ทางการฟิลิปปินส์กำลังเร่งสอบสวนกรณีเรือประมงถูกชนจนอับปางกลางทะเลจีนใต้ ซึ่งทำให้ชาวประมงฟิลิปปินส์เสียชีวิตไป 3 ราย
ประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ แถลงผ่านแพลตฟอร์ม X วันนี้ (4 ต.ค.) ว่า “เราขอยืนยันต่อเหยื่อ ครอบครัว และทุกๆ คนว่าเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ครั้งนี้”
ยามฝั่งฟิลิปปินส์ (PCG) แถลงวันนี้ (4) ว่า เรือประมงฟิลิปปินส์ได้พุ่งชนเข้ากับเรือบรรทุกน้ำมันซึ่งจดทะเบียนและติดธงหมู่เกาะมาร์แชลล์ โดยเบื้องต้นคาดว่าเป็นการชนกันโดยอุบัติเหตุ (accidental collision) และเจ้าหน้าที่ยามฝั่งได้ติดต่อประสานไปยังเรือคู่กรณีแล้ว
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ (2) โดยจุดที่เรือชนกันนั้นอยู่ห่างจากสันดอนสการ์โบโรห์ (Scarborough Shoal) ซึ่งเป็นเขตพื้นที่พิพาทระหว่างจีนและฟิลิปปินส์ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 85 ไมล์ทะเล (157 กิโลเมตร) และมีลูกเรือชาวฟิลิปปินส์รอดชีวิต 11 รายหลังจากที่เรืออับปางลง
สถานการณ์ในทะเลจีนใต้กลับมาตึงเครียดหนักในระยะนี้ หลังจากที่ฟิลิปปินส์ได้ทำการรื้อถอนทุ่นลอยน้ำที่จีนเอามาใช้กีดขวางบริเวณสันดอนสการ์โบโรห์ ซึ่งเป็นทั้งแหล่งปลาชุมและหนึ่งในภูมิประเทศทางทะเล (maritime features) ที่มีการอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนรุนแรงที่สุดในเอเชีย
รัฐบาลจีนปฏิเสธข้อมูลที่ฟิลิปปินส์ออกมาอ้างเกี่ยวกับทุ่นลอยน้ำดังกล่าว ในขณะที่สหรัฐฯ รีบออกมาประกาศหนุนหลังมะนิลา พร้อมยืนยันว่าจะปฏิบัติตามพันธกรณีในการช่วยปกป้องชาติพันธมิตรรายนี้หากถูกโจมตี
สันดอนสการ์โบโรห์ซึ่งถูกตั้งชื่อตามเรือสินค้าอังกฤษที่ล่องเข้ามาเกยตื้นที่นี่เมื่อช่วงศตวรรษที่ 18 ตั้งอยู่ภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ของฟิลิปปินส์ แต่ถูกจีนเข้าควบคุมไว้ตั้งแต่ปี 2012 และจีนก็มีการส่งเรือยามฝั่งและกองเรือประมงเข้าไปแสดงสิทธิ์เหนือพื้นที่ดังกล่าวเรื่อยมา
ที่มา: รอยเตอร์
