ราคาน้ำมันโลกในช่วงระหว่างเดือนกรกฏาคมถึงกันยายน ดีดตัวขึ้นอย่างมากเกือบ 30% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส เนื่องจากอุปทานมีจำกัด ตามหลังโอเปกและพันธมิตรที่นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องลดกำลังผลิต
รายงานข่าวของอาร์ทีนิวส์ ระบุว่าแม้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 0.1% สู่ระดับ 95.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันศุกร์(29ก.ย.) แต่ตลอดทั้งสัปดาห์ มันดีดตัวขึ้น 2.2% และหากนับตลอดทั้งเดือน มันพุ่งขึ้น 9.7% และยิ่งไปกว่านั้น หากนับเป็นรายไตรมาส ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะยานขึ้นถึง 27.3%
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1% ปิดที่ 90.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตลอดทั้งสัปดาห์ ดีดตัวขึ้น 0.8% ตลอดเดือนเพิ่มขึ้น8.6% และรายไตรมาส พุ่งขึ้น 28.5%
พวกผู้เชี่ยวชาญคาดหมายว่าคำแถลงปรับลดกำลังผลิตของโอเปกและพันธมิตรที่เรียกว่าโอเปกพลัส จะครอบงำตลาดน้ำมันโลกไปจนถึงสิ้นปี และราคาน้ำมันจะคงอยู่ในระดับสูงต่อไป ในขณะที่คณะกรรมการร่วมตรวจสอบในระดับรัฐมนตรี (Joint Ministerial Monitoring Committee) ของพันมิตรกลุ่มนี้ มีกำหนดประชุมกันนัดถัดไปในวันที่ 4 ตุลาคม
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกันยายน ซาอุดีอาระเบีย ผู้ผลิตยักษ์ใหญ่และผู้นำโดยพฤตินัยของโอเปก ขยายขอบเขตมาตรการลดกำลังผลิตโดยสมัครใจ 1 ล้านบาร์เรล ออกไปจนถึงสิ้นปีนี้ ส่วน รัสเซีย พันธมิตรในโอเปกพลัสและผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก ก็ประกาศเมื่อไม่นานที่ผ่านมาเช่นกันว่า จะขยายขอบเขตลดการส่งออกน้ำมันโดยสมัครใจ ลงอีก 300,000 บาร์เรลต่อวันไปจนถึงสิ้นปี
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลรัสเซียยังได้บังคับใช้มาตรการแบนชั่วคราว ห้ามขายดีเซลและเบนซินแก่ต่างประเทศ โดยอ้างว่าเพื่อรักษาเสถียรภาพแก่ตลาดเชื้อเพลิงภายในประเทศ
นอกจากนี้แล้ว ยังมีความกังวลโดยเฉพาะกับภาวะอุปทานตึงตัวที่เมืองคุชชิง รัฐโอคลาโฮมา ศูนย์ส่งมอบน้ำมันสัญญาเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หลังพบว่าคลังสำรอง ณ จุดดังกล่าว ลดลง 943,000 บาร์เรล ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายน สืบเนื่องจากอัตราการกลั่นระดับสูงและอุปสงค์การส่งออก
(ที่มา:อาร์ทีนิวส์)