xs
xsm
sm
md
lg

ไม่ต้องพึ่งสตาร์ลิงค์! ยูเครนโวยิงขีปนาวุธถล่มอู่ต่อเรือใน ‘ไครเมีย’ ทำเรือรัสเซียพังยับไป 2 ลำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รัฐบาลยูเครนอ้างว่าปฏิบัติการโจมตีเมืองเซวาสโตโปล (Sevastopol) บนคาบสมุทรไครเมียเมื่อเช้าวันพุธ (13 ก.ย.) ทำให้โครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือและเรือรบรัสเซียอีก 2 ลำพังเสียหายหนัก ซึ่งถือเป็นการจู่โจมครั้งใหญ่ที่สุดของฝ่ายยูเครนต่อฐานทัพกองเรือทะเลดำรัสเซีย (Black Sea Fleet) นับตั้งแต่สงครามปะทุขึ้น

มอสโกยืนยันว่า มีการโจมตีเกิดขึ้นจริงที่แหลมไครเมียซึ่งถูกผนวกเป็นดินแดนของรัสเซียตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งปรากฏการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าระบบขีปนาวุธของยูเครนเริ่มมีพิษสงมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่รัสเซียยังคงถล่มเป้าหมายต่างๆ ของยูเครนด้วยขีปนาวุธพิสัยไกลและโดรนโจมตี

อันดรี ยูซอฟ เจ้าหน้าที่ข่าวกรองทหารของยูเครน ให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ว่า เรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่และเรือดำน้ำของรัสเซียตกเป็นเป้าหมายในการโจมตี และได้รับความเสียหาย “รุนแรง”

“เราสามารถพูดได้เลยว่า (เรือทั้ง 2 ลำ) เสียหายเกินกว่าที่จะซ่อมได้แล้ว” เขากล่าว

กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกมายอมรับว่า ยูเครนใช้ขีปนาวุธร่อน 10 ลูก และเรือสปีดโบ๊ตไร้คนขับอีก 3 ลำ โจมตีอู่ต่อเรือริมทะเลดำเมื่อช่วงกลางดึกของวันพุธ (13) ทำให้เรือ 2 ลำซึ่งอยู่ระหว่างการซ่อมบำรุงได้รับความเสียหาย

ทางกระทรวงฯ อ้างว่าสามารถยิงสกัดขีปนาวุธยูเครนได้ 7 ลูก ส่วนเรือสปีดโบ๊ตโจมตี 3 ลำก็ถูกเรือตรวจการณ์รัสเซียทำลายเช่นกัน

กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังโต้แย้งคำกล่าวอ้างของเจ้าหน้าที่เคียฟโดยยืนยันว่าเรือ 2 ลำที่โดนโจมตีนั้น “ยังสามารถซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานใหม่ได้”

อย่างไรก็ตาม ภาพถ่ายที่เผยแพร่ในสื่อออนไลน์บ่งชี้ว่า เรือรบรัสเซียที่จอดซ่อมอยู่ถูกขีปนาวุธยูเครนโจมตีจนเสียหายไม่เบา

โวโลดิมีร์ ซาบลอตสกี นักวิเคราะห์ด้านการทหารของยูเครน ให้สัมภาษณ์กับสื่อ RBK Ukraina ว่า เรือรัสเซีย 2 ลำที่ถูกโจมตีนั้นได้แก่ เรือ “มินสก์” ซึ่งเป็นเรือยกพลขึ้นบกชั้น Ropucha ส่วนอีกลำคือเรือดำน้ำ “รอสตอฟ ออน ดอน” ซึ่งเป็นเรือดำน้ำโจมตีชั้น Kilo ที่สามารถติดตั้งขีปนาวุธร่อน kalibr

“มันติดตั้งตอร์ปิโดได้ 6 ลูก และสามารถยิงขีปนาวุธ kalibr ได้พร้อมกัน 4 ลูก ดังนั้นเราจึงประเมินได้ว่ารัสเซียสูญเสียขีปนาวุธ kalibr ไปแล้ว 4 ลูก และน่าจะเสียแท่นยิงขีปนาวุธไปด้วยอีกหนึ่ง อย่างน้อยก็ในระยะเวลาหลายเดือนนับจากนี้”


น.อ.อันดรี รีเจนโก ทหารเรือยูเครนวัยเกษียณ ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ทางโทรศัพท์ว่า “นี่เป็นการโจมตีเซวาสโตโปลครั้งรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้น”

เซวาสโตโปลเป็นที่ตั้งฐานทัพของกองเรือทะเลดำ ซึ่งรัสเซียใช้ในการสำแดงแสนยานุภาพไปไกลถึงตะวันออกลางและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และหลังจากที่เกิดสงครามขึ้นก็ยังเป็นเครื่องมือที่ใช้ปิดกั้นการส่งออกธัญพืชและอาหารจากยูเครนผ่านช่องแคบของตุรกีด้วย

ยูเครนพยายามที่จะบ่อนทำลายศักยภาพของกองเรือทะเลดำด้วยการส่งโดรนทางทะเลติดระเบิดไปโจมตี ทว่าจนถึงตอนนี้รัสเซียยังสามารถใช้เรือรบยิงมิสไซล์กลับมาถล่มยูเครนได้อย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 18 เดือนเศษที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าเคียฟใช้ขีปนาวุธชนิดใดในการโจมตีเซวาสโตโปล ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองท่าโอเดซา (Odesa) ของยูเครนประมาณ 300 กิโลเมตร

รีเจนโก ตั้งข้อสันนิษฐานว่า ยูเครนอาจใช้ขีปนาวุธต่อต้านเรือ “เนปจูน” ที่ผลิตเองในประเทศ แต่นำมาดัดแปลงให้ใช้จู่โจมเป้าหมายบนบกได้ หรือไม่ก็อาจใช้ขีปนาวุธร่อน “สตอร์ม แชโดว์” ที่ได้รับมาจากอังกฤษ

ที่มา : รอยเตอร์




กำลังโหลดความคิดเห็น