เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี วานนี้(19 ก.ย) ขึ้นกล่าวในประชุมสมัชชาสหประชาชาติครั้งที่ 78 ที่นิวยอร์ก เรียกร้องให้ทั้งโลกร่วมใจเพื่อยุติความก้าวร้าวรัสเซีย ชี้หน้ารัสเซียเป็นปิศาจที่ไว้ใจไม่ได้ หลังพบเขาอาจเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติในวันพุธ(20ก.ย)ที่มีรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟ เข้าร่วม ขณะที่ลูกพี่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ขึ้นกล่าวปลุกขวัญชาติพันธมิตรให้ต้องช่วยเคียฟต่อไป จวกรัสเซียไม่ต่อสัญญาควบคุมนิวเคลียร์ New Start ทำโลกวิตก ขณะศึกยกป้ายเกิดขึ้นระหว่างประธานาธิบดีอิหร่าน อีบราฮิม ไรซีกำลังขึ้นกล่าวทูตอิสราเอลประจำยูเอ็นยืนยกป้ายประท้วงภาพมาห์ซา อามินี
บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานวานนี้(19 ก.ย)ว่า ในการขึ้นกล่าวเป็นครั้งแรกกลางที่ประชุมสหประชาชาติครั้งที่ 78 ที่นิวยอร์ก ซิตีในวันอังคาร(19) ระหว่างประเทศกำลังเกิดสงคราม ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ระหว่างระยะเวลา 15 นาทีเรียกร้องให้ทั้งโลกร่วมเป็นหนึ่งเดียวเพื่อทำให้ความก้าวร้าวของรัสเซียที่เกิดขึ้นกับยูเครนต้องสิ้นสุด
เขากล่าวต่อว่า รัสเซียชาติที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในมือต้องถูกทำให้หยุดลงจากการผลักโลกเข้าสู่สงครามครั้งสุดท้าย ผู้นำยูเครนประกาศต่อหน้าทุกชาติรวมถึงรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียว่า รัสเซียไม่สมควรได้รับอนุญาตที่จะมีอาวุธนิวเคลียร์ในมือได้
นอกจากนี้เซเลนสกียังกล่าวหาเครมลินใช้ทุกสิ่งให้เป็นอาวุธตั้งแต่อาหารไปจนถึงพลังงาน
“ขณะที่รัสเซียกำลังผลักทั้งโลกเข้าสู่สงครามครั้งสุดท้าย ยูเครนกำลังทำทุกอย่างเพื่อทำให้มั่นใจว่าหลังความก้าวร้าวของรัสเซียแล้วจะไม่มีใครในโลกที่จะกล้าโจมตีชาติอื่นอีก”
ผู้นำยูเครนกล่าวหารัสเซียว่าพยายามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยูเครนด้วยการลักพาตัวลูกหลานเด็กๆชาวยูเครนเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานว่า ในวันอังคาร(19)สุภาพสตรีหมายเลข 1 ยูเครน โอเลนา เซเลนสกา (Olena Zelenska) เรียกร้องให้นำตัวเด็กยูเครน 19,000 คนส่งกลับคืนให้เคียฟ ซึ่งที่ผ่านมามีแค่ 386 คนเท่านั้นที่ได้กลับคืน
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า มีความเป็นไปได้ที่ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี จะเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาตินัดพิเศษที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันพุธ(20ก.ย) และจะเป็นครั้งแรกที่เขาเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงรัสเซียระหว่างสงคราม โดยในการประชุมนี้คาดว่ารัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟ จะเข้าร่วม
และในเวลาเดียวกันที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ที่ได้ขึ้นกล่าวในการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติวานนี้(19) ใช้เวลา ครึ่งชั่วโมงพยายามกดดันบรรดาชาติพันธมิตรให้ร่วมช่วยยูเครนต่อไปในการขับไล่รัสเซียให้พ้นจากดินแดน
NBC News รายงานว่า การออกมากล่าวของไบเดนเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับที่โพลสำรวจล่าสุดชี้ว่า การสนับสนุนทางการทหารของสหรัฐฯให้แก่ยูเครนเริ่มที่จะลดลง
ในการแถลงไบเดนแสดงเหตุผลอย่างสำคัญว่า หากชาติยักษ์ใหญ่เช่นสหรัฐฯและชาติอื่นๆในโลกที่เคยส่งความช่วยเหลือทางการทหารและเงินทุนให้กับยูเครนตัดสินใจหยุดลงแล้ว ผู้นำสหรัฐฯชี้ว่า ทุกชาติในโลกจะมีความรู้สึกไม่ปลอดภัยและโดดเดี่ยวต่อภัยคุกคามจากการรุกราน
และนอกจากนี้ผู้นำสหรัฐฯตามการรายงานของเดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ ยังกล่าวหาว่า รัสเซียฉีกสัญญาไม่ยอมลงนามสนธิสัญญาควบคุมนิวเคลียร์ New Start ปี 2010 แต่สหรัฐฯจะเป็นประเทศที่ทำเป็นตัวอย่างแก่ชาติอื่นในการจำกัดการแพร่อาวุธทำลายล้างสูง
บีบีซีชี้ว่า ในงานที่ไม่มีทั้งประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน และประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิงเข้าร่วมในปีนี้ ประธานาธิบดีเซเลนสกีกลายเป็นพระเอกในที่ประชุมสมัชชาใหญ่ไปและเขามีกำหนดจะหารือกับผู้นำสหรัฐฯเป็นครั้งที่ 2 ที่ทำเนียบขาวในพฤหัสบดี(21) และมีรายงานว่าผู้นำยูเครนมีจะการพบนอกรอบกับประธานาธิบดีบราซิล ลูอีซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา หรือที่รู้จักกันสั้น ๆ ว่า "ลูลา" ที่นิวยอร์กในวันพุธ(20)
และเขายังทักทายกับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ซึ่งนายกฯอิสราเอล อ้างอิงจากสื่อไทม์สออฟอิสราเอลรายงานว่า ในการประชุมนอกนอกวันอังคาร(19) เนทันยาฮูประกาศจะช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่เคียฟต่อไปแต่ไม่ยอมตอบสนองต่อข้อเรียกร้องความช่วยเหลือป้องกันมิสไซล์
เป็นที่น่าสนใจว่า เซเลนสกีกล่าวถึงจำนวนจคณะผู้ติดตามของเนทันยาฮูที่มีปัญหาคดีคอร์รัปชันในประเทศว่า “คุณมีทีมที่ใหญ่มาก มันต้องมีราคาแพงมาก”
ส่งผลทำให้เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำยูเอ็นตอบกลับมาว่า “เป็นเพราะมีหลายคนต้องการเข้าร่วม”
ซึ่งอย่างไรก็ตามในที่ประชุมสหประชาชาติยังมีสีสันที่นำโดยเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำยูเอ็น กิลาด เออร์ดาน (Gilad Erdan) เพราะเดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานว่า ระหว่างที่ประธานาธิบดีอิหร่าน อีบราฮิม ไรซีกำลังเริ่มต้นขึ้นกล่าวอยู่บนโพเดียมนั้นที่ด้านล่าง ทูตอิสราเอลประจำยูเอ็นยืนยกป้ายประท้วงภาพมาห์ซา อามินี ทันที
โดยป้ายประท้วงมีข้อความระบุว่า “ผู้หญิงอิหร่านมีสิทธิ์ได้รับเสรีภาพเดี๋ยวนี้”
อามินีที่กลายเป็นวิกฤตครั้งใหญ่ในอิหร่านในปีที่ผ่านมาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 ก.ย ปี 2022 ระหว่างเธอถูกตำรวจศีลธรรมอิหร่านควบคุมตัวจากการที่แต่งตัวไม่เหมาะสมตามหลักศาสนาอิสลาม
ประธานาธิบดีไรซีได้กล่าวต่อหน้าสมาชิกยูเอ็นถึงเหตุการณ์ประท้วงอิหร่าน โดยชี้ว่าเป็นการบิดเบื้อนและไม่เป็นจริง โดยอ้างว่าการประท้วงเหล่านี้เป็นการวางแผนโดยหน่วยข่าวกรองตะวันตก
อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สพบว่า ผู้นำเตหะรานยังอ้างว่าตามหลักคำสอนอิสลามนั้นกล่าวว่าชายและหญิงนั้นเท่าเทียมกันในสายตาของพระเจ้า