นักการทูตระดับสูงจากเกาหลีใต้ จีน และญี่ปุ่น ลงความเห็นพ้องที่จะจัดการประชุมซัมมิตระหว่างผู้นำของทั้ง 3 ชาติ “โดยเร็วที่สุด ในวันเวลาที่ทุกฝ่ายสะดวก” ตามคำแถลงจากกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้วันนี้ (26 ก.ย.)
จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เคยมีข้อตกลงที่จะจัดประชุมซัมมิตกันเป็นประจำทุกปีมาตั้งแต่ปี 2008 เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในภูมิภาค แต่เนื่องจากข้อพิพาทระดับทวิภาคีและผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้การพบปะหารือระดับผู้นำของทั้ง 3 ชาติห่างหายไปนาน โดยครั้งสุดท้ายถูกจัดขึ้นเมื่อปี 2019
กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ระบุว่า ทั้ง 3 ชาติอยู่ระหว่างหารือเรื่องวันเวลาที่เหมาะสม โดยจะมีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกันอีกครั้ง “ภายในอีก 2-3 เดือน” ข้างหน้า
เกาหลีใต้ซึ่งเป็นเจ้าภาพการประชุม 3 ฝ่ายในปีนี้ได้เสนอให้จัดการประชุมในช่วงปลายเดือน ธ.ค.
โยโกะ คามิคาวะ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ยอมรับว่าจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ต่างเล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องฟื้นฟูการหารือระดับสูง ซึ่งรวมถึงจัดประชุมซัมมิตโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“ดิฉันคิดว่าการหารือเกี่ยวกับความท้าทายหลายด้านที่ภูมิภาคของเรากำลังเผชิญอยู่ ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง” คามิคาวะ ให้สัมภาษณ์ที่กรุงโตเกียว
การหารือระหว่างนักการทูตของทั้ง 3 ชาติมีเป้าหมายส่วนหนึ่งเพื่อบรรเทาความกังวลของจีน หลังจากปีนี้ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ซึ่งเป็น 2 พันธมิตรหลักของสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงยุติข้อพิพาททางการทูต กฎหมาย และการค้า ซึ่งมีชนวนเหตุมาจากการที่ญี่ปุ่นเคยยึดครองคาบสมุทรเกาหลีเมื่อช่วงปี 1910-1945
หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงวันนี้ (26) ว่า “เราต่างเห็นตรงกันว่า การสานต่อความร่วมมือจะทำให้ทั้ง 3 ชาติได้รับประโยชน์... เราควรจะทำงานร่วมกันเพื่อยกระดับความร่วมมือในเชิงปฏิบัติให้เข้มแข็ง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค”
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้ระบุว่า รัฐบาลจีนมีความกระตือรือร้นที่จะส่งเสริมความร่วมมือและจัดการประชุมแบบไตรภาคีเรื่อยมา นับตั้งแต่ความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้เริ่มแย่ลงจากการที่โซลอนุญาตให้สหรัฐฯ ส่งระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD เข้าไปประจำการเมื่อปี 2017
ถง จ้าว (Tong Zhao) นักวิเคราะห์อาวุโสจากสถาบัน Carnegie Endowment for International Peace ในสหรัฐฯ ชี้ว่า จีนน่าจะมีเป้าหมายกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างทั้ง 3 ชาติเพื่อคานอำนาจกับยุทธศาสตร์การจับขั้วของสหรัฐฯ รวมถึงส่งเสริมการติดต่อแลกเปลี่ยนในระดับพลเมือง และยกระดับการสื่อสารพูดคุยกับโซลและโตเกียวในด้านความมั่นคง
จ้าว ชี้ว่า การหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและรักษาสายสัมพันธ์ด้านความมั่นคงที่มีเสถียรภาพกับจีนเอาไว้ถือเป็นประโยชน์สำหรับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เองด้วย เนื่องจากทั้ง 2 ชาติยังต้องหวังพึ่งอิทธิพลจีนในการเหนี่ยวรั้งโครงการพัฒนานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
ที่มา : รอยเตอร์