เกาหลีเหนือประกาศสถานะความเป็น “รัฐนิวเคลียร์” ลงในรัฐธรรมนูญของประเทศ ขณะที่ผู้นำ คิม จองอึน เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ที่ล้ำสมัยเพื่อรับมือภัยคุกคามจากสหรัฐฯ
แม้จะถูกบีบคั้นด้วยมาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติ ทว่าเกาหลีเหนือยังคงยิงทดสอบขีปนาวุธถี่เป็นประวัติการณ์ในปีนี้ และไม่มีทีท่าว่าจะสนใจคำเตือนจากสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และบรรดาชาติพันธมิตร
ความพยายามใช้การทูตโน้มน้าวเกาหลีเหนือให้ละทิ้งอาวุธนิวเคลียร์ดูเหมือนจะล้มเหลวสิ้นเชิง หลังจากผู้นำ คิม ประกาศเมื่อปีที่แล้วว่าสถานะความเป็นรัฐนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ “เปลี่ยนแปลงย้อนกลับไม่ได้” (irreversible) และล่าสุดยังได้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อบัญญัติสถานะดังกล่าวในสัปดาห์นี้
สำนักข่าว KCNA รายงานว่า ผู้นำ คิม ได้ประกาศต่อที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติเกาหลีเหนือซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-27 ก.ย. ที่ผ่านมาว่า “นโยบายสร้างกองกำลังนิวเคลียร์ถูกกำหนดให้เป็นกฎหมายพื้นฐานของประเทศอย่างถาวร และไม่อนุญาตให้ผู้ใดล่วงละเมิดได้”
คิม ย้ำว่า เกาหลีเหนือจำเป็นต้องมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้เพื่อต่อต้านสหรัฐฯ และพันธมิตร ซึ่งถือเป็น “ภัยคุกคามต่อความอยู่รอด” (existential threat) ของรัฐโสมแดง
“สหรัฐฯ ยกระดับข่มขู่ทำสงครามนิวเคลียร์ขั้นสูงสุดต่อสาธารณรัฐของเรา โดยการรื้อฟื้นการซ้อมรบร่วมนิวเคลียร์ แสดงท่าทีก้าวร้าวอย่างชัดแจ้ง และยังส่งทรัพย์สินนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์เข้ามาประจำการใกล้คาบสมุทรเกาหลีอย่างถาวร” คิม กล่าว
ผู้นำเกาหลีเหนือยังชี้ด้วยว่า การยกระดับความร่วมมือด้านกลาโหมระหว่างสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นถือเป็น “ภัยคุกคามร้ายแรงที่สุดอย่างแท้จริง” ดังนั้น “จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่เกาหลีเหนือจะต้องเร่งพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเราให้ทันสมัย เพื่อคงศักยภาพในการป้องปรามเชิงยุทธศาสตร์เอาไว้”
คิม ยังเน้นย้ำความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มกำลังการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ และเพิ่มช่องทางการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ให้หลากหลายยิ่งกว่าเดิม ตามรายงานของ KCNA
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า การบัญญัติสถานะความเป็นรัฐนิวเคลียร์ลงในรัฐธรรมนูญทำให้ความหวังที่จะโน้มน้าวผู้นำโสมแดงให้ยอมปลดอาวุธนิวเคลียร์ยิ่งดูเลือนรางกว่าเดิม
“สุนทรพจน์ของ คิม ถือเป็นการประกาศชัดว่า กองกำลังนิวเคลียร์จะต้องดำรงอยู่อย่างถาวร” ยาง มูจิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกาหลีเหนือศึกษาในกรุงโซล ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
“มันทำให้โอกาสในการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือยิ่งห่างไกลออกไปอีก”
เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธหลากหลายประเภทในปีนี้ รวมถึงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) และในเดือนนี้กองทัพโสมแดงยังเปิดการซ้อมรบซึ่งพวกเขาอ้างว่าเป็นการจำลอง “การโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี”
เปียงยางยังพยายามที่จะส่งดาวเทียมสอดแนมทางทหารขึ้นสู่วงโคจรรอบโลกมาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ก็ประสบความล้มเหลว
ที่มา: เอเอฟพี