เจาะลึก ‘อุบัติเหตุไมโครโฟน’ ทำ ‘ดัชเชสเมแกน’ อับอายหน้าแตกบนเวทีที่คฤหาสน์เควิน คอสต์เนอร์ หลังเอื้อมมือคว้าไมค์ แต่พิธีกรไม่ให้!!

ดัชเชสเมแกนแห่งซัสเซกซ์เสียหน้าครั้งหฤโหดใน “อุบัติเหตุไมโครโฟนไม่ใช่ของคุณ” บนเวทีอีเวนต์ระดมเงินบริจาค “One805 Live!” ที่ เควิน คอสต์เนอร์ เป็นซูเปอร์โต้โผ และเนืองแน่นด้วยซุปตาร์ระดับ A-Lister เมื่อพิธีกรสาวใหญ่ถือไมโครโฟนเดินสวนกับเธอและพระสวามีแฮร์รี ซึ่งเพิ่งขึ้นเวทีในคิวที่จะทำหน้าที่มอบของที่ระลึก แต่ดัชเชสทึกทักไปเองว่าเธอคงได้คิวเพิ่ม อาจเป็นประมาณว่าจะให้กล่าวเป็นเกียรติอะไรสักอย่าง และจึงก้าวเข้าหา ขณะที่มือขวาก็เอื้อมไปกุมไมค์ฯ หมายจะดึงมาให้ตนเอง

แต่แล้ว ดัชเชสก็ต้องหน้าเสียสุดช็อก เพราะคุณพิธีกร ซึ่งเป็นอเมริกันผู้ตรงไปตรงมา คิดอย่างไร-ทำอย่างนั้น ยึดไมค์ฯ อันทรงคุณค่า ไว้แน่นเลย

บุญของท่านพระเอกสุดหล่ออมตะ เควิน คอสต์เนอร์ ผู้จัดอีเวนต์ ที่ไม่เกิดศึกชิงไมค์ฯ ขึ้นกลางเวที โดยดัชเชสคนดังได้สติ และยอมรักษากิริยาโดยเป็นฝ่ายปล่อยไมค์ฯ ขณะที่พิธีกรสาวใหญ่เดินต่อไปยังริมเวทีข้างขวาสุด ท่ามกลางการบันทึกคลิปของบรรดาผู้ที่ซื้อตั๋วเข้าร่วมกิจกรรมบริจาคสนับสนุนกองทุนช่วยเหลือนักกู้ภัยและดับเพลิงทั่วประเทศ อันเป็นอีเวนต์ประจำปีของคนวีไอพีถิ่นมอนเตซิโต เคาน์ตีซานตาบาร์บารา จีบีนิวส์ สื่อยักษ์อังกฤษ รายงาน



แน่นอนว่าช็อตจี๊ดจ๊าดนี้ มีหรือจะพลาดสายตาคมกริ๊บทั้งปวง

คลิป “อุบัติเหตุไมโครโฟนไม่ใช่ของคุณ” ที่บันทึกอยู่ในสารพัดโทรศัพท์มือถือ ถูกนำขึ้นโพสต์บนโซเชียลมีเดีย และแชร์ต่อๆ กันไปจนกลายเป็นไวรัลดั่งไฟลามทุ่งในค่ำคืนศุกร์ที่ 22 กันยายน 2023 พร้อมกันนั้น คลิปหลักของงานยังถูกเผยแพร่อย่างเป็นทางการบนอินสตาแกรมของนิตยสารซานตาบาร์บาราด้วย

เท่านั้นเอง เหล่านักวิจารณ์แห่งยูทูปแห่กันนำคลิปไปต่อยอดและฟาดข่าวตอกย้ำว่า ดัชเชสเมแกนเป็นคนหลงตนเองและหิวแสง พอเห็นไมค์ลอยมาหา ใจก็ทะยานไปเชื่อโดยพลันว่าเอ็มซีของงานอยากได้รับเกียรติจากคนโด่งดังระดับดัชเชส ให้ช่วยปราศรัยฟังชื่นใจกันสักหน่อย เธอจึงพลาดท่า และลงเอยด้วยความเสียหน้าบนเวทีให้สาธารณชนหัวเราะกัน

ยิ่งกว่านั้น รายการทีวียอดฮิตทั้งสองฟากฝั่งแอตแลนติด พากันเล่นหนัก โดยไม่ได้เช็คข้อมูลเลยว่าเธอและพระสวามีก้าวขึ้นเวทีกิจกรรมในอาณาจักร 10 เอเคอร์ของเควิน คอสต์เนอร์ ตามคำเชิญที่พิธีกรประกาศออกไมค์ มิได้มั่วนิ่มตีเนียนขึ้นไป

ทั้งนี้ รายการทีวีสีสันฉูดฉาดแห่งแดนผู้ดี “แดน วูตตัน ทูไนท์” ช่องจีบีนิวส์ นำคลิปเสียฟอร์มของดัชเชสเมแกน ขึ้นวิเคราะห์ด้วยกันกับ ทอม บาวเออร์ ผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์อังกฤษ โดยกูรูบาวเออร์ย้ำเลยว่า ดัชเชสเมแกนถูกหักหน้ายับเยินเหลือเกิน

“คือ มันก็ฮามากนะครับ ดัชเชสเมแกนคิดจริงๆ ว่าพอเธอจ่ายค่าตั๋วราคาวีไอพีร่วมสมทบกองทุนไป 12,000 ดอลลาร์ เพื่อให้ได้สิทธิ์เข้าไปในอีเวนต์และได้ขึ้นเวทียืนข้าง เควิน คอสต์เนอร์ นั่นจะทำให้เธอมีสิทธิ์พูดออกไมค์แถมด้วย” ทอม บาวเออร์ กล่าวอย่างนั้นกับ แดน วูตตัน

“แล้วเธอก็อยู่ในมู้ดฟูฟ่องในความโด่งดังหรูหรา หลังได้คำสรรเสริญมากมายจากเวทีอินวิคตัสเกมส์ในเยอรมนี

“แต่ที่นั่นไม่ใช่ฮอลลีวูดน่ะครับ แล้วเธอก็จะทำอย่างเดียวกันนั้นในฮอลลีวูด

“เธอเชื่อว่าจะได้รับสิทธิ์กล่าวสปีชแบบยิ่งใหญ่ ประมาณว่าได้รับความรักความชื่นชมลึกซึ้งจากผู้ยากจนด้อยโอกาสอะไรเทือกนั้นน่ะครับ

“แต่ฮอลลีวูดไม่มีฟีลลิ่งพรรค์นี้น่ะสิครับ เธอก็เลยพลาดอย่างจัง เสียหน้าหมดเลย”

ทอม บาวเออร์ ชี้เพิ่มด้วยว่า “น่าเศร้านะครับที่ไปคิดว่าจะซื้อไมโครโฟนด้วยเงิน 12,000 ดอลลาร์ ทั้งที่ในทางเป็นจริงแล้ว ถ้าตอนนั้นเธอจ่ายสัก 100,000 ดอลลาร์ล่ะก็ เธอคงได้สิทธิ์พูดออกไมค์ไปแล้วครับ”


รายงานในสกู๊ปของเดอะมิร์เรอร์ ขยี้ข่าวลงลึกว่า ดัชเชสเมแกนต่อสู้ในทางจิตใจด้วยการหันไปเจ้ากี้เจ้าการใส่พระสวามี เพื่อให้ลืมโมเมนต์เสียฟอร์มร้าวรานใจ และรักษาหน้าให้ผ่านนาทีอันน่าอับอายได้เนียนๆ

โดยผู้เชี่ยวชาญภาษาร่างกาย นามว่า จูดิ เจมส์ ให้สัมภาษณ์แก่เดอะมิร์เรอร์ถึงความพยายามของอดีตดารานำแห่งซีรีส์เรื่อง Suits ไว้อย่างละเอียดว่า

“ดัชเชสเมแกนสามารถรักษาลีลาท่าทียิ้มแย้ม ทำเสมือนว่าไม่ใส่ใจกับช็อตดังกล่าว ได้เกือบตลอดรอดฝั่งค่ะ

“เทคนิคที่เธอใช้ซึ่งให้ความรู้สึกว่าเธอคุมสถานการณ์ได้แบบคนที่เหนือกว่า คือ มือซ้ายของเธอ (ที่ชะงักอยู่ข้างริมฝีปากว่าอุ๊ยไม่ใช่อ่ะ) เคลื่อนไปแตะบนต้นแขนของคุณเอ็มซี แบบที่ผู้มีตำแหน่งสูงจะทำท่าใจดีกับผู้ที่มีตำแหน่งต่ำกว่า พร้อมกับประคองแกมชี้ทางว่าให้เดินต่อไปได้”

แล้วจูดิ เจมส์ ขยายรายละเอียดว่า “ดัชเชสเดินขึ้นหน้ามาตรงกลางเวทีโดยที่ยกสองแขนค้างไว้โดยตลอด ในอาการที่จะเข้าไปหาอะไรมาฉวยไว้ในมือสักอย่าง ซึ่งเธอก็ฉวยกล่องของที่ระลึกชิ้นหนึ่งบนโต๊ะเล็กกลางเวที แล้วยกขึ้นมาถือไว้โดยที่ไม่มีเหตุอะไรที่จะต้องทำอย่างนั้น เพราะยังไม่ถึงขั้นตอนการมอบของ อาการดังกล่าวคือจะแก้เก้อเพื่อกลบเกลื่อนภาพแห่งการเสียฟอร์มเมื่อสักครู่”

นักวิเคราะห์ภาษาท่าทางกล่าวอย่างนั้น และวิเคราะห์สืบเนื่องไปอีกว่า ดัชเชสเมแน เริ่มออกอาการเจ้ากี้เจ้าการ โดยไปออกอาการกับปรินซ์แฮร์รี ผู้เป็นพระสวามี

“เธอใช้ภาษาท่าทางจัดการให้ปรินซ์แฮร์รีเดินมายืนข้างหลังเธอ หลังจากนั้นเธอสร้างความมั่นใจขึ้นมาอีกรอบด้วยการคุมคิวการเคลื่อนตัวของพระสวามี ณ จังหวะที่ปรินซ์ก้าวขึ้นมายืนรอที่ข้างเธอเพราะถึงคิวที่พระองค์จะนำของที่ระลึกไปมอบแก่ เควิน คอสต์เนอร์ ซึ่งยืนที่อีกข้างหนึ่งของโต๊ะเล็ก โดยดัชเชสจัดแจงหยิบของที่ระลึกขึ้นมา ส่งใส่พระหัตถ์ปรินซ์แฮร์รี พร้อมกับดันหลังปรินซ์สองสามครั้งให้ออกเดินไปประทานของ”

จูดิ เจมส์ วิเคราะห์ต่อไปถึงโมเมนต์สำคัญที่ทำให้ดัชเชสวีไอพีเสียขวัญเสียความรู้สึกเพิ่ม โดยชี้ประเด็นว่า

“คอสต์เนอร์มิได้กอดขอบคุณปรินซ์แฮร์รี อันเป็นอะไรที่เซเลบมักจะทำกัน ปรินซ์แฮร์รีจึงทรงแก้ความกระอักกระอ่วนตรงนั้นด้วยการตบแขนคอสต์เนอร์เบาๆ พอให้มีลีลาปฏิสัมพันธ์นิดหนึ่ง แล้วเดินกลับไปยืนหลังพระชายา ด้านคอสต์เนอร์ก็เริ่มกล่าวสปีชออกไมค์ ขณะที่แขนสองข้างของดัชเชสคลายลงแนบกายและรอยยิ้มของเธอก็ไม่สามารถยืนระยะต่อไปได้” เดอะมิร์เรอร์รายงานคำวิเคราะห์ของ จูดิ เจมส์ ไว้อย่างนั้น






พร้อมนี้ เดอะมิร์เรอร์ยังรายงานถึงอีกหนึ่งโมเมนต์เสียหน้า ซึ่งชวนให้ดัชเชสเมแกนเสียขวัญเสียความรู้สึก ดังนี้

ณ นาทีที่ดัชเชสและดยุกแห่งซัสเซกซ์ยืนที่โต๊ะวางของที่ระลึก บุรุษในเสื้อสีส้มและเสื้อนอกเบลเซอร์สีดำซึ่งเป็นผู้ช่วยพิธีกรและมีไมโครโฟนอยู่ในมือ เสนอไมค์แด่ดยุกแฮร์รี แต่พระองค์ทรงใช้พระหัตถ์โบ้ยให้ส่งไปยังพระชายาเมแกน แต่ก็แปลกดี บุรุษผู้นั้นเพียงยิ้มๆ แต่มิได้ทำตาม

เดอะมิร์เรอร์ให้ข้อมูลต่อมาว่า มีบางคนทวิตตำหนิปรินซ์

“ปรินซ์แฮร์รีทำเหมือนกับว่าที่บ้านไม่ได้อบรมสั่งสอน เวลาที่เจ้าภาพส่งไมค์ถวายให้ พระองค์ไม่ควรจะไปบอกให้เขาส่งไปให้พระชายา ทรงโตเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว พระชายาของพระองค์น่ะ ไม่มีใครชอบเธอเลย แล้วเธอจะสปีชอะไรๆ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงเรื่องนี้ได้”

สำหรับคำถามที่เมาท์มอยกันมาก ว่าดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ทรงทำอย่างไรจึงได้รับโอกาสขึ้นเวทีอีเวนต์ประจำปีของเควิน คอสต์เนอร์ ผู้ซึ่งถูกชาวฮอลลีวูดฟันธงมาตั้งแต่ต้นปีว่า มักที่จะหลีกเลี่ยงไม่เสวนากับดัชเชสทั้งที่คฤหาสน์หรูของทั้งสองต่างอยู่ในถิ่นมอนเตซิโตด้วยกัน โดยในปาร์ตีปีใหม่ของมอนเตซิโตที่เควินเป็นโต้โผในฐานะผู้หลักผู้ใหญ่ในถิ่นวีไอพีนี้ ปรินซ์แฮร์รีกับดัชเชสเมแกนมิได้รับบัตรเชิญเข้าร่วม

ยูทูปเบอร์คนดังในหมู่ผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์อังกฤษซึ่งใช้ชื่อแอคเคาน์ว่า Meg Murky วิเคราะห์ดังนี้

ดัชเชสเมแกนและเควิน คอสต์เนอร์ ต่างก็จ้างบริษัท WME ซึ่งทรงอิทธิพลระดับแถวหน้าของอุตสาหกรรมบันเทิง ให้เป็นตัวแทนจัดหางานป้อน และบริษัทมักที่จะเชียร์ให้ลูกค้ายอมร่วมอีเวนต์กันเพื่อส่งเสริมกันและกันภายในอีเวนต์เดียว วิเคราะห์ปัจจัยความเป็นมาไว้อย่างนั้น

แล้วสรุปว่า ด้วยเหตุนี้ WME จึงขอจัดฉากให้ดัชเชสเมแกนและพระสวามีได้ขึ้นไปปรากฏตัวบนเวที แต่ในส่วนของการมอบของที่ระลึกแก่เควิน ก็ให้บทบาทนี้แก่ปรินซ์แฮร์รี ซึ่งมีหัวโขนหรูหรามากกว่าดัชเชสเมแกน


นอกจากนั้น ยังมีการวิเคราะห์อีกกระแสหนึ่ง ซึ่งโยงไปถึงข่าวคราวความเคลื่อนไหวของดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ที่จะขายพระตำหนักมอนเตซิโต แล้วย้ายไปปักหลักกันใหม่ที่มาลิบู

การวิเคราะห์นี้นำคลิปการสนทนาสั้นๆ ด้านหลังเวที ระหว่างดัชเชสเมแกนกับแขกวีไอพีของเควินซึ่งเป็นมหาเศรษฐีนักขายอสังหาริมทรัพย์ระดับเซเลบริตี นามว่า อาดัม แมคไค้ก์ โดยที่ปรินซ์แฮร์รีกับเควิน คอสต์เนอร์ ยืนฟังอยู่ด้วย

บรรยากาศการสนทนาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มชื่นมื่นดังกล่าว เป็นลักษณะที่เควินแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกัน และมีช็อตหนึ่งที่ อาดัม แมคไค้ก ดึงกระเป๋าเงินออกมา ประมาณว่าจะหยิบนามบัตร

หลังจบจากโมเมนต์เล็กๆ นี้ เมื่อมาอยู่บนเวที ดัชเชสเมแกนได้รับบทบาทเพียงคิวเดียวคือ การมอบของที่ระลึกให้แก่ อาดัม แมคไค้ก์ ในฐานะที่เป็นบุคคลสำคัญที่สนับสนุนการพัฒนากองทุนเพื่อช่วยเหลือนักกู้ภัยและดับเพลิง

ทั้งนี้ ในช็อตที่ดัชเชสเมแกนมอบของที่ระลึกแก่อาดัม แมคไค้ก์ ทั้งสองกอดแสดงความยินดีแก่กันและกัน แล้วมีการถ่ายภาพช็อตชื่นมื่น แล้วนำไปประกอบสกู๊ปชี้แจง “อุบัติเหตุไมโครโฟน” บนเว็บไซต์ข่าวของเดลิเมลออนไลน์



นัยระหว่างบรรทัดที่ถูกวิเคราะห์จึงมีอยู่ว่า ในท่ามกลางเสียงเมาท์มอยว่าพระเอกเควินไม่ปลื้มดัชเชสเมแกนนั้น เพื่อนวีไอพีของเควินได้รับโอกาสให้ได้เป็นเอเยนต์ขายพระตำหนักให้แก่ดยุกและดัชเชส โดยที่ดัชเชสก็ชื่นชมตื่นตาตื่นใจกับโปรไฟล์ผลงานความสำเร็จของอาดัม แมคไค้ก์ ในการจับคู่ผู้ซื้อและผู้ขายอสังหาริมทรัพย์รายการจับโบ้ทั้งปวง

อีกรายการหนึ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือ การโหลดคลิปแก้ต่างให้แก่ดัชเชสเมแกน ขึ้นไปเผยแพร่บนยูทูป ซึ่งจัดทำโดยทีมงานประชาสัมพันธ์ของดัชเชส ที่ให้ข้อมูลทุกสิ่งอย่างโดยละเอียด ตั้งแต่ประเด็นว่าทำไมดัชเชสจึงไปอยู่บนเวที ประเด็นว่าเควิน คอสต์เนอร์ โอเคกับเธอมากโดยมีการเข้าเฟรมถ่ายภาพกับเธออย่างเป็นเรื่องเป็นราว อีกทั้งยังมีช็อตสนทนานอกรอบกันหนึ่งยกด้านหลังเวที

เอาเป็นว่า ช็อตไมโครโฟนผิดคิวนั้น เป็นแค่ความเข้าใจผิดจิ๊บๆ และบุญรักษาแล้วที่ไม่เกิดกลายเป็นเหตุโกลาหลจำพวกศึกชิงไมค์ ซึ่งอาจจะลุกลามเป็นเหตุให้ซูเปอร์อีเวนต์การกุศลนี้วงแตก เพราะเควิน คอสต์เนอร์ โต้โผใหญ่ของงาน มีความตั้งใจดีงามอย่างที่สุด ที่จัดคอนเสิร์ตวง MAROON 5 ผู้โด่งดังภายใต้ชื่ออีเวนต์ว่า One805 Live!

โดยรายได้จากการขายตั๋วเข้างานราคาตั้งแต่หลายร้อยดอลลาร์ ไปจนถึงราคาตั๋วพื้นที่วีไอพีราคาหัวละ 12,000 ดอลลาร์ จะมอบให้กองทุนช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยทั่วประเทศ ซึ่งเหนื่อยยากเสี่ยงตายเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤติทุกประเภทอย่างน่าชื่นชม




ทีม PR ดัชเชสเร่งแก้เกมให้นายหญิง ยิงคลิปเวอร์ชั่นซัสเซกซ์ขึ้นยูทูป พร้อมจัดทำสกู๊ปขึ้นเว็บข่าวค่ายใหญ่ยักษ์เพื่อย้ำว่าใครๆ ก็รักเมแกน

น่าจะด้วยฝีมือและอิทธิพลชั้นเซียนของบริษัท WME ที่ดูแลภาพลักษณ์ทั้งมวลให้แก่ดัชเชสเมแกน การแก้เกมเพื่อโต้ตอบจึงเกิดขึ้นหลายจุด โดยเน้นพื้นที่ยูทูปกับเว็บไซต์ข่าวค่ายยักษ์ๆ ที่ละเลงเรื่องราวไปต่างๆ นานา แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ยูทูปเบอร์นักฟาดข่าวสามารถครองพื้นที่ส่วนใหญ่ไว้ได้

ขณะที่เว็บไซต์ข่าว แม้จะมีการใช้พื้นที่ของ เดลิเมลออนไลน์ กับ เพจซิกส์ สื่อหัวสียักษ์ใหญ่ด้านข่าวพระราชวงศ์ เพื่อเชิดชูภาพเพอร์เฟ็กต์ของดัชเชสเมแกน กระนั้นก็ตามเว็บไซต์ข่าวระดับยักษ์ใหญ่อื่นๆ อาทิ จีบีนิวส์ มิร์เรอร์ ดิเอ็กซ์เพรส ฯลฯ ก็เต็มที่กับการขยี้ข่าว

คลิปของ Sussex Squad นำภาพเหตุการณ์บนเวทีขึ้นไปให้ท่านผู้ชมได้เห็นและได้ยินด้วยตนเองว่า เอ็มซีของเวที One805 Live! พูดออกไมโครโฟน เชิญดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ขึ้นเวที ซึ่งจะคว่ำเสียงเมาท์มอยของยูทูปเบอร์จำนวนมากมายที่บอกว่า คิวกิจกรรมบนเวทีนี้ จัดให้เฉพาะปรินซ์แฮร์รีขึ้นไป แล้วดัชเชสเมแกนตีเนียน ตามเสด็จพระสวามีไปบนเวที

ส่วนสกู๊ปบนเดลิเมลออนไลน์ ยอมรับว่าดัชเชสเมแกนมีการผิดคิวกับไมโครโฟนจริง โดยใช้พาดหัวข่าวว่าดัชเชสได้รับความเจ็บปวดจาก อุบัติเหตุไมโครโฟน บนเวทีงานกุศลที่จัดโดยเควิน คอสต์เนอร์ พร้อมกับนำเสนอประเด็นโต้ตอบไป 5 ข้อ โดยแต่ละข้อนั้น มีการบิดรายละเอียดโน่นนิดนี่หน่อย

1. “ดัชเชสและพระสวามีได้รับเชิญขึ้นบนเวทีในฐานะแขกพิเศษ”

ทั้งนี้ ความจริงที่ปรากฏในคลิป เอ็มซีเชิญขึ้นเวทีเท่านั้น ไม่ได้เชิญในฐานะ “แขก”พิเศษ เพราะทั้งสองซื้อตั๋วราคาวีไอพี อัตราหัวละ 12,000 ดอลลาร์

2. “เมื่อพิธีกรไม่มอบไมค์ให้ ดัชเชสจึงตระหนักขึ้นได้ว่าเธอเข้าใจผิด และจึงรีบเดินไปทางซีกซ้ายของเวที ไปยังจุดที่ เควิน คอสต์เนอร์ ยืนอยู่”

มีการบิดรายละเอียดให้คนอ่านเข้าใจผิดว่า ดัชเชสเมแกนเป็นแขกพิเศษของโต้โผจัดงาน เธอจึงได้ไปยืนติดกับโต้โผเควิน แต่อันที่จริงคือ กลางเวทีมีโต๊ะเล็กตั้งอยู่เพื่อวางของที่ระลึก 3 ชิ้น และคิวบนเวทีกำหนดให้ดัชเชสเมแกนและพระสวามียืนที่ฝั่งซ้ายของโต๊ะ ส่วน เควิน คอสต์เนอร์ ยืนทางฝั่งขวาของโต๊ะตั้งแต่แรกเลย

3. “ตอนที่ทั้งสองพระองค์ไปยืนติดโต๊ะเล็ก ผู้ช่วยเอ็มซีซึ่งมีไมค์ในมือ ได้เสนอไมค์แก่ปรินซ์แฮร์รี แต่ปรินซ์โบกมือว่าไม่เอา”

แต่ความจริงนั้น ช็อตนี้เป็นอีกหนึ่งครั้งแห่งการเสียหน้าบนเวที กล่าวคือ ภาษาท่าทางของปรินซ์เป็นการขยับพระหัตถ์ชี้ให้ส่งไมค์ไปยังพระชายาเมแกน แล้วปรากฏว่าผู้ช่วยเอ็มซีไม่ปฏิบัติตาม โดยยังรักษาไมค์ไว้ในมือ และขยับมือไปเป็นท่ากอดอก


4. “หลังจากที่ดัชเชสเมแกนฟื้นตัวจากโมเมนต์อันกระอักกระอ่วนใจแล้ว ดัชเชสก็นำของที่ระลึกมอบแก่เควิน คอสต์เนอร์”

นี้เป็นการบิดรายละเอียดอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้คนอ่านเข้าใจผิดว่า ดัชเชสเมแกนเป็น “แขก” vvip ของเควิน เธอจึงได้รับบทบาทแห่งการมอบของที่ระลึกแด่เควิน แต่ความจริงคือ ผู้กำกับเวทีวางคิวของบทบาทสำคัญนี้ไว้ที่ปรินซ์แฮร์รี ผู้มีแสงในตนเองด้วยหัวโขนความเป็นเจ้าชายพระราชโอรสของพระมหากษัตริย์อังกฤษ

5. สกู๊ปชิ้นนี้ของเดลิเมลออนไลน์ได้นำเรื่องราวเท่หรูของดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ณ มหกรรมกีฬาอินวิคตัสเกมส์ ที่เยอรมนี มาต่อท้ายข่าวหน้าแตกไมโครโฟน ว่า “การต้อนรับอย่างอบอุ่นที่ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ได้รับในงานการกุศลของเควิน คอสต์เนอร์ สะท้อนถึงความสำเร็จของทั้งสองพระองค์ที่เกิดขึ้นในมหกรรมกีฬาอินวิคตัสเกมส์ ที่เยอรมนีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อผู้คนในดึสเซลดอร์ฟต่างกระหายจะได้พบปะทั้งสองพระองค์”

ประโยคเหล่านี้ตรงกับการวิเคราะห์โดย ทอม บาวเออร์ ผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์อังกฤษ ที่ชี้ไว้ว่าดัชเชสเมแกนยังไม่ตื่นขึ้นจากความปลาบปลื้มในเยอรมนี ยังหมกมุ่นอยู่กับมู้ดโด่งดังหรูหรา ซึ่งทำให้เธอทึกทักว่าผู้คนในซานตาบาร์บาราและฮอลลีวูดเหมือนกับคนดึสเซลดอร์ฟ เธอจึงพลาดอย่างจัง เสียเซล์ฟหนักมาก

กลยุทธ์ล้างอายแก่นายสาว พร้อมกับพยายามตอกย้ำความสำคัญและความป็อปปูลาร์ให้แก่ดัชเชสไปในเวลาเดียวกัน ก็นับว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่ก็เห็นได้ว่ายอดวิวเข้าดูข้างที่ฟาดข่าวใส่ดัชเชสนั้นมหาศาลกว่าข้างที่ทีมพีอาร์พยายามโต้ตอบและเคลียร์

ทั้งหลายทั้งปวงนี้รวมลงในความจริงสำคัญที่ว่า โพลต่างๆ ที่จัดทำในทั้งสองฟากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ได้พบว่าเรตติ้งความป็อปปูลาร์ของดัชเชสเมแกนดำดิ่งต่อเนื่องตลอดที่ผ่านมาในปีนี้ โดยอยู่ในแดนติดลบเรื้อรัง ซึ่งหมายถึงว่าผู้ที่มองดัชเชสเมแกนในทางเลวร้าย มีมหาศาลกว่าผู้ที่มองในทางดีงาม นั่นเอง

มันจึงเป็นเรื่องธรรมดา ที่ข่าวแฉความไม่น่ารักของดัชเชสเมแกนจะได้รับความสนใจจากฝ่ายๆ ล้นหลามเหลือเกิน


โดย รัศมี มีเรื่องเล่า


(ที่มา: จีบีนิวส์ เดอะมิร์เรอร์ เดลิเมลออนไลน์)