เจ้าหน้าที่กู้ภัยตุรกีและนานาชาติเร่งช่วยเหลือ “มาร์ก ดิกกี” (Mark Dickey) นักสำรวจถ้ำชาวอเมริกันซึ่งล้มป่วยและติดอยู่ในถ้ำลึก 1,000 เมตรทางตอนใต้ของตุรกี โดยรายงานล่าสุดระบุว่าภารกิจในการนำ ดิกกี กลับสู่พื้นผิวโลกได้ดำเนินไปแล้ว “ครึ่งทาง”
ดิกกี วัย 40 ปี เป็นหนึ่งในคณะนักสำรวจนานาชาติที่ลงไปสำรวจถ้ำมาร์กา (Morca) บริเวณเทือกเขาทอรัส ในจังหวัดเมอร์ซินของตุรกี ก่อนจะมีภาวะเลือดออกในทางเดินอาหาร ขณะปฏิบัติงานอยู่ที่ความลึก 1,040 เมตร
หน่วยกู้ภัยกว่า 150 นาย จากทั้งตุรกีและประเทศอื่นๆ ได้เตรียมความพร้อมมานานหลายวันเพื่อที่จะช่วยเหลือ ดิกกี ขึ้นมาจากถ้ำซึ่งมีความลึกเป็นอันดับ 3 ของตุรกี
“ทีมแพทย์ของเรากำลังทำงานกันอย่างหนัก เพื่อที่จะประคับประคองอาการของ มาร์ก ให้เสถียรที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ตั้งแต่เมื่อวานนี้เราเริ่มมีการยกเปลเพื่อนำตัวเขาขึ้นมาตามโถงถ้ำ” จูเซปเป คอนติ ประธานคณะกรรมาธิการด้านเทคนิคของสมาคมกู้ภัยถ้ำแห่งยุโรป (European Cave Rescue Association) ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนวานนี้ (10 ก.ย.)
“เราต้องทำทุกอย่างด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้อาการของ มาร์ก ทรุดหนักลง การจะเคลื่อนย้ายเขาขึ้นมาในแต่ละเมตรต้องทำอย่างใส่ใจ และตอนนี้เราสามารถนำเปลขึ้นมาห่างจากพื้นผิวดินประมาณ 500 เมตรแล้ว”
เจสสิกา ฟอน ออร์ด คู่หมั้นของ ดิกกี ซึ่งเดินทางไปกับคณะสำรวจถ้ำ ยังคงปักหลักอยู่ที่แคมป์และทำงานร่วมกับทีมกู้ภัย
“จะมีแพทย์คอยประกบอยู่ข้างตัวเขาตลอดเวลา ตอนนี้มีทีมแพทย์จากอิตาลีที่ขึ้นมาพร้อมกับเขา อาการของ มาร์ก ก็ยังอยู่ในขั้นที่ดีมาก” ทุลกา เซเนอร์ ผู้ประสานงานการแพทย์จากคณะกรรมาธิการกู้ภัยถ้ำ ให้ข้อมูลกับรอยเตอร์
เชงก์ ยิลดิซ หัวหน้าสำนักงานจัดการภัยพิบัติ AFAD ของตุรกีประจำจังหวัดเมอร์ซิน คาดว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถนำตัว ดิกกี กลับขึ้นมาได้ภายใน 2-3 วัน “หากไม่มีอุปสรรคใดๆ เกิดขึ้น”
ที่มา : รอยเตอร์