xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ ฟ้อง AMAZON คดีผูกขาดการค้าออนไลน์ พบเก็บค่าธรรมเนียมผู้ค้าถ้าไม่ยอมใช้ขนส่งบริษัท อเมริกันเซ็งจิตมีปัญหายกเลิกสมาชิก Prime ยากมาก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี/เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ผู้กำกับสหรัฐฯ วานนี้ (26 ก.ย.) พร้อมกับอีก 17 รัฐในสหรัฐฯ ยื่นดำเนินคดีทางกฎหมายฐานผูกขาดการค้าออนไลน์ในสหรัฐฯ ต่อบริษัทออนไลน์รีเทลเลอรชื่อดัง AMAZON ฮือฮาสั่งให้ผู้ค้าต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 2% หากไม่ยอมใช้บริการขนส่งของบริษัท ลูกค้าแอมะซอนอเมริกามีปัญหาสั่งยกเลิกสมาชิกไพรม์ไม่ได้

เอเอฟพีรายงานวานนี้ (26 ก.ย.) การออกมายื่นเรื่องดำเนินคดีทางกฎหมายของผู้กำกับสหรัฐฯ ต่อ AMAZON ในวันอังคาร (26) กลายเป็นหนึ่งในบททดสอบของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ที่พยายามควบคุมอิทธิพลล้นฟ้าของบรรดาบริษัทไฮเทคชื่อดังทั้งหลาย

คณะกรรมาธิการการค้ากลางสหรัฐฯ FTC (Federal Trade Commission) ร่วมกับ 17 รัฐในอเมริกาได้ยื่นฟ้องดำเนินคดีฐานผูกขาดทางการค้าออนไลน์ในอเมริกาต่อ AMAZON

ทาง FTC ชี้ว่า AMAZON ละเมิดกฎหมายห้ามผูกขาดการค้า (antitrust law) ใน 2 ทางกล่าวคือ ทั้งในเกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มของตัวเองที่เชื่อมผู้ค้าภายนอกและผู้ซื้อเข้าด้วยกัน

เอเอฟพีชี้ว่า พบว่า AMAZON ลงโทษผู้ค้าหากว่าใช้แพลตฟอร์มในการขายสินค้าที่อื่นในราคาที่ต่ำกว่าด้วยการจัดลำดับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ต่ำบนเว็บไซต์

นอกจากนี้ AMAZON ยังบังคับให้บรรดาผู้ค้าต้องใช้บริการโลจิสติกส์ของบริษัทที่แสนแพงเพื่อสามารถให้สินค้าของผู้ค้าสามารถเข้าถึงสมาชิก Amazon Prime ที่เป็นกลุ่มสมาชิกสำหรับบริการอันหลากหลายตั้งแต่ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง ไปจนถึงอ่านหนังสือออนไลน์และสามารถสั่งสินค้าบนเว็บไซต์ที่ไม่ต้องเสียค่าบริการเป็นรายชิ้นแต่เสียค่าสมาชิก Prime แบบรายปีแทน

“AMAZON เป็นนักผูกขาดทางการค้าที่ใช้อิทธิพลของตัวเองในการขึ้นเวลาต่อนักชอปชาวอเมริกันและเพิ่มค่าธรรมเนียมต่อผู้ค้าจำนวนหลายแสน” จอห์น นิวแมน (John Newman) ผู้ช่วยผู้อำนวยการแผนกการแข่งขันทางการค้าของ FTC กล่าว

อย่างไรก็ตาม AMAZON ร่อนแถลงการณ์ตอบโต้วันนี้ (27) กล่าวว่า ในขณะที่ FTC ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่มีหน้าที่ในการปกป้องผู้บริโภคและการแข่งขันทางการค้า แต่ทว่าการยื่นฟ้องของ FTC ต่อ AMAZON นั้นจะนำมาสู่ราคาสูงขึ้นและการส่งสินค้าที่ช้าลงต่อผู้บริโภคและจะเป็นการทำร้ายธุรกิจทั้งหลาย

เอเอฟพีชี้ว่า ทั้งนี้พบว่าสินค้าราว 60% ที่ซื้อขายใน AMAZON ล้วนแล้วแต่ขายโดยผู้ค้าบุคคลที่ 3 ซึ่งทาง FTC ชี้ว่าค่าธรรมเนียมของ AMAZON สูงมาก และทำให้บรรดาผู้ค้าเหล่านี้มีเงินรายได้แค่ครึ่งเดียวจากการขายบนแพลตฟอร์ม

การผูกขาดและความไม่เป็นธรรมต่อผู้ค้าบน AMAZON หนังสือพิมพ์สเตรทไทม์สของสิงคโปร์เคยรายงานในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่า อ้างอิงจากบลูมเบิร์กที่เปิดเผยเป็นเจ้าแรกระบุว่า บริษัทกำลังเริ่มต้นที่จะเก็บค่าธรรมเนียม 2% ต่อบรรดาผู้ค้าบุคคลที่ 3 ที่ไม่ยอมใช้บริการขนส่งของบริษัท AMAZON ที่มีทั้งรถบรรทุกและเครื่องบินคาร์โกตั้งแต่ตุลาคมนี้เป็นต้นไป

ซึ่งผู้ค้าไม่กี่เจ้าที่ให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์กชี้ว่า ระบบใหม่นี้เป็นสัญญาณว่า AMAZON กำลังบีบให้พวกเขาที่แต่เดิมใช้บริการขนส่งของตัวเองหันมาใช้การขนส่งของ AMAZON

Amazon ถูกกล่าวหาว่ามีอำนาจเหนือผู้ค้าบนแพลตฟอร์มราว 2 ล้าน และอีกทั้ง AMAZON มีส่วนแบ่งการค้าออนไลน์ 37.6% ของการค้าออนไลน์ทั้งหมดในสหรัฐฯ และสูงกว่า 6 เท่าของคู่แข่งคือ Walmart อ้างอิงจาก Insider Intelligence

ขณะเดียวกัน ปัญหาสำหรับ AMAZON ลูกค้าอเมริกันต่างบ่นถึงปัญหาใหญ่ที่ไม่สามารถยกเลิกสมาชิก Prime ของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว โดยบลูมเบิร์กรายงานก่อนหน้าว่า FTC เคยออกมาชี้ว่า ผู้บริหารระดับสูง 3 คนเป็นตัวการวางแผนให้การยกเลิกสมาชิก Prime นั้นมีความยุ่งยากหรือเกือบถึงขั้นเป็นไปไม่ได้

ที่อาจเป็นปัญหาของบริษัทในอเมริกาที่ใช้แท็กติกทำให้เกิดความยากลำบากต่อการยกเลิกสมาชิก เช่น บริษัทผู้ให้บริการเคเบิลทีวี COMCAST ปัจจุบันคือ COMCAST xfinity ที่ใช้แท็กติกเตะถ่วงไม่ยอมให้ลูกค้ายกเลิกการเป็นสมาชิกและเป็นที่รู้ดีว่าลูกค้า COMCAST ที่ต้องการยกเลิกต้องโกหกถึงขั้นว่าจะย้ายไปในเมืองที่บริษัทไม่ครอบคลุมสัญญาณการให้บริการ และจนเป็นข่าวดังเมื่อสื่อไทม์สรายงานเมื่อวันที่ 16 ก.ค. ปี 2557 ของการเปิดโปงของลูกค้าคนหนึ่งที่แอบอัดคำสนทนาการยกเลิกบริการเป็นเวลา 8 นาทีจนโด่งดังไปทั่ว และบริษัทจนต้องออกมายอมรับและขอโทษในที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น