เอเจนซีส์/เอพี - ศาลนิวยอร์กวันอังคาร(26 ก.ย)ปฎิเสธกคำร้องขอของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ต้องการให้คดีทางแพ่งของตัวเองตกไป ผู้พิพากษาชี้ว่า ทรัมป์และครอบครัวใช้วิธีฉ้อโกงธนาคารและประกันภัย ประเมินทรัพย์สินสูงเกินจริงเพื่อให้ได้เงินกู้ที่มีข้อเสนอที่ดีในการสร้างอาณาจักรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สั่งถอนใบอนุญาตธุรกิจตระกูลทรัมป์ภายในรัฐนิวยอร์กรวม ตึกทรัมป์ทาวเวอร์และตึกวอลสตรีท
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงาน วานนี้(27 ก.ย)ว่า ทีมกฎหมายของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ พ่ายแพ้อีกครั้งทางกฎหมายหลังผู้พิพากษาศาลนิวยอร์ก อาร์เธอร์ เอนโกรอน (Arthur Engoron) ในการขึ้นนั่งบัลลังก์ในวันอังคาร(26) กล่าวว่า เขาพบว่าอดีตผู้นำสหรัฐฯและบรรดาผู้บริหารจากบริษัททรัมป์รวมถึง เอริค ทรัมป์ และโดนัลด์ จูเนียร์ ทรัมป์ ต่างพากันหลอกลวงสถาบันการเงิน ประกันภัย และอื่นๆด้วยการให้ตัวเลขประเมินมูลค่าทรัพย์สินสูงเกินจริงและรวมถึงอ้างตัวเลขมูลค่าความร่ำรวยของทรัมป์ไม่ถูกต้องตรงความเป็นจริงบนเอกสาร
“เอกสารเหล่านี้เป็นที่ชัดเจนว่ามีการประเมินอย่างฉ้อฉลที่บรรดาจำเลยใช้ในธุรกิจ” เอนโกรอนแถลงในคำพิพากษา
ทั้งนี้อัยการรัฐนิวยอร์ก เลทิเทีย เจมส์ (Letitia James) ได้กล่าวว่า อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ นั้นเกี่ยวข้องในการฉ้อโกงแบบวางเหยื่อล่อก่อนแอบสับเปลี่ยนตามภาษาอังกฤษคือ bait and switch ด้วยอ้างมูลค่าความร่ำรวยของตัวเองให้สูงถึง 2.23 พันล้านดอลลาร์ และในครั้งหนึ่งสูงถึง 3.6 พันล้านดอลลาร์ในเอกสารการเงินประจำปีที่ให้กับธนาคารและประกันภัย
ทรัพย์สินที่ถูกสร้างให้มีมูลค่าสูงขึ้นรวมถึงคฤหาสถ์มาราลาโก( Mar-a-Lago)ในรัฐฟลอริดา อพาร์ทเมนท์เพนต์เฮาส์ของตัวเองบนทรัมป์ทาวเวอร์ในเมืองแมนแฮตตัน และอาคารสำนักงานมากมายและสนามกอล์ฟของเขา อ้างอิงจากคำฟ้องของเจมส์ที่ยื่นเมื่อกันยายนปี 2022
เอพีรายงานว่า ในคำตัดสินวันอังคาร(26)นั้นชี้ชัดว่าทรัมป์โกหกขนาดของอพาร์ทเมนท์โดยอ้างว่าเพนท์เฮาส์ขนาด 3 ชั้นบนตึกทรัมป์ทาวเวอร์ของตัวเองในแมนแฮตตันนั้นมีขนาดใหญ่กว่าเกือบ 3 เท่าของขนาดจริงและประเมินมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ 327 ล้านดอลลาร์
ฮินดูสถาน สื่ออินเดีย รายงานเพิ่มเติมว่า บนเอกสารพบว่าอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ อ้างว่า เพนท์เฮาส์ของเขามีขนาด 30,000 ตารางฟุต แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้วอยู่ที่ 11,000 ตารางฟุต
เดอะการ์เดียนรายงาน ทีมกฎหมายของทรัมป์ก่อนหน้าร้องขอศาลให้สั่งให้คดีนี้ตกไป โดยแสดงเหตุผลว่า เลทิเทีย เจมส์ อัยการรัฐนิวยอร์กไม่มีอำนาจในการยื่นดำเนินคดีนี้เป็นเพราะไม่มีหลักฐานชี้ไปว่า สาธารณะได้รับผลกระทบจากการกระทำของทรัมป์ และอีกทั้งมีอีกมากมายของคดีความเกินอายุความ(statute of limitations)
แต่ทว่าผู้พิพากษาเอนโกรอนดูเหมือนจะไม่คล้อยตาม สื่ออังกฤษชี้
“จากเหตุผลที่อ้างไม่มีใครได้รับผลกระทบนั้นไม่ได้หมายความว่าคดีนี้จะต้องตกไป” ผู้พิพากษากล่าวในคำพิพากษาวันอังคาร(26) ที่เขาได้ให้ไฟเขียวแก่เจมส์หลังจากที่เธอพยายามขอให้มีการลงโทษต่อทีมกฎหมายทรัมป์ในความพยายามโต้เถียงทางคดีความในสิ่งที่ปฎิเสธเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยการสั่งปรับทนายความ 5 คนด้วยตัวเลขคนละ 7,500 ดอลลาร์
เอพีชี้ว่าดูเหมือนอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ จะมองว่าคำพิพากษาศาลนิวยอร์กวันอังคาร(26)นั้นจะทำให้อาณาจักรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่ของเขาต้องจบลง
ทรัมป์ได้ออกมาโวยวายต่อคำตัดสินที่ได้ย้ายการควบคุมของบางส่วนของบริษัทหลายแห่งของเขาไปอยู่ในมือของผู้รับหรือบุคคลที่ 3 ตามการแต่งตั้งของศาล ที่เขาชี้ว่า “เป็นคำพิพากษาฆ่าทรัมป์”
สื่ออินเดียรายงานว่า ตามคำสั่งวันอังคาร(26)พบว่า ผู้พิพากษา อาร์เธอร์ เอนโกรอนสั่งให้ยกเลิกใบอนุญาตธุรกิจรัฐนิวยอร์กของบริษัททรัมป์ ออร์แกไนเซชัน(Trump Organization) และรวมไปถึงธุรกิจอื่นๆที่ทรัมป์และครอบครัวเป็นเจ้าของในนิวยอร์ก
และอีกทั้งสั่งให้มีผู้รับหรือบุคคลที่ 3 ตามการแต่งตั้งของศาลจะเป็นผู้เข้ามาดูแล และหมายความว่าทรัมป์จะเสียการควบคุมในตึกทรัมป์ทาวเวอร์ไป
เอพีรายงานว่า ทีมกฎหมายของทรัมป์ในการพิจารณาคดีวันพุธ(27)พยายามที่จะขอให้ศาลระบุถึงผลกระทบต่อคำสั่งศาลที่มีต่อธุรกิจของอดีตผู้นำสหรัฐฯ
แต่ทว่าเอนโกรอนในวันพุธ(27)ได้ปฎิเสธคำขอของทนายความในการชี้ลงไป ซึ่งในคำพิพากษาวันอังคาร(26)พบว่าได้มีการถอดใบอนุญาตทางธุรกิจในนิวยอร์ก ซึ่งหมายความรวมไปถึงบริษัทและอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ชื่อของทรัมป์
ทนายความกล่าวต่อผู้พิพากษาให้เห็นว่า ธุรกิจบางส่วนของทรัมป์ถูกสั่งถอดใบอนุญาตทางธุรกิจเป็นต้นว่า ตึกทรัมป์ทาวเวอร์และตึกวอลสตรีทซึ่งเป็นอาคารสำนักงานตั้งอยู่เลที่ 40 ถนนวอลสตรีท ซึ่งทั้ง 2 แห่งอยู่ในเมืองแมนแฮตตัน
“นี่เป็นจุดยืนของศาลหรือไม่ที่ทรัพย์สินเหล่านี้กำลังจะถูกขายหรือถูกบริหารภายใต้ทิศทางของผู้รับ?” รายงานคำแถลงในศาลของทีมกฎหมายทรัมป์
ฮินดูสถานรายงานว่า อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ที่ไม่ได้เข้าร่วมการดีเบทประชันความเห็นในรอบไพรมารีที่ห้องสมุดโรนัลด์ เรแกนที่รัฐแคลิฟอร์เนียวานนี้(27) ได้ออกมาแสดงความเห็นอย่างดุเดือดต่อคำพิพากษาศาลนิวยอร์กผ่านโซเชียลมีเดียว่า
“พวกเรากำลังจะกลายเป็นประเทศคอมมิวนิสต์อย่างรวดเร็ว และสิทธิทางพลเมืองของผมถูกพรากออกไป”ทรัมป์กล่าว
และเสริมว่า “กระบวนการใช้อำนาจทางกฎหมายเพื่อเล่นงานคู่แข่งของเดโมแครตและขบวนการล่าแม่มดขึ้นมาอยู่ในระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อน”
ขณะที่ทีมกฎหมายทรัมป์กล่าวถึงคำพิพากษาวันอังคาร(26)ว่า เป็นเสมือนการแท้งของความยุติธรรม พร้อมกับยืนกรานว่าจะเดินหน้ายื่นอุทธรณ์ต่อคำสั่งต่อไป