เจ้าฟ้าชายวิลเลียมผู้ทรงรูปหล่อ กล้ามใหญ่ พระทัยงาม ทรงเขย่าหัวใจสาวมะกันหลายล้านรายซึ่งแห่กันโพสต์เมาท์มอยคลั่งไคล้พระองค์บนโซเชียลมีเดียว่า ชมชอบเหลือเกินกับฉลองพระองค์ของเจ้าฟ้าชายที่เรียบเท่ สไตล์ผู้ชายสายลุย ไล่เรียงตั้งแต่พระสนับเพลาผ้าชีโน ไปถึงฉลองพระองค์เชิร์ตผ้าฝ้าย ไร้เน็กไท ปลดกระดุมหนึ่งเม็ด พอให้แว่บๆ ถึงแผงพระอุระเร้าใจด้วยกล้ามเนื้อบึกบึนนักกีฬา เดลิเมลออนไลน์รายงาน
โดยเมื่อเช้าวันที่ 18 กันยายน 2023 ในท่ามกลางเม็ดฝนพรำบางๆ มวลเมฆครึ้มเบาๆ และอากาศชุ่มชื่น ปรินซ์วิลเลียมทรงเดินทางเข้าสู่มหานครนิวยอร์กด้วยไฟลท์ของสายการบินบริติชแอร์เวย์ แล้วก็เสด็จออกทรงงานในถิ่นแมนแฮตตันทันที
ณ แม่น้ำอีสต์ริเวอร์ในมหานครนิวยอร์ก ปรินซ์วิลเลียมทรงถลกแขนเสื้อ สวมกางเกงกันน้ำแบบชุดจั๊มพ์สูงถึงอก และสวมถุงมือยางยาวขึ้นมาถึงต้นพระกร พร้อมด้วยรองเท้าบู้ทลุยโคลน และที่สำคัญคือ หมวกแก๊ปเบสบอลอเมริกันสไตล์สีน้ำเงินมิดไนท์บลูของคืนข้างแรม แล้วเสด็จตามทีมงานโครงการ Billion Oyster Project เดินลงสู่ท้องน้ำไปศึกษาการดำเนินงานฟื้นฟูแนวโขดหินหอยนางรมให้กลับคืนสภาพเขื่อนธรรมชาติที่สามารถป้องกันพายุใหญ่และปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง พร้อมกับรณรงค์ขยายพันธุ์หอยนางรมซึ่งหวุดหวิดจะสูญพันธุ์ เพื่อให้ประชากรหอยนางรมช่วยฟื้นฟูคุณภาพของมวลน้ำไปในตัว เดลิเมลออนไลน์และนิวยอร์กไทมส์รายงาน
หลังทรงศึกษางานในแหล่งน้ำด้วยพระอิริยาบทเท่หล่อเรียบง่าย ปรินซ์ออฟเวลส์ทรงร่วมทดลองวัดขนาด อีกทั้งศึกษาการเพาะพันธุ์หอยนางรมด้วยกันกับทีมนักวิจัยตัวน้อยจากโรงเรียน Urban Assembly New York Harbor School แห่งเกาะกอฟเวิร์นเนอส์ ทั้งนี้ ภายใต้เวิ้งนภากว้างขวางในบรรยากาศครึ้มสบายเพราะอิทธิพลของฝนฟ้า เจ้าฟ้าชายลูกสามทรงปฏิบัติพระภารกิจอย่างเพลิดเพลิน ทรงพระสรวลบ่อยๆ เป็นที่ถูกใจของเหล่าช่างภาพที่บันทึกภาพนิ่งและคลิปอยู่ห่างๆ
เพียงไม่กี่แว่บนับจากที่บรรดาสถานีโทรทัศน์และเว็บไซต์ข่าวทั้งปวง ยิงคลิปพระกรณียกิจออกสู่สาธารณชนทั่วสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก เจ้าฟ้าชายวิลเลียมแห่งพระราชตระกูลอังกฤษทรงกลายเป็น ‘เทพเจ้าเซ็กซ์ก๊อด’ ของสาวๆ อเมริกันหลายล้านคนในบัดดล เดลิเมล์รายงานอย่างนั้น โดยระบุว่า
“สาวๆ กรี๊ดสนั่นบอกต่อๆ กันว่า ปรินซ์วิลเลียมทรงแสนที่จะหล่อ สุภาพมาดเข้ม แมนสุดๆ ในชุดรองเท้าบู้ทลุยโคลน แล้วแห่กันแชร์ภาพพระกรณียกิจเยี่ยมชมโครงการขยายพันธุ์หอยนางรมที่แม่น้ำอีสต์ริเวอร์ เป็นที่เอิกเกริกจนกลายเป็นไวรัลตลอดนับจากวันจันทร์เป็นต้นมา” เดลิเมลออนไลน์บอกอย่างนั้น พร้อมกับกวาดต้อนเอาสารพัดโพสต์มานำเสนอดังนี้
“ใครจะคิดได้ว่าสวมรองเท้าบู้ทลุยโคลนแล้วจะดูเท่ขนาดนี้!” แฟนคลับรุ่นใหม่ของเจ้าฟ้าชายวิลเลียมทวิตพร่ำเพ้อบน “เอ็กซ์”
อีกหนึ่งสาวผู้เห่อเจ้า เขียนโพสต์ขึ้นไปบ้างว่า “ปรินซ์วิลเลียมทรงมิใช่แค่เพียงจะมียีนสมองชาญฉลาด หากยังทรงเหมารวมเอายีนรูปหล่อทั้งสารบบมาอยู่ในตัวพระองค์”
โพสต์ที่เด็ดกว่านั้นมีให้เห็นเป็นแนวเอ็กซ์วายแซดว่า “ถ้าอย่างนี้ไม่เรียกว่าเร่าร้อน ฉันก็ไม่รู้แล้วว่าใครอื่นอีกที่จะเข้าขั้นเร้าใจในโลกของเรา”
หลังจากที่บรรดาแฟนคลับแห่งเจ้าฟ้าชายวิลเลียมในสหรัฐฯ พากันโพสต์ภาพและคลิปของปรินซ์วิลเลียมขึ้นไปชื่นชมบนโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะอินสตาแกรม ทวิตเตอร์ ฯลฯ มหาชนคนที่ปลื้มพระราชวงศ์ก็กรูเกรียวกันเข้าไปเขียนชม เชียร์ และคลั่งไคล้ถึงพระรูปหล่อสลักเสลา และพระโฉมยอดเซ็กซี่ของปรินซ์รัชทายาทแห่งราชบัลลังก์อังกฤษ ผู้ทรงสูงสง่าล่ำสัน แผงพระอุระกว้างน่าซบ ช่วงพระเพลาและพระชงฆ์ยาวตรงและเท่เหลือใจ อีกทั้งพระอุทรก็แบนราบเคร่งครัดด้วยกล้ามเนื้อนักกีฬา
เดลิเมลออนไลน์บอกด้วยว่าสาวๆ ทั่วสหรัฐฯ กรี๊ดกันเป็นพิเศษกับชุดจั๊มพ์กันน้ำสูงขึ้นมาถึงพระอุระ ซึ่งชวนให้ระลึกถึงแฟชั่นโบราณของมิสเตอร์ดาร์ซีย์ พระเอกคนดีแห่ง Pride and Prejudice นิยายรักคลาสิกเรื่องเข้มข้นโดย เจน ออสเตน และแห่กันเขียนขึ้นบนทวิตเตอร์และอินสตาแกรมให้ปรินซ์ได้ทรงทราบว่า สาวอเมริกันปลื้มพระองค์ในลุคง่ายๆ สบายตา และเป็นกันเองเยี่ยงนี้กันมากมายราวใด
แล้วก็ กรี๊ดเพิ่ม เดลิเมลออนไลน์พรรณนาด้วยว่า ขณะที่เจ้าฟ้าชายวิลเลียมทรงก้าวขึ้นจากแม่น้ำ เสื้อผ้าฝ้ายสีฟ้าของพระองค์เปียกฉ่ำแนบพระกายกำยำล่ำสัน มีน้ำหยดตามเป็นทาง ลุคนั้นของพระองค์ คือความเซ็กซีน่าหลงใหลแบบ มิสเตอร์ดาร์ซีย์ ในเวอร์ชันของ โคลิน เฟิร์ธ อย่างแท้จริง
ปรากฏการณ์คลั่งไคล้ปรินซ์วิลเลียม นับเป็นความครึกโครมซึ่งอุบัติขึ้นนอกหมายกำหนดการการเสด็จเยือนกรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา (18-19 กันยายน) เพื่อกระตุ้นให้ชาวโลกตระหนักถึงภัยคุกคามจากปัญหาโลกร้อนและความผันผวนของสภาพดินฟ้าอากาศ พร้อมกับโปรโมทโครงการ Earthshhot Prize 2023 มูลค่ารางวัล 1.15 ล้านดอลลาร์ (ราว 40 ล้านบาท) ซึ่งนี่เป็นวาระแห่งการประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบสุดท้ายการประกวดโครงการนวัตกรรมแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมโลก เดลิเมลออนไลน์รายงาน
พร้อมนี้ เดลิเมลออนไลน์พรรณนาด้วยว่า ทริปสองวันของเจ้าฟ้าชายวิลเลียมเป็นพระกรณียกิจที่ทรงเสด็จเดี่ยว โดยไม่มีเจ้าหญิงเคทแห่งเวลส์ จึงต้องถือว่าความฮือฮาครั้งนี้ เจ้าฟ้าชายวิลเลียมทรงจุดประกายให้โซเชียลมีเดียลุกเป็นไฟด้วยพระองค์เองล้วนๆ โดยมีสาวทั่วสหรัฐอเมริกาแห่มาปลาบปลื้มหลงใหลในปรินซ์ผู้ให้เกียรติประชาชน อบอุ่นเป็นกันเอง และเซ็กซี่สุดๆ พระองค์นี้
“วิลเลียม เดอะปรินซ์” ทรงครองดวงใจผู้คนทั้งแผ่นดิน อเมริกันชนปลื้มปริ่มคลั่งไคล้กับทุกพระกรณียกิจ
หลังจากทรงหล่อ เท่ และน่ารักน่าหลงใหล ที่โครงการ Billion Oyster Project ตรงแม่น้ำอีสต์ริเวอร์แล้ว เจ้าฟ้าชายวิลเลียมเสด็จไปพบปะ ขอบคุณ และหารือแนวทางแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมโลกกับเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส ในโอกาสที่องค์การสหประชาชาติมีกำหนดจัดประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 78 ในวัน 18-19 กันยายน 2023 ทั้งนี้ ประเด็นการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นหนึ่งในวาระสำคัญ
ในวันต่อมา ยามอรุณรุ่งแดดอุ่นสดใส ปรินซ์ผู้อยู่ในห้วง 41 พรรษาทรงเสด็จออกวิ่งเอ็กเซอร์ไซส์ในเซ็นทรัลพาร์กปะปนไปกับชาวนิวยอร์กเกอร์ทั้งปวง โดยนิตยสารพีเพิลบอกว่าไม่มีผู้ใดจดจำพระองค์ได้ จึงไม่ปรากฏคลิปเจ้าฟ้าชายจ็อกกิ้งหล่อๆ ให้ได้ยลกัน กระนั้นก็ตาม เรื่องราวพระไลฟ์สไตล์จ็อกกิ้งแบบอเมริกันอันนี้ ถูกเล่าลือฟุ้งทั่วอินเทอร์เน็ต
ด้วยพระมู้ดสดชื่นปลอดโปร่ง ปรินซ์ออฟเวลส์เสด็จสู่การประชุมสุดยอดนวัตกรรมเพื่อช่วยลดโลกร้อน และทรงสนทนาเจาะลึกโอกาสการประกาศรายชื่อ 15 ผู้เข้ารอบสุดท้ายแห่งการประกวดโครงการนวัตกรรมเพื่อซ่อมแซมแก้ไขอาการป่วยไข้ของดาวโลก จากปัญหาดินฟ้าอากาศแปรปรวน หรือก็คือ งาน Earthshot Prize Innovation Summit 2023 ณ โรงแรมห้าดาวอย่างเดอะพลาซ่าโฮเทล ข้างเซ็นทรัลพาร์ก โลเกชั่นยอดนิยมของทีมถ่ายทำภาพยนตร์ทั้งปวง
ความเอาจริงขององค์กร Earthshot Prize นับว่ายิ่งใหญ่เรืองรองสมฐานะว่าที่กษัตริย์อังกฤษเป็นอย่างยิ่ง โดยเมื่อปรินซ์วิลเลียม รัชทายาทลำดับแรกแห่งพระราชบัลลังก์อังกฤษ ทรงสถาปนารางวัลขึ้นมาพร้อมสร้างทีมงานขับเคลื่อนภารกิจซึ่งปรินซ์ทรงรับภารกิจประธานด้วยพระองค์เอง องค์การเพื่อดาวโลกแห่งนี้จึงเป็นที่ประทับใจขององค์กรการกุศลมากมาย และทรงได้รับการสนับสนุนจากอภิมหาเศรษฐีอเมริกัน นามว่า ไมเคิล บลูมเบิร์ก ประธานองค์การกุศลบลูมเบิร์ก Bloomberg Philantrophies และทูตพิเศษแห่งองค์การสหประชาชาติในด้านการแก้ปัญหาสภาพดินฟ้าอากาศผันผวน
ในการนี้ รูปแบบความสนับสนุนมีทั้งการสนับสนุนเงินทุน และทั้งการรับเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของ The Earthshot Prize
The Earthshot Prize เป็นพระกรณียกิจที่เจ้าฟ้าชายวิลเลียมทรงศึกษา พัฒนา และจัดตั้งขึ้นในช่วงตั้งแต่ปี 2019 โดยที่ผ่านมาในปี 2021 และปี 2022 มีการมอบทุนดำเนินงานแก่หน่วยงานและบุคคลที่ดำเนินงานด้านนวัตกรรมเจ๋งๆ น่ามหัศจรรย์ใจเพื่อการแก้ไขปัญหาสุขภาพของโลก รวมแล้ว 10 ราย (ปีละ 5 รายใน 5 สาขาภารกิจ ที่ดำเนินการอยู่ในทวีปต่างๆ ทั้ง 6) จากจำนวนที่เข้ารอบ Final ทั้งสิ้น 30 โครงการในสองปีดังกล่าว และอีก 15 โครงการในปีนี้
แต่ละโครงการที่ได้เข้าสู่รอบสุดท้ายล้วนเป็นนวัตกรรมสร้างสรรค์เพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมโลกที่น่าทึ่งสุดๆ
อาทิ เครื่องผลิตถ่านชีวภาพจากซากของผลผลิตการเกษตร โดยถ่านที่ผลิตขึ้นมา จะทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ในเวลาเดียวกัน ยังช่วยยุติการทำลายซากการเกษตรซึ่งชาวบ้านมักใช้วิธีเผา กลายเป็นควันที่ทำลายคุณภาพอากาศอย่างเลือดเย็น นอกจากนั้น ยังช่วยสร้างรายได้เสริมให้แก่เกษตรกรได้เป็นกอบเป็นกำด้วย
การที่เจ้าฟ้าชายวิลเลียมทรงริเริ่มการมอบทุนส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม เป็นจำนวนเงินโครงการละ 1.24 ล้านดอลลาร์ ปีละ 5 โครงการใน 5 สาขา นับเป็นปัจจัยเร่งเคลื่อนให้พลังการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมพัฒนาเดินหน้าเป็นมรรคเป็นผลรวด
เมื่อได้เห็นประสิทธิภาพและผลการดำเนินงานของสารพัดนวัตกรรม ความรู้สึกนึกคิดของผู้คนจึงเต็มไปด้วยความหวัง พร้อมกับชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์และความทุ่มเทของปรินซ์วิลเลียม ลูกพระมารดาไดอานา
สถาบันรางวัล The Earthshot Prize จึงได้รับความชื่นชมอย่างมหาศาล และมีองค์การกุศลเอกชนหลากหลายแห่ง ก้าวเข้าไปร่วมพระกรณียกิจ ตั้งแต่ Bloomberg Philantrophies มูลนิธิ Jack Ma Foundation ไปจนถึง กองทุนเพื่อโลก โดยเจฟ เบโซส แห่ง Bezos Earth Fund และอื่นๆ อีกเยอะเลย
งาน Earthshot Prize Innovation Summit 2023 เสร็จสมบูรณ์ โดยที่หลายๆ นวัตกรรมแห่ง Finalist ที่นำเสนอเป็นออเดิร์ฟบนเวทีซัมมิทนี้ ช่วยเสริมสร้างกำลังใจว่าดาวโลกของมนุษยชาติจะต้องฟื้นขึ้นจากความป่วยไข้ได้จริง
เป็นไวรัลร้อนแรงทีเดียวสำหรับคลิปที่ปรินซ์ทรงเดินทักทายครึกครื้นกับประชาชน หลังเสร็จการเยือนที่หน้าสถานีดับเพลิงหน้าเวิล์ดเทรด
มาปฏิบัติพระกรณียกิจที่มหานครนิวยอร์กในเดือนกันยายนทั้งที หมายกำหนดการที่เจ้าฟ้าชายวิลเลียมไม่ยอมพลาด คือ การเยือนสถานีกู้ภัยและดับเพลิงเทนเฮาส์ หรือก็คือ Ten House New York Fire Department (NYFD) ซึ่งอยู่ใกล้กับมหาอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ แบบว่าระยะขว้างก้อนหินไปถึงได้
หน่วยกู้ภัยและดับเพลิงสถานีเทนเฮาส์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับสถานีอื่นๆ ทั้งปวง ทำการกอบกู้สถานการณ์และช่วยเหลือประชาชนในมหาวิกฤติ 9/11 สืบเนื่องจากผู้ก่อการร้ายจี้เครื่องบินสองลำ แล้วพุ่งเข้าเสียบกลางตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ทั้งสอง กลายเป็นไฟไหม้ลุกลาม จนกระทั่งย่อยยับหมดสิ้นทั้งตัวอาคาร ทั้งวัตถุสิ่งของ และทั้งชีวิตผู้คน
ในการนี้ สถานีดับเพลิงเทนเฮาส์สูญเสียนักผจญเพลิงไปถึง 5 นาย
ผู้บริหารของสถานีดับเพลิงเทนเฮาส์พาชมสถานที่อันเป็นเครื่องเตือนใจถึงความกล้าหาญทรหดของชาวนิวยอร์ก และคุณูปการของนักกู้ภัยและนักดับเพลิง
พร้อมนี้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงผู้อยู่ในเหตุวิกฤตการณ์ ได้ถ่ายทอดเรื่องราวในแง่มุมต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปฏิบัติการค้นหาช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างในซากอาคาร ตลอดจนความเสียหายที่อาคารสถานีได้รับเป็นลูกหลงมากมาย
ด้วยความที่ปรินซ์วิลเลียมทรงมีประสบการณ์โชกโชนในบทบาทผู้ดำเนินการช่วยเหลือผู้คนที่ประสบเหตุด่วนเหตุร้าย ในระหว่างรับราชการนักขับเฮลิคอปเตอร์ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุต่างๆ พระองค์จึงทรงมีคำถามและเรื่องราวที่นำไปแลกเปลี่ยนได้อย่างมากมาย รวมถึงการเยียวยาสุขภาพจิตที่บอบช้ำจากสถานการณ์ร้ายแรงต่างๆ
หลังจากนั้น เป็นพระกรณียกิจมุ้งมิ้งชื่นมื่นที่เจ้าฟ้าชายวิลเลียมทรงโปรดปรานและมีความถนัดเป็นที่ยิ่ง ได้แก่ การพระดำเนินทักทายประชาชนที่รอเข้าเฝ้าอย่างเนืองแน่นตลอดแนวถนนติดหน่วยกู้ภัยและดับเพลิงสถานีเทนเฮาส์ของมหานครนิวยอร์ก หรือก็คือ Ten House New York Fire Department (NYFD) ซึ่งอยู่ใกล้กับมหาอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ในระยะขว้างก้อนหินไปถึงได้
ปรินซ์วิลเลียม ลูกพระมารดาไดอานา ทรงได้หัวใจของชาวนิวยอร์กทั้งมวลและบรรดานักท่องเที่ยวหลากหลายชาติ เพราะทรงให้ความสำคัญแก่ประชาชนที่สละเวลามารอเข้าเฝ้าบนความหวังว่า เพียงขอเช็กแฮนด์สักครั้ง หรือขอเซลฟีสักแชะ หรือกระทั่งเพียงแค่ได้ชื่นชมพระบารมีในระยะสองสามเมตรก็ฉ่ำจิต นำไปโม้ฟุ้งอวดเพื่อนบ้านหัวซอยยันท้ายซอย ขอเท่านั้นจริงๆ
เสียงกิ๊วก๊าวของมหาชนคนเห่อเจ้าปรากฏให้ได้ยินตั้งแต่ที่ปรินซ์ทรงก้าวลงจากรถยนต์รับส่งที่ประตูใหญ่เข้าสู่อาคารสถานีดับเพลิง นิตยสารทาวน์แอนด์คันทรีรายงาน พร้อมให้ข้อมูลว่าไม่มีการประกาศแจ้งล่วงหน้าใดๆ เกี่ยวกับหมายกำหนดการเสด็จเยือนครั้งนี้
แต่เมื่อผู้คนที่ทำงานหรือพักอาศัยในละแวกนั้นสังเกตเห็นการตั้งแผงกั้นจราจรโดยรอบสถานี จึงไถ่ถามกันจนข่าวสะพัดไปอย่างรวดเร็ว แล้วประชาชนทั้งชาวนิวยอร์กเกอร์และนักท่องเที่ยวก็พากันมาจองที่ยืน ประมาณจะลุ้นได้ชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด รวมแล้วเกือบหนึ่งพันราย
และแล้วนาทีที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง ฝูงชนฮือฮาตื่นเต้นเมื่อปรินซ์ออฟเวลส์ทรงเดินข้ามถนนลิเบอร์ตีใกล้อนุสรณ์สถาน 9/11 เข้าไปทักทายเหล่าแฟนคลับให้ชื่นฉ่ำใจสมกับที่รอคอยกัน
คุณดอรา เบิร์กสไตเนอร์ นิวยอร์กเกอร์ย่านสเตเทน ไอส์แลนด์ และทำงานในตึกตรงข้ามสถานีเทนเฮาส์ เป็นหนึ่งในประชาชนกลุ่มแรกๆ ที่ไปปักหลักยืนเกาะแผงกั้นจราจร รอเข้าเฝ้า
“อยากเห็นปรินซ์วิลเลียมตัวเป็นๆ น่ะค่ะ” คุณเบิร์กสไตเนอร์ให้สัมภาษณ์แก่ทาวน์แอนด์คันทรีตั้งแต่ที่ปรินซ์ยังมิได้เสด็จมาถึง เธอบอกว่าปกติก็ไม่ได้ติดตามข่าวสมาชิกพระราชวงศ์ แต่เมื่อทราบว่าเป็นเจ้าฟ้าชายวิลเลียมที่จะเสด็จมา เธอก็ไม่อยากพลาดโอกาสเฝ้าชมพระบารมีระยะประชิดขนาดนี้
ปรากฏว่าเทวดาเห็นใจในความวิริยะ เมื่อเจ้าฟ้าชายวิลเลียมทรงเสร็จพระกรณียกิจแห่งสถานีเทนเฮาส์แล้ว ทรงเดินตรงสู่แนวแผงกั้นจราจร ไปทักทายกับประชาชน และก็เป็นคุณเบิร์กสไตเนอร์ที่ปรินซ์ทรงจับมือเช็กแฮนด์สนทนาด้วยเป็นรายแรก
“ดิฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าได้จับมือกับพระองค์อย่างที่ปรารถนา” เธอกล่าวกับทาวน์แอนด์คันทรีไว้อย่างนั้นในการให้สัมภาษณ์รอบที่สอง ใบหน้าเปล่งปลั่งด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ทันได้ตั้งตัวอ่ะค่ะ ประหม่าตื่นเต้นไปหมด พระราชวงศ์ไม่ใช่เรื่องถนัดของดิฉันเลย แต่ดีใจเหลือเกินที่ได้สัมผัสกับพระองค์ใกล้ชิดอย่างนี้ ดีใจมากที่พระองค์ทรงให้เกียรติประชาชน ทรงไม่ถือพระองค์เลย” เธอกล่าวเปิดความในใจแบบว่ายังปลื้มไม่เสร็จ
อาลิสา บูดิฮัส นิวยอร์กเกอร์อีกนางหนึ่งซึ่งทำงานในละแวกใกลักับสถานีเทนเฮาส์ บอกทาวแอนด์คันทรีว่า เธอเป็นพวก ‘คลั่งเจ้า’ ขั้นสุดและเฝ้าติดตามข่าวสมาชิกพระราชวงศ์ในบรรยากาศใหม่ๆ แห่งยุคสหัสวรรษที่ 3 เธอเล่าด้วยว่าเธอรีบไปซื้อของที่ระลึกแห่งนิวยอร์กซิตีเพื่อนำถวายแด่ปรินซ์ และมายึดพื้นที่รอลุ้นให้ได้สัมผัสใกล้ชิดพระองค์
ความปรารถนาของเธอเป็นจริง ได้เช็กแฮนด์ ได้เจ๊าะแจ๊ะ ได้ถวายของที่ระลึก เช่น เสื้อยืดลายไอเลิฟนิวยอร์ก ขณะให้สัมภาษณ์นั้น เธอยังร้องไห้ปลื้มใจชีวิตอยู่เลย
“ปลื้มปิติท่วมท้นค่ะ มีความสุขมาก รู้สึกขอบพระทัยมากที่พระองค์ทรงใจดี ทรงสุภาพน้ำพระทัยน้ำพระทัยงดงามเหลือเกิน ท่านเป็นอย่างที่ดิฉันจินตนาการไว้เลยค่ะ” สาวบูดิฮัสให้สัมภาษณ์น้ำตาแห่งความยินดีเปื้อนแก้มตลอดเวลา
ในส่วนของกลุ่มนักท่องเที่ยวจากชาติต่างๆ ที่ยอมงดตารางทัวร์หนึ่งแมตช์ เพื่อไปยืนรอโอกาสได้รับเสด็จปรินซ์แห่งเวลส์ ซึ่งเป็นรัชทายาทอันดับ 1 แห่งราชบัลลังก์อังกฤษ ก็มีเกร็ดความประทับใจให้นักข่าวเดลิเมลออนไลน์นำมาถ่ายทอดเยอะเลย
นักท่องเที่ยวจากบราซิลบอกว่าปรินซ์ทรงยิงมุกน่ารักโดยทรงตรัสว่าดีจริงๆ ที่ทีมสูงวัยสายทัวร์ นำแสงตะวันแจ่มๆ แบบบราซิลเลียนมาฝากชาวนิวยอร์กเกอร์ เดลิเมลออนไลน์เล่าอย่างนั้น
เมื่อปรินซ์ออฟเวลส์ทรงถูกคุณแม่อเมริกันทูลถามว่าทำไมเจ้าหญิงเคทมิได้ตามเสด็จมานิวยอร์กด้วยเพคะ คำถามแบบง่ายๆ แต่ตอบยากจริงๆ เยี่ยงนี้ ปรินซ์แห่งราศีเมถุนผู้มีพรสวรรค์ด้านถ้อยคำมากกว่าใคร ทรงประทานคำตอบตัดช็อตไปเลยว่า พระชายาเคทจะมาเที่ยวหน้า มาพร้อมพระโอรสพระธิดาครบทุกพระองค์
เดลิเมลออนไลน์รายงานข้อมูลจากทีมนักท่องเที่ยวจากแคนาดาด้วย โดยเจ้าฟ้าชายวิลเลียมทรงตรัสกับคุณบาร์บารา แพตเทอร์สัน วัย 60 กะรัตว่า “ผมไม่กล้าถามนะครับว่าคุณอายุเท่าไร” คุณบาร์บารารีบเฉลยเลย “หกสิบแล้วเพคะ” เท่านั้นเอง มุกน่ารักก็มาเชียว “ตีซะว่าห้าสิบละกันครับ” ปรินซ์เจ้าเสน่ห์ทรงกล่าวอย่างนั้น
ส่วนคุณรีเบกกา แมคแคเคิร์น วัย 60 กะรัตเช่นกันเล่าสู่ผู้สื่อข่าวว่าปรินซ์ทรงถูกแซว พระองค์จึงยิงมุกแบบอำสนิทพระพักตร์ยิ้มละไม “วัย 60 นี่ เป็นวัยนักเลงใช่มั้ยฮะ” พรรคพวกทั้งก๊วนฮากันอย่างตรึม
พร้อมนี้ คุณรีเบกกาชื่นชมเจ้าฟ้าชายวิลเลียมซะยกใหญ่บอกว่า พระองค์ทรงน่ารักเหลือเกิน และการรอรับเสด็จนี้เป็นความตื่นเต้นวิ้ดวิ่วของชีวิต
ปรินซ์วิลเลียมทรงยิ้มและทรงหัวเราะสนุกสนานขณะเจ๊าะแจ๊ะวิสาสะกับประชาชน ทรงถามไถ่ว่าเป็นคนนิวยอร์กหรือมาจากเมืองไหนประเทศอะไร เมื่อมีผู้ใดขอถ่ายรูปเซลฟี ก็ทรงโอเคเสมอ เดลิเมลออนไลน์เล่าไว้
ด้าน GBNews America รายงานคำให้สัมภาษณ์ของสองสาวเท็กซัสที่เดินทางมามหานครนิวยอร์กเป็นการเฉพาะเพื่อจะได้เช็กแฮนด์กับปรินซ์วิลเลียม หรือถ่ายเซลฟี่ด้วยกันสักครั้ง ดังนี้
“ดิฉันกับลูกชายชื่นชมปรินซ์วิลเลียมมากค่ะ พระองค์ทรงดำเนินงานต่างๆ เพื่อช่วยคนยากคนจน แล้วยังปัญหาสิ่งแวดล้อมโลกอีก ทรงลงมือทำอย่างจริงจัง คนอเมริกันชอบนคะโลกทัศน์เชิงบวกของพระองค์ใน Earthshot Prize น่ะค่ะ คือ ปลุกใจให้หวังได้ว่าเราสามารถช่วยแก้ปัญหาของโลกให้สำเร็จด้วยกัน”
เสียงชื่นชม ‘ปรินซ์นักสิ่งแวดล้อมมาดแมน’ กระหึ่มฮือฮา ตรงกับที่โพลชี้ว่าเจ้าชายวิลเลียมแห่งอังกฤษทรงป๊อบปูลาร์สูงสุดในอเมริกา
ทริปนิวยอร์กที่เจ้าฟ้าชายวิลเลียมเสด็จไปโปรโมทอเมริกันชนและผู้คนทั่วโลก ให้ตระหนักถึงวิกฤติดินฟ้าอากาศผันผวน และให้เล็งเห็นเครื่องมือแก้ไขเยียวยาต่างๆ ซึ่ง The Earthshot Prize ดำเนินการอยู่นั้น ได้รับกำลังใจและความสนับสนุนจากประชาชนในยูเอสเอกว่าครึ่งประเทศ นิวสวีกรายงานอย่างนั้น
โดยนิวสวีก อิงอยู่กับผลสำรวจความคิดเห็นที่นิวสวีกเป็นเจ้าภาพจัดทำเมื่อสองวันก่อนหน้างาน Earthshot Prize Innovation Summit 2023 โดยมอบให้บริษัทวิจัยเรดฟิลด์แอนด์วิลตันดำเนินการ ณ วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน 2023
ในการสำรวจมีคำถามอยู่ว่า เห็นด้วย หรือ คัดค้าน ที่ปรินซ์วิลเลียมทรงขับเคลื่อนแก้ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมและสภาวะดินฟ้าอากาศผันผวนที่สหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 18-19 กันยายน 2023
ผลโพลออกมาน่าทึ่ง มีผู้ตอบว่าสนับสนุนปรินซ์วิลเลียมสูงถึง 47% ขณะที่ผู้ตอบว่าไม่เห็นด้วยมีเพียง 13% ทั้งนี้ กลุ่มผู้ตอบแบบสำรวจที่เป็นสายเชียร์ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศสนับสนุนปรินซ์กว่า 60% ทีเดียว ส่วนผู้ที่เป็นสายเชียร์อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ประกาศสนับสนุนไม่น้อยเลย คือ 37%
ด้านนิวยอร์กโพสต์รายงานถึงบรรดาทวิตอันล้นหลาม เต็มไปด้วยข้อความชื่นชมปรินซ์วิลเลียม ผู้เจ้าเสน่ห์ด้วยการทรงงานเพื่อมนุษยชาติและการมีหุ่นเท่กับออร่าอบอุ่น ดังนี้
@RoyallyBelle โพสต์ซีรีส์ของหลากหลายภาพฝูงชนเบียดกันเข้าเฝ้าชมพระบารมีบน เอ็กซ์ และทวิตว่า
“ปรินซ์วิลเลียมทรงป็อบปูลาร์ในอเมริกา ฝูงชนคนนิวยอร์กเกอร์ไปออกันรอยลโฉมพระองค์อย่างเนืองแน่น”
และมีอีกรายหนึ่งยิงมุกสำทับ
“ใช่เลยจร้า ทรงป็อบปูลาร์อย่างยิ่ง คนนิวยอร์กเกอร์ไปกรี๊ดพระองค์กันแน่น แบบเดียวกับที่บอสตันปีกลาย ฝูงชนไปกางร่มตากฝน รอชื่นชมพระองค์ตัวเป็นๆ ที่ศาลากลางนครบอสตันน่ะ” นิวยอร์กโพสต์เล่าไว้
และอีกรายหนึ่งบอกว่าปรินซ์วิลเลียมทรงดึงเอาความน่ารักของชาวนิวยอร์กเกอร์ออกมาได้มากมาย
“ผมรู้สึกขนลุกซู่ที่ได้เห็นเพื่อนนิวยอร์กเกอร์ถวายการต้อนรับพระองค์อย่างยิ่งใหญ่ ปกติพวกเราก็ไม่ถึงกับเห่อเจ้านะ แต่ปรินซ์ทรงมีบางสิ่งที่อบอุ่นและจริงใจ” นิวยอร์กโพสต์รายงานอย่างนั้น
สำหรับนิวสวีกนั้น ไปสำรวจกระแสปรินซ์ฟีเวอร์ บน TikTok และยกกระทู้สนุกๆ มาให้อ่าน
“พระองค์ทรงดูเป็นเจ้าชายทุกกระเบียดนิ้วอ้ะ” ติ๊กต่อกเกอร์นางหนึ่งเขียนอย่างนั้น แล้วสำทับว่า “ปรินซ์วิลเลียมเพคะ เราขอคารวะพระองค์ค่ะ”
อีกรายหนึ่งเขียนว่า “นิวยอร์กรักปรินซ์วิลเลียมกันสุดๆ”
กระทู้นี้มีการต่อยอดว่า “ฉันเป็นอเมริกัน ฉันรักปรินซ์วิลเลียม พระองค์ทรงเป็นปรินซ์สุดแสนเพอร์เฟ็กต์”
โดยปรากฏการณ์ “ปรินซ์ฟีเวอร์” ณ นิวยอร์กซิตีที่ฮือฮาสุดๆ ของเที่ยวนี้ ได้แก่ คลิปของ @gatito1968 ภายใต้หัวข้อสุดโฉบเฉี่ยวว่า
“นิวยอร์กหลงเสน่ห์ปรินซ์วิลเลียมผู้พิชิต William the Conqueror”
โดยคลิปนี้ที่มีพระกรณียกิจทักทายประชาชนและการเสด็จเยี่ยมชมภารกิจของนักกู้ภัยและผจญเพลิงสถานีเทนเฮาส์ ถูกนำขึ้นบน TikTok เมื่อวันพุธที่ 20 กันยายน 2023 และสามารถทำสถิติเลอเลิศด้วยจำนวนผู้ชมมากกว่า 125,000 ครั้ง และได้รับแรงเชียร์มากกว่า 11,000 ไลค์ กับคอมเมนต์เกือบ 700 คอมเมนต์ นิวสวีกรายงาน พร้อมบอกว่าคอมเมนต์ส่วนใหญ่คือชื่นชมในตัวตนของปรินซ์ และเชิดชูพระกรณียกิจต่างๆ ในทริปสองวันสั้นๆ อันตราตรึงใจ นิวสวีกรายงาน
กระแสชื่นชมหลงใหลในความดีงามและในภาพลักษณ์เซ็กซีของปรินซ์วิลเลียม ส่งสัญญาณวิ้ดวิ่วในโพลต่างๆ ตลอดสามไตรมาสแรกของปีนี้
โดยแหมบๆ เมื่อเดือนที่แล้ว (สิงหาคม 2023) โพลของแกลลัพ หรือก็คือ Gallop Poll พบว่าในจำนวน 15 บุคคลสำคัญแห่งข่าวดังของโลก อาทิ ประธานาธิบดีไบเดน อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ประธานาธิบดีเซเลนสกีแห่งยูเครน ไปจนถึงสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 นั้น เจ้าฟ้าชายวิลเลียมแห่งราชวงศ์อังกฤษ ทรงได้รับคะแนนนิยมจากคนอเมริกันสูงที่สุด
โดยมีการตอบคำถามว่าทำไมจึงโหวตให้ปรินซ์วิลเลียม ดังนี้ ส่วนใหญ่บอกว่าชื่นชมพระกรณียกิจการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสและการกอบกู้โลกที่พระองค์ทุ่มเทเหลือเกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทรงดำเนินงานก้าวข้ามพรมแดนออกไปอย่างทั่วถึง เดลิเมลออนไลน์รายงานอย่างนั้น
ที่ผ่านมา เสน่ห์บาดใจของปรินซ์วิลเลียมในยุควัยรุ่น ดร็อปลงไปมากมายในช่วงวัย 30 พรรษา เพราซึ่งทรงประสบปัญหาผมร่วงจนทำความเซ็กซีของพระพักตร์ได้ปลาสนาการไป หลังจากทรงเคยเป็นวัยรุ่นหน้าหยก หล่อบาดใจสาวทั่วโลกด้วยเรือนผมดกหนาสีบลอนด์ กับรอยแย้มพระสรวลน่ารักน่าหยิกที่ทรงได้จากพระมารดาไดอานา
ในปัจจุบันที่พระชนมายุเข้าสู่ช่วงหลักสี่ ณ 41 พรรษา ปรินซ์วิลเลียมทรงฟิตแอนด์เฟิร์มอย่างน่าทึ่ง โดยพระองค์และพระชายา เจ้าหญิงเคท ทรงจัดสรรเวลาเพื่อการกีฬาอย่างสม่ำเสมอ ทั้งว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน วิ่ง กระโดดแทรมโพลิน ตลอดจนกีฬาทั้งมวลที่ใช้แร็กเก็ตและลูกบอล ซึ่งเป็นไปตามหลักชีวิตที่ครบเครื่องด้วยพระกายแข็งแรง พระสุขภาพจิตแจ่มใส และพระกิจกรรมกลางแจ้งทั้งปวง เดลิเมลออนไลน์เล่าไว้อย่างนั้น
พร้อมนี้ เดลิเมลออนไลน์ยังได้นำการวิเคราะห์ของ ริชาร์ด ฟิตซ์วิลเลียมส์ ผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์คนดังของอังกฤษมานำเสนอว่า เสน่ห์แห่งความดีงามและความมาดแมนแสนเท่ของปรินซ์แห่งเวลส์ สร้างความประทับใจในบรรดาอเมริกันชน และได้ยกระดับของพระองค์ขึ้นเหนือกว่าพระอนุชาแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ โดยที่ประเด็นโจมตีกล่าวที่ถูกพระอนุชาสาดใส่ ก็ถูกมองออกว่าล้วนแต่ดรามาทั้งเพ
“เห็นได้ว่าในที่สุด ผู้คนในอเมริกามองเนื้อแท้ของดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ความจริงข้อนี้เกิดขึ้นควบคู่กับปัญหาความแตกหักในระหว่างเจ้านายฝ่ายซัสเซกซ์และเจ้านายฝ่ายเวลส์ และทำให้เห็นว่าความหลงตนของฝ่ายซัสเซกซ์ถูกปอกเปลือกออกมาโล่งโจ้งแล้ว แม้ดัชเชสเมแกนเป็นคนอเมริกัน และเคยได้รับความสงสารเห็นใจ แต่ตอนนี้ทุกอย่างปรากฏแจ่มแจ้งว่า เจ้าฟ้าชายวิลเลียมคือผู้ที่น่านิยมนับถือ” ริชาร์ด ฟิตซ์วิลเลียมส์ กล่าวอย่างนั้น
กูรูกลยุทธ์ Branding ฟันธงพระทริปนิวยอร์กสำเร็จยิ่งใหญ่ ดึงพลังชื่นชมขึ้นมารอบใหม่ ช่วยฟื้นภาพพระราชวงศ์ สตรองสุดๆ
นักประชาสัมพันธ์ ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์ วิเคราะห์ฟันธงว่าในการเสด็จเยือนนครที่มิเคยหลับใหลแห่งนิวยอร์กนี้ ปรินซ์วิลเลียมทรงประสบความสำเร็จที่ชวนให้ตะลึง เดลิเมลออนไลน์รายงานอย่างนั้น
นิค เอดี๊ ผู้เชี่ยวชาญด้านแบรนด์และวัฒนธรรมบอกว่า ทริปเสด็จนิวยอร์กขององค์รัชทายาทหมายเลข 1 แห่งสหราชอาณาจักรเป็นโมเดลความสำเร็จให้ลอกเลียนแบบได้สำหรับผู้ที่หมายจะครองหัวใจมวลมหาประชาชนอเมริกัน นอกจากนั้นยังชี้ด้วยว่าเจ้าฟ้าชายวิลเลียมผู้ทรงเปี่ยมด้วยศักยภาพ ได้แสดงให้เห็นถึงความเป็น “รัฐบุรุษ” และทูตสันถวไมตรีกิตติมศักดิ์แห่งสหราชอาณาจักร
“ปรินซ์วิลเลียมทรงบริหารพระเสน่ห์เป็นที่จับใจของคนอเมริกันทั้งประเทศขณะเยือนสหรัฐฯ ครับ” ผู้เชี่ยวชาญเอดี๊กล่าวกับเดลิเมลออนไลน์ และย้ำถึงความยิ้มง่ายและมากมายด้วยมุกขำของปรินซ์วิลเลียมด้วยว่า
“พระองค์ทรงทำให้พระราชวงศ์อังกฤษได้รับความเคารพนับถือกลับคืนมาครับ โดยทรงแสดงคุณลักษณ์ดีงามต่างๆ ออกมาจุดประกายให้ผู้คนมีความสุข เปี่ยมความหวังกับอนาคต
“ทรงเป็นคนสนุก กล้าหาญ ชาญฉลาด และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น พระจริยวัตรดีงามมากมายทำให้พระองค์แตกต่างและโดดเด่น ผู้คนรู้สึกอุ่นใจเมื่อนึกถึงวันเวลาที่พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ พร้อมกับรู้สึกชื่นชมกับความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนโครงการพระดำริ ทั้งเรื่อง Earthshot Prize และเรื่องสิ่งแวดล้อม
“ในทริปนี้ ปรินซ์ทรงฉายเดี่ยวบนเวทีโลกโดยไม่ได้พาพระชายาตามเสด็จ ทำให้ความโดดเด่นมารวมศูนย์อยู่ที่ตัวพระองค์ทั้งหมดน่ะครับ เพราะไม่มีแฟชั่นโชว์ของเจ้าหญิงเคทไปดึงความสนใจออกมา
“ปรินซ์ทรงเอาชนะหัวใจของคนชาตินี้ได้เป็นอย่างดีครับ หนำซ้ำสถานภาพเซ็กซ์ซิมโบลของพระองค์ก็ฟื้นตัวฮือฮาขึ้นมา นี่ทำให้พระเสน่ห์ พระอัชฌาสัย และพระวิสัยทัศน์ฉายแสงเรืองรอง จะในเวลาที่เดินทักทายประชาชน หรือจะในตอนพบปะสนทนากับบุคคลสำคัญทั้งหลาย ก็พอๆ กันเลยครับ” นิก เอดี๊ ผู้เชี่ยวชาญด้านแบรนด์ ฟันธงไว้กับเดลิเมลออนไลน์
ด้าน ริชาร์ด ฟิตซ์วิลเลียมส์ ผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์ ก็ให้เกรดเอแก่ผลงานการเยือนนิวยอร์กซิตีในคราวนี้ และบอกกับเดลิเมลออนไลน์ว่าพระโมเมนต์ที่ทรงลุยลงไปปฏิบัติพระกรณียกิจในแม่น้ำอีสต์ริเวอร์เมื่อวันจันทร์ ช่วยโหมกระแสเล่าลือถึงความเซ็กซีเร้าใจขึ้นในดวงใจของสาธารณชนอย่างที่ไม่ได้คาดคิดกันมาก่อน
“เป็น Diana Effect ครับ คนอเมริกันรักพระมารดาไดอานาของพระองค์ทั้งนั้นล่ะครับ เห็นได้ชัดว่าความผูกพันพิเศษมากมากมายที่เคยรู้สึกกับอดีตเจ้าหญิงแห่งเวลส์ผู้ล่วงลับ ถูกถวายแก่ปรินซ์วิลเลียม” กูรูฟิตซ์วิลเลียมส์ กล่าว
ในเวลาเดียวกัน ฟิตซ์วิลเลียมส์เอ่ยถึงผลสำรวจความคิดเห็นโดยแกลลัพโพลเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาด้วยว่า นอกจากที่เจ้าฟ้าชายวิลเลียมจะยืนหนึ่งในฐานะบุคคลที่ป็อบปูลาร์มากที่สุดในความรู้สึกของคนอเมริกันแล้ว ยังพบเทรนด์สำคัญคือไม่ว่าจะเป็นคนรีพับลิกันหรือคนเดโมแครตต่างชื่นชมพระองค์
“ปรินซ์ทรงได้คะแนนนิยมกว่า 60% จากคนรีพับลิกัน และกว่า 60% จากคนเดโมแครตด้วย เรตติ้งแบบนี้น่าทึ่ง เพราะไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นกับผู้ใดได้ง่ายๆ ภายในสังคมอันแตกแยกร้าวลึกด้านทัศนคติทางการเมืองอย่างในสหรัฐฯ ปัจจุบันนี้ล่ะครับ” ฟิตซ์วิลเลียมส์กล่าวอย่างนั้น
สำหรับสื่อมวลชนอเมริกันนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะสนุกกับการเล่นข่าวพระกรณียกิจของเจ้าฟ้าชายวิลเลียมมากมายปานใด เพราะแต่ละข่าว แต่ละคลิป ที่ยิงออกไป ล้วนได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างล้นหลาม
ฟ็อกซ์นิวส์ชี้ว่าทริปของปรินซ์แห่งเวลส์ในนครบิ๊กแอปเปิล ช่างตรงข้ามเป็นฟ้ากับเหวเมื่อเทียบกับทริปของปรินซ์แฮร์รีเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งมากมายด้วยดรามา โดยพระองค์ทรงส่งคำแถลงไปยังสื่อค่ายต่างๆ ว่าทรงประสบวิกฤติเฉียดตายเพราะถูกช่างภาพปาปารัสซีขับรถไล่ตามจะถ่ายรูป
มีการจัดชั้นเปรียบเทียบพระกรณียกิจของพระเชษฐากับพระอนุชาว่า เป็นกรณีแห่ง “การรักษาพระเกียรติยศ กับการทำตามใจตนเองอย่างระห่ำ” ซึ่งเป็นมุมมองของ คริสโตเฟอร์ แอนเดอร์สัน ผู้เขียนหนังสือชีวประวัติสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 เรื่อง The King ที่ ฟ็อกซ์นิวส์ ดิจิทัล เพิ่งไปสัมภาษณ์มา
“ตอนที่ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์มานิวยอร์กซิตีเมื่อพฤษภาคมที่แล้ว ทั้งสองบินมาด้วยเครื่องบินเจ็ตเหมาลำ (รัชทายาทหมายเลข 1 เสด็จมากับเครื่องบินพาณิชย์) พร้อมกับนำข้าวของสัมภาระมากมาย แถมด้วยการบ่นว่าโวยวายโน่นนี่อีกต่างหาก
“เจ้านายแห่งซัสเซกซ์แสดงท่าทีที่จะพิสูจน์ให้ได้เห็นกันว่าพระองค์มีปัญหาเหมือนเจ้าหญิงไดอานา คือทรงโดนสื่อมวลชนคุกคามร้ายแรง แล้วพระองค์ก็ทรงปล่อยข้อมูลแก่สื่อมวลชนว่าทรงถูกปาปารัสซีขับรถไล่ล่าด้วยความเร็วสูงไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตแมนแฮตตัน แบบกัดติดไม่ยอมเลิกรานานกว่าสองชั่วโมง
“แต่ฝ่ายต่างๆ พิจารณาแล้ว ก็เชื่อไม่ลงเลยครับ เพราะแม้แต่ผู้ที่คุ้นเคยกับนิวยอร์กซิตีไม่มาก ก็ทราบว่าเรื่องแบบนั้นไม่อาจเป็นจริงได้ในสภาพการณ์ของแมนแฮตตัน และจึงมองว่าเป็นการเพ้อละเมอดรามาอย่างที่สุด”
ภาพลักษณ์ชวนฝันของปรินซ์วิลเลียม ที่สาวๆ แอบปลื้มกันมาก คือ DILF ย่อมากจาก “คุณพ่อที่นู๋อยากหม่ำ”
ในวันที่เจ้าชายแห่งเวลส์ทรงขึ้นเวทีในเขตพระราชฐานวินด์เซอร์ นำถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ผู้เป็นพระราชบิดานั้น สาวน้อยสาวใหญ่แม่ม่ายและชายเกย์แห่กันละเมอทวิตน้ำลายหก ถึงปรินซ์ออฟเวลส์ด้วยคำว่า DILF หรือก็คือ Daddy (that) I’d like to F*** แปลไทยได้ประมาณว่าคุณพ่อที่หนูอยากหม่ำ เดลิเมลออนไลน์รายงานพร้อมยกตัวอย่างดังนี้
แอคเคาน์หนึ่งเปิดกระทู้ว่า “ถ้าแบบพระองค์ไม่เรียกว่าฮอต ฉันก็ไม่รู้ว่าจะมีใครอีกแล้วที่จะเร่าแรง”
อีกแอคเคาน์หนึ่งทวิต “ปรินซ์วิลเลียมทรงร้อนแรงน่ากินจริงๆ จะไม่ตอบคำถามอื่นใดละนะ”
แอคเคาน์ที่ 3 ตามมาเสริม “ปรินซ์วิลเลียมฮอตขั้นสุด ขออภัยนะ”
แอคเคาน์ที่ 4 เด็ดกว่าใคร “ปรินซ์วิลเลียมคือ DILF ที่ฉันต้องได้!!”
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา: เดลิเมลออนไลน์ นิวยอร์กไทมส์ นิวยอร์กโพสต์ นิวสวีก พีเพิล ทาวน์แอนด์คันทรี จีบีนิวส์ อเมริกา ฟ็อกซ์นิวส์ เว็บไซต์ Billion Oyster Project)