เอเจนซีส์ - แหล่งข่าวในรัฐบาลแคนาดายืนยันว่า หน่วยข่าวกรองแคนาดามีหลักฐานในมือเป็นการติดต่อสื่อสารของเจ้าหน้าที่อินเดีย รวมถึงเจ้าหน้าที่อินเดียประจำแคนาดา แถมได้ประเทศพันธมิตรในกลุ่ม Five Eyes ช่วยส่งข้อมูลให้อีกแรงมัดนิวเดลี โจดี โธมัส (Jody Thomas) ที่ปรึกษาข่าวกรองและความมั่นคงข่าวออตตาวาเดินทางไปคุยอินเดียถึง 2 รอบ สหรัฐฯ ยืนเคียงข้างชี้ ต้องการเห็นคนกระทำผิดโดนลงโทษ รับคุยกับแคนาดาหลายรอบในคดีนี้ วอชิงตันโพสต์เปิด มีรายงานนายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด พยายามกดดันให้ชาติสมาชิก Five Eyes ร่วมประณามอินเดียทางสาธารณะในที่ประชุม G20 แต่โดนปฏิเสธ
CBC News สื่อแคนาดารายงานวานนี้ (21 ก.ย.) ว่า แหล่งข่าววงในที่เป็นผู้หญิงได้เปิดเผยกับ CBC News ว่า รัฐบาลนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ได้ทุ่มทรัพยากรมนุษย์และการข่าวกรองมาหลายเดือนในการสอบสวนการเสียชีวิตของผู้นำแบ่งแยกดินแดนชาวซิกข์ ฮาร์ดีป ซิงห์ นิจจาร์ (Hardeep Singh Nijjar) วัย 45 ปี ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.
ข่าวกรองลับยังรวมไปถึงการสื่อสารเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่อินเดียเอง และรวมถึงจากนักการทูตอินเดียที่ประจำอยู่ในแคนาดา แหล่งข่าวออตตาวาเผย
นอกจากนี้ ที่สำคัญข่าวกรองลับที่แคนาดาได้ในคดีนี้ยังมาจากชาติสมาชิกในกลุ่ม Five Eyes
และพบว่าก่อนที่นายกรัฐมนตรีแคนดาจะขึ้นเปิดเผยว่า นิวเดลีนั้นอยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตในวันจันทร์ (18) และนำมาสู่ล่าสุดรัฐบาลนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี สั่งระงับการออกวีซ่าให้พลเมืองแคนาดาวานนี้ (21) นั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงแคนาดาได้เดินทางไปกรุงนิวเดลีเกี่ยวข้องกับการสอบสวนในเรื่องนี้ถึง 2 ครั้งในเดือนที่ผ่านมา และเดือนนี้
โจดี โธมัส (Jody Thomas) ที่ปรึกษาข่าวกรองและความมั่นคงข่าวออตตาวาอยู่ในอินเดียนานถึง 4 วัน ในช่วงกลางสิงหาคม และอีกครั้งเป็นเวลา 5 วันในเดือนนี้
ซึ่งการเยือนหนที่ 2 นั้นเกิดขึ้นในช่วงตรงกับที่ทรูโดมีการหารืออย่างเคร่งเครียดร่วมกับนายกรัฐมนตรีโมดี
แหล่งข่าววงในแคนาดากล่าวว่า เมื่อมีการคาดคั้นเกิดขึ้นในห้องประชุมแบบปิดลับ พบไม่ว่าไม่มีเจ้าหน้าที่อินเดียคนใดกล่าวปฏิเสธต่อข้อหาฉกาจฉกรรจ์ที่มีหลักฐานชี้ไปว่ารัฐบาลนิวเดลีเกี่ยวข้องในการลอบสังหารพลเมืองแคนดาในแผ่นดินแคนาดา
“ดิฉันขอยืนยันได้ว่าการตัดสินใจในการเปิดเผยข้อหาเหล่านี้ในสภาผู้แทนราษฎรแคนาดา..ไม่ได้ออกมาอย่างง่ายดาย”
ทรูโดกล่าวในวันพฤหัสบดี (21) ที่เมืองนิวยอร์กหลังการเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติ
“มันเกิดขึ้นด้วยความจริงจังเป็นที่สุด” แหล่งข่าวเปิดเผย
อย่างไรก็ตาม CBC News ชี้ว่ารัฐบาลแคนาดาไม่ได้เปิดเผยหลักฐานออกมาในเวลานี้ แต่ชี้ว่า หลักฐานเด็ดมัดตัวเหล่านี้สามารถโผล่ได้ในระหว่างกระบวนการทางยุติธรรมในชั้นศาล
ปัญหาพิพาทขั้นรุนแรงเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่พันธมิตรใกล้ชิดของออตตาวาคือ สหรัฐฯ กำลังหว่านล้อมอินเดียในฐานะพันธมิตรที่ใกล้ชิดของวอชิงตันหลังมีเรื่องระหองระแหงกับปักกิ่ง
ซึ่งที่ผ่านมา นิวเดลีไม่พอใจออตตาวากล่าวหาว่า แคนาดาให้ที่พักหลบซ่อนต่อกลุ่มผู้ก่อการร้าย ได้แก่ ชาวซิกข์แบ่งแยกดินแดน โดยเฉพาะนิจจาร์ ซึ่งเกิดในอินเดียแต่ได้สัญชาติแคนาดา และถูกขึ้นบัญชีก่อการร้ายของนิวเดลี
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่หญิงของออตตาวาเปิดเผยวานนี้ (21) ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจถึงมาตรการตอบโต้เมื่อถูกถามถึงกรณีที่นิวเดลีสั่งหยุดการให้บริการวีซ่าแก่พลเมืองแคนาดาชั่วคราว
“นี่ไม่ใช่การเมืองเชิงภูมิศาสตร์ มันเกี่ยวกับแคนาดา ความปลอดภัยของพลเมืองแคนาดาในแคนา นี่มันเกี่ยวข้องกับความเป็นนิติรัฐ”
ด้านสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเพื่อนคนสำคัญของแคนาดาได้ออกมายืนยันว่า แคนาดาจำเป็นต้องได้ความยุติธรรม ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ แถลงว่าจะไม่ยืนยันหรือปฏิเสธที่ว่ากลุ่มชาติ Five Eyes มีส่วนในการมอบข่าวกรองชิ้นสำคัญให้แคนาดา
ซึ่งในประเด็นนี้มีการเปิดเผยออกมาจากหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ โดยหนังสือพิมพ์ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานวันพฤหัสบดี (21) รายงานว่า
ไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่ผู้นำโลกจะเข้าร่วมการประชุม G20 ที่กรุงนิวเดลี แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ชาติตะวันตกได้เปิดเผยกับวอชิงตันโพสต์ว่า แคนาดาได้เข้าหาชาติพันธมิตรกลุ่มพูลข่าวกรอง Five Eyes ให้หยิบยกประเด็นพลเมืองแคนาดา นักแบ่งแยกดินแดนชาวซิกข์ถูกลอบสังหารในที่ประชุมซัมมิต
แต่ทว่าบรรดาผู้นำชาติตะวันตกปฏิเสธแคนาดาเพราะไม่ต้องการทำให้นายกรัฐมนตรีโมดี ต้องขายหน้ากลางที่ประชุม G20 ที่เป็นโอกาสสำคัญของแดนภารตะ
อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงต่างประเทศแคนาดาร่อนแถลงการณ์ถึงหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ กล่าวว่า จากกรณีที่อ้างว่า แคนาดาได้ร้องขอพันธมิตรให้ประณามทางสาธารณะต่อคนที่ลอบสังหาร ฮาร์ดีป ซิงห์ นิจจาร์ และหลังจากนั้นโดนปฏอเสธนั้นล้วนเป็นเท็จ
CBC News รายงานว่าแต่หนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่สุดในรัฐบาลสหรัฐฯ ยืนยันว่า วอชิงตันมักติดต่อกับแคนาดาต่อปัญหานี้
นักวิเคราะห์เปิดเผยว่า ชาติตะวันตกมองอินเดียว่ากำลังก้าวเข้ามาเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ในการต่อกรกับจีน โดยมีอังกฤษ-สหรัฐฯ ต้องการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับอินเดีย ดังนั้น ชาติเหล่านี้จึงต้องการที่จะยุติความาดหมางทางการทูตมากกว่าลงโทษแดนภารตะด้วยการคว่ำบาตร อินดิเพนเดนท์รายงาน
ขณะที่ปรึกษาความมั่นคงสหรัฐฯ ประจำทำเนียบขาว เจค ซัลลิแวน เปิดเผยว่า สหรัฐฯ มักปรึกษาต่อปัญหานี้ในระดับสูงกับเจ้าหน้าที่อินเดีย
เขากล่าวต่อว่าสหรัฐฯ มีความวิตกกังวลอย่างมากและต้องการเห็นการสอบสวนยังคงเดินหน้า และนำตัวผู้กระทำผิดมาสู่กระบวนการทางยุติธรรม
ซัลลิแวน ชี้ว่า ผลประโยชน์สหรัฐฯ ในกรณีนี้จะไม่หายไปเป็นเพราะมันเกี่ยวข้องกับอินเดีย ชาติที่กำลังก้าวขึ้นมาเป็นชาติมหาอำนาจที่อเมริกากำลังพยายามอย่างหนักในการหว่านล้อมให้หันมาใกล้ชิดกับสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น
เขาย้ำว่าไม่มีข้อยกเว้นว่าเป็นชาติใดในการกระทำเช่นนั้น โดยที่ไม่คำนึงว่าเป็นประเทศใดสหรัฐฯ จะลุกขึ้นยืนเพื่อปกป้องหลักการพื้นฐานของอเมริกา CBC News ของแคนาดากล่าว