xs
xsm
sm
md
lg

อื้ออึง!! อดีตขุนคลังมอสโกจวก “ปูติน” ค้าขายไม่ยอมใช้ “ดอลลาร์” ทำค่าเงินรัสเซียตกวูบ รายได้ส่งออกน้ำมันจมในรูป "รูปี" หลายพันล้านในธนาคารอินเดีย แต่แลกคืนกลับเป็นรูเบิลไม่ได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์ - อดีตรัฐมนตรีคลังรัสเซีย มิคาอิล ซาดอร์นอฟ (Mikhail Zadornov) ได้แสดงเหตุผลผ่านสื่อรัสเซียล่าสุด แจงสาเหตุการไม่ใช้ "ดอลลาร์สหรัฐฯ" เป็นเงินสกุลกลางในการแลกเปลี่ยนการค้าต่างประเทศกับอินเดียทำเงินสกุลรูเบิลตกวูบเป็นประวัติกาลหลังรายได้ขายน้ำมันถูกจ่ายกลับมาให้ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน เป็นสกุลเงินท้องถิ่นอินเดีย "รูปี" นับพันล้านที่ไม่สามารถถูกเปลี่ยนกลับคืนเป็นเงินรูเบิล

บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานวันนี้(30 ส.ค)ว่า ในบทบรรณาธิการของสื่อ RBC ชื่อดัง อดีตรัฐมนตรีคลังรัสเซีย มิคาอิล ซาดอร์นอฟ (Mikhail Zadornov)แสดงเหตุผลถึงสาเหตุการที่สกุลเงินรูเบิลตกครั้งมโหฬารโดยกล่าวโทษที่เครมลินครอบครองเงินรูปีอินเดียเป็นจำนวนมากจนส่งผลกระทบต่อสกุลเงินของตัวเอง

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เครมลินหลายคนต่างยอมรับรัสเซียมีเงินรูปีร่วมหลายพันล้านกองอยู่ในบัญชีในธนาคารนิวเดลี

ในข้อเขียนพบว่าซาดอร์นอฟออกมาเรียกร้องให้ธนาคารกลางรัสเซีย ยื่นมาเข้าแทรกแซงอัตราการแลกเปลี่ยนสกุลเงินตราในตลาด

เขาแสดงความเห็นว่า ปัจจุบันอัตตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินรูเบิลอยู่ที่ 95 รูเบิลต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯที่ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการไร้ความสามารถของเครมลินในการเปลี่ยนเงินรูปีที่เป็นสกุลเงินถูกชำระสำหรับการซื้อสินค้ารัสเซียกลับคืนเป็นสกุลเงินรูเบิลของตนเอง  ส่งผลทำให้รายได้รัสเซียในรูปเงินรูปีตกค้างเป็นจำนวนมหาศาลอยู่ในธนาคารอินเดียแทน

สินค้าส่งออกไปอินเดียที่ทำให้ค่าเงินรูเบิลตกกระหน่ำคือ "สินค้าพลังงาน" ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมหาศาลระหว่างกันนับตั้งแต่รัสเซียโดนโลกตะวันตกคว่ำบาตรลงโทษหลังส่งกำลังทหารเข้าไปรุกรานยูครน แต่ทว่าเครมลินไม่นานหลังจากนั้นกลับพบว่า เงินรูปีที่ได้มาจากการค้าขายมีความสามารถใช้ได้น้อยมากในตลาดโลกส่วนใหญ่

อดีตรัฐมนตรีคลังรัสเซียกล่าวว่า “พวกเราไม่มีสิ่งใดต้องซื้อในอินเดียแต่พวกเราไม่สามารถแลกเปลี่ยนเงินสกุลรูปีเหล่านี้กลับได้ เป็นเพราะเงินรูปีอินเดียไม่ใช่เป็นสกุลเงินที่มีความคล่องตัวในการแลกเปลี่ยน”

เขาคาดการณ์ว่า รัสเซียได้ขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันมูลค่าร่วม 30 พันล้านดอลลาร์ไปยังอินเดีย และนำเข้าสินค้ามูลค่า 6 พันล้านดอลลาร์ – 7 พันล้านดอลลาร์

นอกจากนี้อดีตรัฐมนตรีคลังรัสเซียยังอ้างไปถึงปัจจัยอื่นๆ เป็นต้นว่าแพกเก็จกระตุ้นต่างๆให้กับประชาชนรัสเซีย และมันส่งผลทำให้ความต้องการต่อการนำเข้าเพิ่มดังนั้นจึงผลักดันให้เงินรูเบิลตก

ในคำแนะนำซาดอร์นอฟชี้ว่าค่าเงินรูเบิลสามารถกลับไปอยู่ระดับ 85 รูเบิลต่อ 1 ดอลลาร์ได้อีกครั้งหากว่าเครมลินยกเลิกแพกเก็จกระตุ้นเศรษฐกิจและธนาคารกลางรัสเซียหันมาใช้นโยบายรัดเข็มขัดแทน

และในข้อเสนอแนะที่น่าสนใจ ซาดอร์นอฟซึ่งเป็นนักเศรษฐศาสตร์รัสเซียกล่าวว่า ในอนาคตข้างหน้าการซื้อขายระหว่างประเทศสมควรที่ต้องมีข้อกำหนดให้มีการส่งรายได้กลับมาที่รัสเซีย

บทความของเขาได้รับความสนใจจากเครมลินจนมีเสียงตอบโต้ออกมาจากกระทรวงพลังงานรัสเซียผ่านสำนักข่าว TASS ของรัสเซียเมื่อวานนี้(29) ที่ว่ารายได้ส่งออกสินค้าน้ำมันรัสเซียในรูปสกุลเงินรูปีตกค้างเป็นจำนวนมากในธนาคารนิวเดลีนั้น "ไม่เป็นความจริง"

แต่ทว่าเครมลินเคยออกมายอมรับก่อนหน้าเมื่อต้นปี 

บิสซิเนสอินไซเดอร์เมื่อวันที่ 6 พ.ค ว่า  รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟ กล่าวยอมรับกับนักข่าวระหว่างที่กำลังอยู่ในอินเดียว่า รัสเซียขาดดุลการค้ากับอินเดียอย่างกว้างขวางนับตั้งแต่นิวเดลีกลายเป็นชาติอันดับต้นในการซื้อน้ำมันจากรัสเซียตั้งแต่เกิดสงครามยูเครน

“จากการที่เป็นสกุลเงินรูปี สิ่งนี้เป็นปัญหาเพราะมีเงินสกุลรูปีร่วมหลายพันล้านอยู่ในบัญชีในธนาคารอินเดีย และทางเราจำเป็นต้องใช้เงินก้อนนี้” ลาฟรอฟกล่าว

และเสริมต่อว่า “สำหรับสิ่งนี้เงินสกุลรูปีสมควรต้องถูกแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินอื่นๆแทน สิ่งนี้ต้องมีการหารือ”

บิสซิเนสอินไซเดอร์ชี้ว่า รัสเซียต้องการที่จะได้รับการจ่ายในรูปสกุลเงินหยวนของจีนมากกว่า ซึ่งเงินหยวนของจีนกลายเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศที่ถูกใช้มากที่สุดในรัสเซียในปัจจุบัน ท่ามกลางการรายงานว่า มอสโกลังเลในการใช้เงินรูปีเนื่องมาจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่แน่นอน

และก่อนหน้าทั้งเครมลินและนิวเดลีได้ยุติการเจรจาต่างๆถึงการใช้เงินสกุลรูปีสำหรับการแลกเปลี่ยนระหว่าง 2 ชาติ และทั้ง 2 ชาติยังคงอยู่ในความขัดแย้งที่ยังคงหาทางออกไม่ได้เกี่ยวกับสกุลเงิน ส่งผลต่อการซื้อขายอาวุธระหว่างทั้ง 2 ชาติต้องถูกระงับไป


กำลังโหลดความคิดเห็น