เทอร์รี กัว (Terry Gou) มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) ประกาศตัวลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีไต้หวันอย่างเป็นทางการวันนี้ (28 ส.ค.) ในฐานะ “ผู้สมัครอิสระ” พร้อมประกาศจะทำให้ช่องแคบไต้หวันมีสันติภาพไปอีก 50 ปี
กัว วัย 72 ปี ก่อตั้งฟ็อกซ์คอนน์จนกลายมาเป็นผู้รับจ้างผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมี “แอปเปิล” เป็นหนึ่งในลูกค้ารายสำคัญ
เศรษฐีใหญ่รายนี้มีความทะเยอทะยานที่จะเป็นผู้นำไต้หวันมานานแล้ว แต่ต้องผิดหวังซ้ำซ้อนหลังไม่ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้สมัครประธานาธิบดีในนามของพรรคฝ่ายค้านก๊กมินตั๋ง (KMT)
“ผมตัดสินใจที่จะลงสมัครชิงประธานาธิบดีไต้หวันในปี 2024” กัว ระบุในงานแถลงข่าว
“ผมขอวิงวอนชาวไต้หวัน โปรดให้เวลาผม 4 ปีในการทำงาน ผมสัญญาว่าจะนำสันติภาพกลับคืนมาสู่ช่องแคบไต้หวันไปอีก 50 ปี และจะวางรากฐานให้จีนและไต้หวันเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกันอย่างลึกซึ้งที่สุด”
รัฐบาลจีนมองว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน และหากจำเป็นก็พร้อมที่จะใช้ปฏิบัติทางทหารเพื่อยึดครองเกาะแห่งนี้ในสักวันหนึ่ง
ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (Democratic Progressive Party - DPP) ซึ่งดำรงตำแหน่งจวนจะครบวาระ 2 สมัยปฏิเสธที่จะยอมรับข้ออ้างของจีน ขณะที่ปักกิ่งก็เพิ่มแรงกดดันทั้งทางทหาร และการทูตต่อไต้หวันเรื่อยมานับตั้งแต่ ไช่ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในปี 2016
กัว ระบุในงานแถลงข่าวว่า “พรรค DPP อยู่ในอำนาจมานานกว่า 7 ปี และได้นำอันตรายใหญ่หลวงมาสู่ไต้หวัน” ขณะเดียวกันก็ย้ำว่า ตนเองจะไม่ปล่อยให้ไต้หวันต้องกลายเป็น “ยูเครนสอง”
อย่างไรก็ดี การที่ฟ็อกซ์คอนน์มีฐานการผลิตขนาดใหญ่หลายแห่งอยู่ในจีน ทำให้ กัว ถูกพวกนักวิจารณ์ค่อนขอดว่ามีสายสัมพันธ์แนบชิดกับผู้นำปักกิ่ง
กัว ตัดสินใจสละเก้าอี้ประธานฟ็อกซ์คอนน์ในปี 2019 เพื่อที่จะลงชิงประธานาธิบดีไต้หวัน แต่ประสบความพ่ายแพ้ตั้งแต่ในขั้นชิงตำแหน่งตัวแทนของพรรคก๊กมินตั๋ง
ผู้สื่อข่าวตั้งคำถาม กัว เรื่องสายสัมพันธ์ระหว่างเขากับรัฐบาลปักกิ่ง เนื่องจากฟ็อกซ์คอนน์นั้นได้ทุ่มเม็ดเงินลงทุนมหาศาลในจีนแผ่นดินใหญ่ กัว ชี้แจงว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารฟ็อกซ์คอนน์มานานถึง 4 ปีแล้ว
“ผมไม่เคยอยู่ภายใต้การควบคุม (ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน) และผมก็ไม่ยอมที่จะถูกข่มขู่ด้วย” เขายืนยัน
กัว ซึ่งได้รับยกย่องว่าเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีระดับตำนานของไต้หวัน จำเป็นจะต้องรวบรวมรายชื่อผู้สนับสนุนให้ได้ถึง 290,000 ชื่อ จึงจะมีคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับเข้าชิงประธานาธิบดีในฐานะผู้สมัครอิสระ
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กัว ได้เดินสายจัดกิจกรรมหาเสียงตามเมืองใหญ่ๆ ทั่วไต้หวัน และไปปรากฏตัวในพิธีรำลึกครบรอบวันสำคัญต่างๆ
พรรคก๊กมินตั๋งตัดสินใจเลือก โหว โหย่วอี๋ (Hou yu-ih 侯友宜) นายกเทศมนตรีเมืองนิวไทเปซิตี และอดีตผู้บัญชาการตำรวจ เป็นแคนดิเดตประธานาธิบดีของพรรคสำหรับศึกเลือกตั้งปี 2024 แต่ผลสำรวจความคิดเห็นในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าคะแนนนิยมของเขาไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่
ด้านพรรค DPP ประกาศส่งรองประธานาธิบดี วิลเลียม ไล่ ชิงเต๋อ ลงชิงเก้าอี้ผู้นำต่อจาก ไช่ อิงเหวิน และถือเป็นผู้สมัครซึ่งมีคะแนนนิยมสูงสุดตามผลโพลในขณะนี้
ที่มา : เอเอฟพี