หมดสภาพ! สหรัฐฯ ยอมรับล้มเหลวจัดการมอสโก หลังราคาน้ำมันดิบรัสเซียพุ่งทะลุเพดาน

มาตรการควบคุมเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย ที่กำหนดโดยกลุ่มจี7 ไม่ได้ผลดังที่ตั้งใจไว้ จากการยอมรับของ เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังอเมริกาเมื่อวันศุกร์ (29 ก.ย.) ตามรายงานของบลูมเบิร์ก โดยเธอชี้ถึงราคาตลาดสำหรับน้ำมันดิบส่งออกของรัสเซียที่ยังคงอยู่ในระดับสูง

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมปีก่อน อียู จี7 และออสเตรเลีย ได้เริ่มบังคับใช้มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันดิบรัสเซียที่ส่งมอบทางทะเลไม่เกิน 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยห้ามเหล่าบริษัทตะวันตกมอบประกันภัยและบริการอื่นๆ แก่บรรดาเรือที่บรรทุกน้ำมันดิบรัสเซีย ยกเว้นแต่น้ำมันดิบเหล่านี้จะถูกซื้อในราคา 60 ดอลลาร์ หรือต่ำกว่านั้น

กลไกนี้มีเจตนาบีบให้รัสเซียยังจำเป็นต้องส่งออกน้ำมันในปริมาณมาก เพื่อป้องกันไม่ให้ราคาน้ำมันโลกพุ่งสูง แต่ขณะเดียวกัน เป็นการตัดทอนรายได้ของมอสโกที่ได้จากการขายน้ำมันดิบ

"มีข้อมูลบ่งชี้ว่าผลกระทบของมาตรการกำหนดเพดานราคาลดประสิทธิภาพลง" เยลเลน กล่าวระหว่างเยือนจอร์เจีย ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวรายหนึ่ง ซึ่งสอบถามเกี่ยวกับน้ำมันดิบรัสเซีย ที่เวลานี้แกว่งตัวอยู่ราวๆ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เหนือกว่าระดับเพดานราคา 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอย่างมาก

รายงานของบลูมเบิร์กระบุว่า เบื้องต้นมอสโกพยายามหาเรือขนส่งและผู้บริการประกัยภัยรายอื่นแทน และท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาประสบความสำเร็จในการค้นหาทางเลือกอื่นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

"รัสเซียทุ่มทั้งเงิน เวลาและความพยายามในการจัดหาการบริการต่างๆ แก่การส่งออกน้ำมันดิบของพวกเขา" เยลเลนเผย "พวกเขาเพิ่มเติมกองเรือเงา จัดหาประกันภัยเพิ่มเติม และรูปแบบการค้าอื่นๆ ที่ไม่ถูกห้ามโดยมาตรการกำหนดเพดานราคา"

รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ให้สัญญาว่าจะยกระดับความพยายามขัดขวางรัสเซียจากการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดต่างๆ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดอย่างเจาะจงเกี่ยวกับมาตรการใหม่ใดๆ "เราพร้อมยิ่งกว่าพร้อมที่จะดำเนินการ" เธอกล่าว และระบุว่า จี7 พร้อมพิจารณาหนทางต่างๆ ที่จะทำให้นโยบายนี้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

(ที่มา : บลูมเบิร์ก)