กระทรวงพาณิชย์จีนออกมาแถลงตอบโต้กรณีคณะกรรมาธิการยุโรปเปิดการสอบสวนมาตรการอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐจีน โดยชี้ว่าการกระทำดังกล่าวสะท้อนแนวคิด “กีดกันการค้า” อย่างชัดแจ้ง และอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างอียูกับปักกิ่ง
การสอบสวนของอียูซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวานนี้ (13 ก.ย.) มีวัตถุประสงค์เพื่อพิจารณาว่าจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องใช้บทลงโทษทางภาษี เพื่อปกป้องผู้ผลิตยานยนต์ของยุโรปจากสิ่งที่ อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เรียกว่าเป็นการ “ไหลเข้ามาอย่างท่วมท้น” ของรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกจากจีน
“จีนมองว่าการสอบสวนที่สหภาพยุโรปเสนอขึ้นมา แท้จริงแล้วก็เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมของตัวเอง โดยเอาคำว่าการแข่งขันที่เป็นธรรม (fair competition) มาเป็นข้ออ้าง” กระทรวงพาณิชย์จีนระบุในถ้อยแถลงวันนี้ (14 ก.ย.)
“นี่คือพฤติกรรมกีดกันการค้าอย่างโจ่งแจ้ง (naked protectionist act) ซึ่งจะส่งผลกระทบและบิดเบือนห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยานยนต์โลก รวมถึงอียูเองด้วย และยังส่งผลในแง่ลบต่อความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับอียู”
การสอบสวนซึ่งเริ่มมาจากแนวคิดของคณะกรรมาธิการยุโรปเอง และไม่ได้มาจากข้อร้องเรียนของภาคอุตสาหกรรม คาดว่าจะยิ่งบั่นทอนความสัมพันธ์จีน-ยุโรปที่เขม็งเกลียวจากปัญหาความไม่สมดุลด้านการค้าและการลงทุนอยู่แล้วให้ตึงเครียดมากขึ้นไปอีก
จีนส่งออกสินค้าไปยังอียูเพิ่มขึ้น 8.6% คิดเป็นมูลค่า 562,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022 ตามข้อมูลจากกรมศุลกากรจีน ขณะที่มูลค่าการนำเข้าสินค้าจากอียูลดลง 7.9% มาอยู่ที่ 285,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สืบเนื่องจากอุปสงค์ภายในจีนที่ลดลง และทำให้อียูขาดดุลการค้ากับจีนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
ที่มา : รอยเตอร์