เซียร์เก รยาบคอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ระบุวันนี้ (7 ก.ย.) ว่าการที่สหรัฐฯ จัดส่งกระสุนยูเรเนียมด้อยสมรรถนะ (depleted uranium weapons) ให้แก่ยูเครนถือว่าเข้าข่าย “ก่ออาชญากรรม”
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศมอบแพกเกจช่วยเหลือด้านความมั่นคงล็อตใหม่แก่ยูเครนในวันพุธ (6) รวมมูลค่า 175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงกระสุนยูเรเนียมด้อยสมรรถนะสำหรับใช้กับรถถังเอบรามส์
ยูเรเนียมด้อยสมรรถนะซึ่งเป็นผลพลอยได้จากกระบวนการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมถูกนำมาใช้ทำเครื่องกระสุน เนื่องจากความหนาแน่น (density) ที่สูงมากของมันช่วยให้กระสุนสามารถเจาะทะลุทะลวงเกราะได้ ทว่าในอีกด้านหนึ่งการสูดดมฝุ่นผงยูเรเนียมด้อยสมรรถนะเข้าไปก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยอาจก่อให้เกิดมะเร็งและความพิการแต่กำเนิด
“นี่ไม่ใช่แค่การยกระดับเผชิญหน้า แต่สะท้อนให้เห็นว่าสหรัฐฯ ไม่สนใจผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่จะตามมาจากการใช้กระสุนประเภทนี้ในสนามรบ มันคืออาชญากรรมชัดๆ และผมไม่อาจประเมินเป็นอื่นได้” สำนักข่าว TASS อ้างถ้อยแถลงของ รยาบคอฟ
รัฐมนตรีช่วยฯ ผู้นี้ยังย้ำเตือนความเสี่ยงในการเกิด “สงครามนิวเคลียร์” หากว่าชาติตะวันตก “บีบคั้น” มอสโกเกินไป ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่า การส่งอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี (tactical nuclear weapons) ของรัสเซียไปประจำการที่เบลารุสเพื่อป้องปรามชาติตะวันตก “คืบหน้าไปตามแผนที่กำหนด”
รัสเซียกล่าวหามานานว่าโลกตะวันตกจงใจใช้ยูเครนทำ “สงครามตัวแทน” โดยหวังหยิบยื่น “ความพ่ายแพ้เชิงยุทธศาสตร์” ให้กับมอสโก ขณะที่สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรอ้างว่าพวกเขาเพียงติดอาวุธให้ยูเครนสามารถป้องกันตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย และทวงคืนดินแดนที่สูญเสียไปในช่วงเวลา 18 เดือนนับตั้งแต่สงครามเปิดฉากขึ้นในเดือน ก.พ. ปี 2022
ที่มา: รอยเตอร์