เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - กลุ่มทหารกาบองปรากฎตัวหน้าโทรทัศน์วันพุธ(30 ส.ค)ประกาศยึดอำนาจหลังผลการเลือกตั้งทั่วไปชี้ว่า ประธานาธิบดี อาลี บองโก ออนดิมบา (Ali Bongo Ondimba) เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง 64.27% ขึ้นเป็นผู้นำต่อเป็นสมัยที่ 3 ท่ามกลางเสียงปืนดังในเมืองหลวง นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสประกาศจับตาสถานการณ์ใกล้ชิดอดีตประเทศอาณานิคมในแอฟริกาตะวันตก กลุ่มธุรกิจเหมืองแร่แดนน้ำหอมสั่งหยุดปฎิบัติการทั้งหมด จีนประกาศขอหลักประกันความปลอดภัยให้กับปธน.บองโก
เอเอฟพีรายงานวันนี้(30 ส.ค)ว่า กลุ่มทหารกาบองปรากฎตัวทางโทรทัศน์วันพุธ(30) สั่งยึดอำนาจรัฐบาลกาบองของประธานาธิบดี อาลี บองโก ออนดิมบา (Ali Bongo Ondimba) และสั่งยกเลิกผลการเลือกตั้งทั่วไปที่ระบุว่าบองโกมีชัยและจะขึ้นนำต่อเป็นสมัยที่ 3
ในแถลงการณ์คณะรัฐประหารที่อ่านโดยเจ้าหน้าที่ซึ่งมีนายทหารคุมกำลังกองทัพระดับนายพันราว 12 นาย รวมถึงจากหน่วยรบพิเศษริพับลิกันการ์ดและทหารทั่วไปยืนเคียงข้างจากชี้ว่า ทุกสถาบันของสาธารณรัฐถูกสั่งยุบแล้ว
ซึ่งระหว่างการประกาศทางโทรทัศน์ นักข่าวเอเอฟพีรายงานว่าได้ยินเสียงปืนดังออกมาจากกรุงลีเบอร์วีล
การยึดอำนาจเกิดขึ้นหลังคณะกรรมการเลือกตั้งกาบองประกาศว่ารักษาการประธานาธิบดีบองโกชนะการเลือกตั้งวันเสาร์(26) ด้วยคะแนน 64.27%
บองโกอยู่ในอำนาจมานานร่วม 14 ปีในกาบองซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศในแอฟริกาตะวันตก การยึดอำนาจของกาบองเกิดขึ้นตามหลังไนเจอร์เกิดรัฐประหารเมื่อปลายมิถุนายนที่ผ่านมา
AfricaNews ซึ่งเป็นสื่อในเครือของ EuroNews รายงานว่า คณะรัฐประหารใช้เหตุผลว่าปัจจุบันกาบองกำลังอยู่ในวิกฤตร้ายแรงทางสถาบัน การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม พร้อมชี้ว่า การเลือกตั้งวันเสาร์(26)นั้นไม่มีความโปร่งใส น่าเชื่อถือ และไม่เป็นการเลือกตั้งที่ครอบคลุมทุกฝ่าย
อ้างอิงจากผลการเลือกตั้งที่ออกมาก่อนที่จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการ พบว่าประธานาธิบดี อาลี บองโกชนะเป็นอันดับ 1 ที่ 64.27% และตามมาด้วยคู่แข่งคนสำคัญ อัลเบิร์ต ออนโด ออสซา (Albert Ondo Ossa) ชนะไปแค่ 30.77 %
เอเอฟพีรายงานว่า ตามเวลา 07.00 น.วันนี้(30)ของกาบองพบถนนสายต่างๆในเมืองหลวงร้างปราศจากผู้คน ขณะที่รอยเตอร์รายงานล่าสุดว่า หลังการกระกาศยึดอำนาจประชาชนจำนวนหลายร้อยออกมาเฉลิมฉลองที่ใจกลางกรุงลีเบอร์วีล
การประกาศยึดอำนาจเกิดขึ้นหลังเคอร์ฟิวในช่วงกลางคืนและอินเตอร์เนตถูกตัดสัญญาณนาน 3 วันจากการที่กาบองใกล้วันเลือกตั้งวันเสาร์(26) ฟรานซ์24 สื่อแดนน้ำหอมรายงานวันนี้(30)ว่า สัญญาณอินเตอร์เนตกลับคืนมาอีกครั้งแล้ว
การยึดอำนาจส่งผลทำให้กลุ่มธุรกิจเหมืองแร่ยักษ์ใหญ่ฝรั่งเศส Eramet ที่มีการทำเหมืองแร่แมงกานีสอยู่ในกาบองสั่งยุติปฎิบัติการทั้งหมด ขณะที่นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส เอลีซาแบ็ต บอร์น (Elisabeth Borne) แถลงวันพุธ(30)ว่า ฝรั่งเศสกำลังเฝ้าจับตามสถานการณ์ในกาบองอย่างใกล้ชิด
รอยเตอร์รายงานว่า EU มีความวิตกต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในกาบอง
โดยรัฐมนตรีกลาโหมของชาติสมาชิกสหภาพยุโรปทั้งหมดจะประชุมหารือในวิกฤตกาบองนี้ซึ่งการประชุมกำลังเกิดขึ้นในสเปน พร้อมกับยืนยันว่า หากมีการยืนยันแล้วว่ากาบองเกิดรัฐประหารขึ้นจริง นี่จะยิ่งทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพมากขึ้นในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก
โจเซฟ บอร์เรล หัวหน้าฝ่ายกิจการต่างประเทศสหภาพยุโรปยังแถลงว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในแอฟริกาตะวันตกนั้นเป็นปัญหาใหญ่สำหรับยุโรป โดยกาบองเคยเป็นอดีตอาณานิคมของฝรั่งเศส
ขณะที่จีนในวันพุธ(30) ได้ออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายให้หลักประกันต่อความปลอดภัยของประธานาธิบดีอาลี บองโก ออนดิมบา