เอเจนซีส์ - หุ้นของบริษัทแอปเปิลร่วงลงไป 2.9% ในวันพฤหัสบดี (7 ก.ย.) หลังมีรายงานออกมาว่า ปักกิ่งมีแผนจะสั่งขยายการแบนโทรศัพท์ไอโฟนออกไปถึงหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุนและบริษัทต่างๆ ด้านวอชิงตันวันเดียวกันประกาศเดินหน้าสอบสวนโทรศัพท์เรือธงตัวใหม่ของหัวเว่ย รุ่น MATE 60 Pro อ้างต้องการรู้มีใครแอบละเมิดกฎข้อจำกัดส่งออกเทคโนโลยีให้หัวเว่ย
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (7 ก.ย.) ว่า บรรดานักลงทุนต่างพากันอกสั่นวัญหายต่อความสามารถของบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกในการทำธุรกิจในประเทศจีนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองก็แค่สหรัฐฯ
ทั้งนี้ บริษัทแอปเปิล อิงค์ ได้ทำสถิติการเสียรายได้ประจำวันมากที่สุดของเดือนเกิดขึ้นวันพุธ (6) โดยพบว่าภายในแค่ 2 วันขาดทุนไปถึง 200 ล้านดอลลาร์ โดยหุ้นแอปเปิลร่วงลงไปถึง 2.9% วานนี้ (7) และปัจจุบันหุ้นแอปเปิลทำผลงานแย่ที่สุดในตลาดการซื้อขายหุ้นดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์
CNN ชี้ว่า คำสั่งแบนของจีนที่มีรายงานว่า ปักกิ่งมีแผนจะสั่งขยายการแบนโทรศัพท์ไอโฟนออกไปถึงหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุนและบริษัทต่างๆ นั้นเป็นเสมือนลางร้ายต่อแอปเปิล
ทั้งนี้ที่ผ่านมาจีนถือเป็นตลาดต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และอีกทั้งยอดขายในจีนคิดเป็น 1 ใน 5 ของรายได้รวมทั้งหมดของแอปเปิล อิงค์ในปีที่ผ่านมา
บริษัทแอปเปิลไม่ได้เปิดเผยยอดขายโทรศัพท์ไอโฟนตามรายชื่อประเทศ แต่นักวิเคราะห์ประจำบริษัท TechInsights ได้ประเมินว่า มีการจำหน่ายไอโฟนได้ในจีนมากกว่าในสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งแอปเปิลยังผลิตโทรศัพท์ไอโฟนส่วนใหญ่ในโรงงานจีน
ขณะที่วันพุธ (6) วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า จีนได้ประกาศการแบนใช้โทรศัพท์ไอโฟนสำหรับเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางปักกิ่งและผู้บริหารทั้งหลายได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ถึงการแบนผ่านกลุ่มแชต หรือในที่ประชุมเป็นที่เรียบร้อย
และในวันพฤหัสบดี (7) บลูมเบิร์กรายงานว่า การแบนเหล่านั้นได้ขยายเลยไปถึงบริษัทต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ รวมถึงบริษัทพลังงานจีนยักษ์ใหญ่ PetroChina ที่มีพนักงานหลายล้านชีวิตและควบคุมเศรษฐกิจจีนในสัดส่วนขนาดใหญ่
ในรายงานการวิเคราะห์ของธนาคารแห่งอเมริกาในวันพฤหัสบดี (7) นักวิเคราะห์ชี้ว่า คำสั่งแบนไอโฟนเป็นวงกว้างออกมาในช่วงเวลาตรงกับที่บริษัทคู่แข่งหัวเว่ยได้เปิดโทรศัพท์รุ่นเรือธงตัวใหม่ที่ฮือฮามาก ที่มีการกล่าวว่า โทรศัพท์หัวเว่ย รุ่น MATE 60 กลายเป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นแรกของโลกที่มีฟีเจอร์สามารถโทร.ผ่านดาวเทียมสื่อสารจีนได้
เหมือนเป็นการเกทับบลัฟแหลกหลังจากที่ไอโฟน 14 มาพร้อมกับความสามารถส่งข้อความสั้น SOS ขอความช่วยเหลือผ่านดาวเทียมจนเป็นที่ฮือฮาไปทั่วในอุบัติเหตุร้ายแรงมาแล้ว
นักวิเคราะห์ธนาคารแห่งอเมริกากล่าวว่า ช่วงเวลาที่คำสั่งแบนกับเวลาการเปิดตัวโทรศัพท์หัวเว่ยตัวใหม่นั้นเป็นที่ "น่าสนใจมาก"
ทั้งนี้ ในวันอังคาร (5) รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศจะสอบสวนถึงความก้าวหน้าของโทรศัพท์หัวเว่ยตัวใหม่ MATE 60 Pro
โดยทึ่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เจค ซัลลิแวน (Jake Sullivan) กล่าวในงานแถลงข่าวว่า สหรัฐฯ จำเป็นต้องการได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นเกี่ยวข้องกับความก้าวหน้าใหม่ของหัวเว่ยว่า มีฝ่ายใดละเมิดข้อจำกัดของสหรัฐฯ ในด้านการส่งออกเทคโนโลยีไปหัวเว่ยเพื่อการสร้างชิปตัวใหม่หรือไม่
โดย เดวิด แม็คควีน (David McQueen) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยการตลาดประจำบริษัทวิจัย ABI Research เปิดเผยกับ CNN ว่า การเปิดสอบหัวเว่ยเรื่องความก้าวหน้าครั้งสำคัญนี้จากวอชิงตันยังเป็นการตั้งคำถามกลับไปที่การที่หัวเว่ยสามารถจัดการหาทรัพยากรมาได้อย่างไรเพื่อเปิดตัวโทรศัพท์ MATE 60 Pro รุ่นฮือฮานี้ระหว่างที่บริษัทต้องตกอยู่ภายใต้การแบนจำกัดส่งออกทางเทคโนโลยีมานานถึง 4 ปี
“ในขณะการเข้าถึง 5G สำหรับไมโครชิปนั้นเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ผมไม่แน่ใจว่าบริษัทสามารถจัดการได้อย่างไรในการเข้าถึงทรัพยากรทั้งหมดของส่วนประกอบอื่นที่จำเป็นต้องมีในโทรศัพท์ 5G เป็นต้นว่า แอมป์ที่ทรงพลัง สวิตช์และฟิลเตอร์”