได้ตะโกนสั่งให้พวกเราหมอบลงให้ต่ำและซ่อนตัว”
และเขาประเมินต่อว่า “ต้องมีการยิงออกไปราว 20 นัด”
สตาร์ออนไลน์รายงานว่า พ่อครัวพม่าสามารถหนีออกไปจากห้างทางบันไดฉุกเฉินและออกไปจนถึงลานจอดรถได้สำเร็จในที่สุดท่ามกลางความอกสั่นขวัญหาย
ห้างสยามพารากอนกลับมาเปิดอีกครั้งในวันนี้ (4) สื่อในประเทศชี้ว่า ลูกค้าทั้งไทยและต่างประเทศดูบางตา ขณะที่ห้างได้พยายามปรับปรุงให้ทุกสิ่งกลับมาเหมือนเดิม มีการเปลี่ยนกระจกใหม่ รวมไปถึงเพิ่มการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดที่มีการสแกนบริเวณทางเข้าและออกในทุกประตู
นักท่องเที่ยวจีน ต่ง เป่ยเจียน (Dong Peijian) วัย 34 ปี กล่าวกับรอยเตอร์ในตอนท้ายของรายงานว่า เขารู้สึกตกใจกับเหตุกราดยิง พร้อมกับแสดงความเห็นว่า “เหตุการณ์ยิงเช่นนี้..จะทำให้ชาวจีนต้องกลับไปคิดใหม่และเลือกการเดินทางพักผ่อนที่ประเทศอื่นแทน”