เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ถ่ายภายพร้อมกับเฮลิคอปเตอร์จู่โจมรัสเซีย Mi-8 ลำใหญ่ล่าสุดหลังนักบินรัสเซียแอบขับหนีออกนอกประเทศเมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังวางแผนนานถึง 6 เดือน เกิดขึ้นในช่วงเวลาเคียฟได้ยุทโธปกรณ์สุดล้ำจากสหรัฐฯ กระสุนยูเรเนียม ทรงอานุภาพสามารถเจาะเกราะรถถังรัสเซียก่อนระเบิดทำลายจากด้านใน เพนตากอนชี้หากมอสโกวิตกสามารถถอนรถถังพ้นดินแดนยูเครนได้
บิสซิเนสอินไซเดอร์ของสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (7 ก.ย.) ว่า ในภาพถ่ายที่เผยแพร่ล่าสุด ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี พร้อมผู้อำนวยการข่าวกรองยูเครน คิรีโล บูดานอฟ (Kyrylo Budanov) ขณะที่มีเฮลิคอปเตอร์จู่โจมรัสเซีย Mi-8 จอดอยู่เบื้องหลัง
ซึ่งตามภาพพบว่ามีหมายเลข 62 ปรากฏอยู่บนเครื่อง
สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวถูกขับออกมาจากรัสเซียโดยนักบินหมีขาวแปรพักตร์รายหนึ่งที่วางแผนการนานร่วม 6 เดือนในการเข้ามาอยู่กับฝ่ายยูเครน
มัคซิม คูซมินอฟ (Maksym Kuzminov) อดีตนักบินหมีขาววัย 28 ปี ตำแหน่งกัปตันประจำหน่วยเฮลิคอปเตอร์ที่ 319 ของกองทัพรัสเซีย ได้ตัดสินใจบินหนีออกมานอกประเทศเมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา
คูซมินอฟได้ชักชวนเพื่อนทหารรัสเซียคนอื่นให้แปรพักตร์เช่นกันนั้นก่อนขับ ฮ.หลบหนีออกมาได้แอบส่งพ่อและแม่เดินทางข้ามพรมแดนเข้ายูเครนก่อนลงมือ
เขาให้เหตุผลถึงการกระทำครั้งนี้ว่า “สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นเหมือนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยูเครน ทั้งชาวยูเครนและรัสเซีย”
อดีตทหารนักบินเฮลิคอปเตอร์จู่โจมรัสเซียรายนี้ชี้ว่า เขาตัดสินใจแปรพักตร์เพราะไม่ต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมสงคราม
วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า คูซมินอฟติดต่อหน่วยข่าวกรองยูเครนเมื่อสิ้นปี 2022 และหลังจากนั้นเริ่มต้นวางแผนการหลบหนี พบว่าเขาได้แอบสื่อสารกับฝ่ายยูเครนผ่านช่องทางการติดต่อสื่อสารผ่านเทเลแกรมก่อนที่จะลงมือแอบขับ ฮ. Mi-8 หมายเลข 62 ออกมา
เขาเล่าการหลบหนีว่า ต้องขับ ฮ.บินเพดานบินต่ำที่สุดและปิดช่องทางการสื่อสารเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับเมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา
บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานว่า เคียฟทำสงครามจิตวิทยาวอร์แฟร์ด้วยการเสนอเงินรางวัลสูงถึง 1 ล้านดอลลาร์ให้ทหารรัสเซียคนไหนที่ใจเด็ดพอจะกล้าจะแปรพักตร์หนีออกจากรัสเซียพร้อมกับยุทโธปกรณ์ทางการทหารชิ้นใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินรบขับไล่ หรือเรือรบ
ซึ่งเฮลิคอปเตอร์จู่โจม Mi8 นี้คิดเป็นเงินค่าตอบแทน 500,000 ดอลลาร์ ซึ่งสำนักงานหน่วยข่าวกรองลับยูเครนได้ยืนยันแล้วในสัปดาห์นี้ว่า คูซมินอฟจะได้รับรางวัลเต็มจำนวน 500,000 ดอลลาร์แน่นอน
เรดิโอฟรียุโรปรายงานว่า คูซมินอฟได้เปิดเผยว่า ลูกเรือรัสเซีย 2 นายบน ฮ.ไม่รู้เรื่องถึงแผนการหลบหนี และถูกกำจัดทิ้งไปเมื่อคนเหล่านี้พยายามหนี
ท่ามกลางการเฉลิมฉลองจากเคียฟหลังได้รับข่าวดี สหรัฐฯ ในวันพุธ (6) ได้มอบกระสุนยูเรเนียม 120 มิลมิเมตรเจาะเกราะรถถัง ซึ่งเป็นกระสุนพิฆาตที่จะใช้คู่กับรถถัง M1 เอแบรมส์ ซึ่งคาดว่าจะเดินทางมาถึงยูเครนในช่วงเวลาหนึ่งของฤดูใบไม้ร่วง
บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานว่า กองกำลังยูเครนใช้เวลาทั้งฤดูร้อนในการเรียนรู้ใช้รถถังเอแบรมส์ในเยอรมนี
กระสุนที่ทรงพลานุภาพนี้ไม่เพียงแต่จะสามารถเจาะผ่านตัวรถถังได้เท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้ด้านในรถยานเกราะข้าศึกเสียหายจากระเบิด
กระสุนที่ทำมาจากกากยูเรเนียมนี้มีความพิเศษที่เมื่อใช้เป็นกระสุนทำลายรถถังเนื่องมาจากประสิทธิภาพที่สามารถทะลุทะลวงเกราะด้านนอกตัวรถ บวกกับตัวกระสุนที่มีการผสมวัสดุอื่นที่ไม่เปิดเผยเพื่อทำให้เพิ่มความเร็วในการตกกระทบ
และที่สำคัญกระสุนยูเรเนียมยังสามารถทำให้เกิดการระเบิดด้านในจากการที่ตัวกระสุนที่มีความร้อนเจาะผ่านเกาะรถถังเป้าหมายเข้าไป ฝุ่นละอองเล็กๆ และชิ้นส่วนจะลุกไหม้และทำให้เกิดระเบิดไฟไหม้ขึ้นด้านในสร้างความเสียหายได้อย่างมหาศาลซึ่งเป็นสิ่งฝ่ายมอสโกวิตกจากการที่ผ่านมา เพราะตั้งแต่เกิดสงครามเมื่อปลายกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว รัสเซียเสียรถถังไปแล้วเกือบ 2,300 คัน อ้างอิงจากการประเมินของสื่อโอเพ่นซอร์ซด้านข่าวกรอง Oryx
เครมลินออกมาประณามอย่างหนักทางสาธารณะถึงการจัดส่งกระสุนยูเรเนียมพิษให้ยูเครนว่า เป็นสิ่งไร้มนุษยธรรมเนื่องมาจากผลของสารกัมมันตภาพรังสีอาจทำให้ป่วยโรคมะเร็ง
แต่ทว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้ออกมาชี้ทางออกว่า ฝ่ายรัสเซียสามารถเลือกที่จะถอนรถถังออกไปหากต้องการหลีกเลี่ยงความวิตกถึงกระสุนยูเรเนียมที่ยูเครนได้รับ
บิสซิเนสอินไซเดอร์จากอินเดียรายงานว่า แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อเมริกันชี้ว่า เครมลินกำลังแพร่โฆษณาชวนเชื่อว่ากระสุนยูเรเนียมที่ฝ่ายรัสเซียเองมีเก็บไว้ในคลังแสงเช่นกันนั้นไม่มีความปลอดภัย
“สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นอยู่คือการที่รัสเซียไม่ต้องการเห็นยูเครนมีรถถังและกระสุนปืนที่มีประสิทธิภาพที่สามารถทำลายรถถังรัสเซียได้” เขากล่าว
และเสริมต่อว่า “หากรัสเซียมีปัญหากับสิ่งนั้น พวกเขาสามารถเลือกที่จะถอนรถถังออกไปจากยูเครน”
บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานว่า สหรัฐฯ เป็นชาติที่ 2 ที่ส่งกระสุนยูเรเนียมเจาะเกราะรถถังให้ยูเครน หลังจากก่อนหน้าเมื่อมีนาคม อังกฤษเคยประกาศจะส่งกระสุนยูเรเนียมให้ยูเครนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำลายรถถังรัสเซียมาแล้ว
ทั้งนี้ อ้างอิงจาก DW สื่อเยอรมนีรายงานว่า สหรัฐฯ ยอมรับว่าเคยใช้กระสุนยูเรเนียมที่อื้อฉาวในสงครามอิรัก อัฟกานิสถาน ซีเรีย และอดีตประเทศยูโกสลาเวียที่ล่มสลายไปในปี 1992 ซึ่งปัจจุบันมีราว 21 ประเทศในโลกรวม สหรัฐฯ รัสเซีย ตุรกี และซาอุดีอาระเบีย ที่มีกระสุนยูเรเนียมดังกล่าว