รัสเซียแก้เกม ‘วางกับดักมรณะ’ สกัดทัพยูเครน ที่ส่งทหารหน่วยย่อยฝ่าดงกับระเบิดเข้ายึดหมู่บ้าน ในปฏิบัติการรุกตอบโต้

นิวยอร์กไทมส์ สื่อทรงอิทธิพลของอเมริกาเผยในสมรภูมิแคว้นซาโปริซเซีย ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน ซึ่งเป็นจุดโฟกัสในการรุกตอบโต้ของเคียฟที่กำลังดำเนินอยู่เวลานี้ หลังจากที่ยูเครนประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งจากการส่งกองทหารหน่วยเล็กๆ ฝ่าสนามกับระเบิดเข้าไปชิงหมู่บ้านคืนทีละแห่ง ปรากฏว่าเวลานี้รัสเซียกำลังแก้เกมตอบโต้ ด้วยการวางกับดักมรณะเพื่อรับมือ ขณะที่ในสมรภูมิอื่นๆ เมื่อตอนเช้าวันอาทิตย์ (3 ก.ย.) มอสโกได้ส่งโดรนโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือริมแม่น้ำดานูบทางใต้ของแคว้นโอเดสซานาน 3 ชั่วโมงครึ่ง ทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 2 คน

ในช่วง 2 เดือนแรกของปฏิบัติการรุกตอบโต้ของฝ่ายเคียฟซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน กระทรวงกลาโหมรัสเซียอ้างว่ายูเครนได้สูญเสียทหารกว่า 43,000 นาย แลกกับการชิงคืนดินแดนในซาโปริซเซียไปได้ไม่กี่ตารางกิโลเมตร ขณะที่เคียฟโทษว่า ยุทธวิธีของตะวันตกที่ให้ส่งขบวนยานยนต์หุ้มเกราะตะลุยผ่านดงกับระเบิดโดยไม่มีการสนับสนุนทางอากาศคือต้นเหตุความล้มเหลว

ฝ่ายรัสเซียยังอ้างว่าความล้มเหลวดังกล่าวยังทำให้เกิดความแตกแยกในกองทัพยูเครน โดยนายทหารใหญ่บางคนต้องการให้กลับไปใช้การโจมตีระยะไกลแทน

อย่างไรก็ตาม จากรายงานเมื่อวันเสาร์ (2) ของนิวยอร์กไทมส์ ยูเครนกลับประสบความสำเร็จสูงสุดจากการใช้ทหารราบหน่วยเล็กๆ เข้ายึดตึกและที่มั่นทีละแห่งจนสามารถยึดได้ทั้งหมู่บ้าน หรือทั้งชุมชนในเวลาหลายๆ สัปดาห์

นิวยอร์กไทมส์รายงานต่อโดยอ้างอิงการบอกเล่าของทหารยูเครนว่า แม้ทหารหน่วยเล็กๆ สามารถฝ่าสนามกับระเบิดได้ง่ายขึ้น แต่กองกำลังรัสเซียได้เปลี่ยนยุทธวิธีตอบโต้ ตัวอย่างเช่นด้วยการฝังกับระเบิดเอาไว้ในทุ่งพร้อมสารไวไฟ และหลังจากทหารยูเครนเข้าเคลียร์พื้นที่ รัสเซียจะส่งโดรนไปทิ้งระเบิดทำให้บริเวณดังกล่าวระเบิดและกลายเป็นทะเลเพลิง

ขณะเดียวกัน แม้ถนนลาดยางบางปลอดภัยกว่า เนื่องจากตรวจพบและเก็บกู้กับระเบิดได้ง่ายกว่า แต่ทหารยูเครนยังต้องเสี่ยงกับการซุ่มยิงด้วยปืนกลที่รัสเซียวางกำลังไว้เป็นระยะ อีกทั้งยังส่งโดรนสอดแนมต่อเนื่อง

ทหารยูเครนเล่าให้นิวยอร์กไทมส์ฟังว่า ทันทีที่เข้ายึดบ้านหรือตึกสำเร็จ โดรนที่บินอยู่ในบริเวณนั้นจะแจ้งกองกำลังรัสเซียซึ่งจะยิงจรวดและปืนใหญ่ถล่มอย่างฉับพลัน

ทั้งนี้ ขณะที่สื่อตะวันตกรายงานสถานการณ์ที่ตอกย้ำความล้มเหลวของปฏิบัติการตอบโต้ของยูเครนมากขึ้น วันศุกร์ที่ผ่านมา (1 ก.ย.) ดมิทรี คูลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ประกาศว่า การวิจารณ์ความล่าช้าของปฏิบัติการตอบโต้เท่ากับเป็นการถ่มน้ำลายรดหน้าทหารยูเครนที่เสียสละชีวิตในทุกๆ วัน ก่อนร้องขอให้ชาติตะวันตกสนับสนุนอาวุธเพิ่มให้ยูเครน

สำหรับสถานการณ์การสู้รบด้านอื่นๆ เจ้าหน้าที่ยูเครนเปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (3) ว่า รัสเซียส่งโดรนโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือริมแม่น้ำดานูบทางใต้ของแคว้นโอเดสซา นาน 3 ชั่วโมงครึ่ง ทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 2 คน

ทางด้านกองทัพอากาศยูเครนโพสต์บนแอปเทเลแกรมว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศยิงโดรนชาเฮดที่ผลิตในอิหร่านร่วง 22 ลำ จากทั้งหมด 25 ลำที่รัสเซียส่งไปโจมตีโอเดสซาในช่วงเช้าวันอาทิตย์

เวลานี้แม่น้ำดานูบกลายเป็นเส้นทางหลักในการส่งออกธัญพืชของยูเครน หลังจากข้อตกลงอนุญาตให้เคียฟส่งออกธัญพืชผ่านทะเลดำที่สหประชาชาติเป็นตัวกลาง ล่มเมื่อเดือนกรกฎาคม

แอนดริว เยอร์แมค หัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดียูเครน โพสต์บนเทเลแกรมว่า ผู้ก่อการร้ายรัสเซียยังคงโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือเพื่อกระตุ้นให้เกิดวิกฤตอาหารและความยากจนทั่วโลก

ส่วนกองบัญชาการทหารภาคใต้ของยูเครนระบุบนโซเชียลมีเดียว่า พลเรือนอย่างน้อย 2 คนได้รับบาดเจ็บในการโจมตีที่พุ่งเป้าโครงสร้างพื้นฐานด้านพลเรือนในท่าเรือดานูบ

เจ้าหน้าที่ยูเครนไม่ได้ให้รายละเอียดบริเวณที่ถูกโจมตี แต่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เกิดระเบิดในท่าเรือเรนี ซึ่งเป็นท่าเรือหลัก 1 ใน 2 แห่งริมแม่น้ำดานูบ

ทางฝั่งรัสเซียนั้นไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้

ขณะเดียวกัน ผู้ดำเนินการสะพานเคิร์ช ซึ่งเป็นสะพานหลักที่เชื่อมระหว่างรัสเซียกับคาบสมุทรไครเมียเปิดเผยผ่านเทเลแกรมว่า ได้เปิดการจราจรบนสะพานดังกล่าวอีกครั้งเมื่อเช้าวันอาทิตย์หลังจากระงับไปช่วงสั้นๆ ขณะที่คณะบริหารไครเมียไม่ได้เปิดเผยสาเหตุที่ต้องระงับการสัญจรบนสะพานดังกล่าว

รัสเซียเข้าผนวกไครเมียจากยูเครนตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งชาติตะวันตกต่างๆ ประณามว่า ผิดกฎหมาย

สำหรับสะพานไครเมียนั้นตกเป็นเป้าหมายการโจมตีด้วยโดรนทั้งทางอากาศและทางทะเลบ่อยครั้งในช่วงหลายเดือนมานี้

(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, อาร์ที)