อดีตนายพลระดับสูงของรัสเซียเสนอให้กองทัพนำ “อาวุธนิวเคลียร์” มาใช้เพื่อสกัดการรุกคืบของกองทัพยูเครน หลังจากเคียฟประกาศยึดคืนหมู่บ้านโรโบทีเน (Robotyne) ทางตอนใต้ได้สำเร็จเมื่อวันจันทร์ (28 ส.ค.)
อันเดร กูรูเลฟ (Andrey Gurulev) นายพลวัยเกษียณซึ่งปัจจุบันเป็น ส.ส.ในสภาดูมาของรัสเซีย ระบุว่า หมู่บ้านโรโบทีเนที่เพิ่งจะถูกกองทัพยูเครนชิงกลับคืนไปได้นั้นถือเป็นสถานที่ที่ “เหมาะที่สุด” สำหรับการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์
การทวงคืนหมู่บ้านโรโบทีเนถือเป็นส่วนหนึ่งในปฏิบัติการโจมตีตอบโต้รัสเซีย (counteroffensive) โดยเวลานี้ยูเครนกำลังพยายามรุกคืบไปยังชายฝั่งทะเลอาซอฟ และเป็นที่เข้าใจกันว่ากองทัพยูเครนมีเป้าหมายที่จะตัดขาดเส้นทาง ‘land bridge’ ที่เชื่อมแผ่นดินยูเครนเข้ากับรัสเซียผ่านทางแหลมไครเมีย
ระหว่างให้สัมภาษณ์ในรายการทอล์กโชว์ Solovyov Live กูรูเลฟ ชี้ว่า เป็นโอกาสเหมาะที่รัสเซียจะใช้ระเบิดนิวเคลียร์โจมตีทหารยูเครนซึ่งรวมตัวกันอยู่ที่โรโบทีเน ก่อนจะเริ่มรุกคืบครั้งใหญ่
“หมู่บ้านโรโบทีเนคือสถานที่ที่เหมาะที่สุดสำหรับการใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี” เขากล่าวกับ วลาดิมีร์ โซลอฟยอฟ พิธีกรรายการซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน
“พวกเขาไปรวมกันอยู่ที่นั่นหมด มันเป็นสถานที่ที่เพอร์เฟกต์”
หลังจากยึดโรโบทีเนได้สำเร็จในวันจันทร์ (28) ยูเครนประกาศว่ากองทัพกำลังมุ่งหน้าต่อไปยังเวอร์โบเว (Verbove) ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางตะวันออกราว 7 ไมล์
อาวุธนิวเคลียร์เคยถูกนำมาใช้ในสงครามเพียง 2 ครั้งในประวัติศาสตร์โลก ซึ่งก็คือระเบิดปรมาณู ‘fat man’ และ ‘little boy’ ที่กองทัพสหรัฐฯ ใช้ถล่มเมืองฮิโรชิมาและนางาซากิของญี่ปุ่นในปี 1945 จนนำมาสู่การสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่ 2
ที่มา : Daily Mail