มันจะเป็นช่วงชีวิตแห่งมหาวิบัติตกอับทุกองศาหรืออย่างไร สำหรับปีที่ 42 กะรัตของดัชเชสเมแกนผู้เป็นพระชายาเจ้าชายแฮร์รี โดยในวันคล้ายวันเกิด 4 ส.ค.ที่เธอฉลองเบาๆ นั้น สื่อหัวสีขยี้ข่าวทั้งปวง อาทิ เดลิเมลออนไลน์ รายงานว่าไม่มีถ้อยคำแฮปปีเบิร์ธเดย์ใดๆ จากพระราชวงศ์อังกฤษ ถูกส่งไปยังพระสุณิสาเมแกน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญการพระราชวงศ์ชี้ว่า มันคือการตอกย้ำถึงการเสื่อมคุณค่าเสื่อมราคาของแบรนด์ซัสเซกซ์เพราะจะไม่สามารถเข้าถึงวงในแห่งพระราชตระกูลวินด์เซอร์ได้แล้ว หลังจากที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ชัดเจนว่า ไม่ไหวจะเคลียร์ และส่งสัญญาณปิดฉากความพยายามประคองสายสัมพันธ์
ภายหลังที่เจ้าชายแฮร์รี พระโอรสกษัตริย์ชาร์ลส์ออกพระอาการโจ่งแจ้งว่า ทรงไม่แฮปปีหนักมากตลอดเวลาที่ประทับอยู่ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อพ.ค.ที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่จะปิดฉากเรื่องเรื้อรังระหว่างพระองค์กับสำนักพระราชวังบัคกิงแฮม ก็ถูกเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในไม่กี่สัปดาห์ ยุติภาวะค้างคาเสียที
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การยกเลิกสิทธิของเจ้าชายแฮร์รีในการครอบครองพระตำหนักฟร็อกมอร์ คอตเทจ ได้ผ่านทุกขั้นตอนการเคลียร์ ทุกสิ่งอย่างจบสนิทรวดเร็ว รวมทั้งค่าชดเชยทั้งปวง โดยไม่เหลือให้หวังว่าจะมีโอกาสใดๆ สำหรับการฟื้นฟูความสัมพันธ์
และในเวลาต่อมา เดอะซัน สื่อค่ายยักษ์ของอังกฤษจุดประเด็นแพลมข่าวว่าพระราชโอรสสุดท้องของคิงชาร์ลส์จะไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมพระราชพิธีรำลึกครบรอบหนึ่งปีแห่งการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนก.ย. ทั้งนี้ สื่อใหญ่น้อยอื่นๆ พากันขยี้ข่าวดังกล่าวนี้ พร้อมอธิบายนัยของเรื่องในฐานะของสัญญาณชัดเจนว่าเจ้าชายแฮร์รีและพระชายาเมแกนจะทรงเข้าไม่ถึงใจกลางแห่งพระราชวงศ์อังกฤษแล้ว
แต่ความเคลื่อนไหวที่โครมครามอย่างยิ่งคือ การถอดพระฐานันดรพระองค์เจ้า HRH ของปรินซ์แฮร์รีออกจากเว็บไซต์พระราชวงศ์ชั้นผู้ใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเดลิเมลออนไลน์อธิบายว่าคำนำหน้าพระนาม HRH ของพระสวามีแห่งดัชเชสเมแกน ถูกทิ้งคาไว้กว่าสามปีในลักษณะเหมือนเป็นความคลาดเคลื่อนซึ่งอยู่ระหว่างรอให้มีการปรับปรุงข้อมูล ทั้งที่ควรถูกอัปเดทไปพร้อมกันที่ HRH ของดัชเชสเมแกนถูกลบทิ้งเรียบร้อยเมื่อสามปีที่ผ่านมา
พิเศษเหนืออื่นใด คือ การย้ายลำดับการวางข้อมูลของดัชเชสเมแกนกับปรินซ์แฮร์รีลงไปเกือบจะเป็นลำดับสุดท้าย โดยตามหลังพระญาติคือ HRH ปรินซ์เอ็ดเวิร์ด ดยุกแห่งเคนท์ เสด็จน้าของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทั้งนี้ จะมีเพียงปรินซ์แอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก ผู้อื้อฉาว ทรงอยู่ในลำดับปิดท้าย
เหล่านี้เป็นความเสียหน้าสำหรับดัชเชสเมแกนซึ่งยากที่ใจจะคลี่คลาย
ผู้สันทัดกรณีพากันชี้ นี่คือสัญญาณยืนยันว่าหลังจากที่ดัชเชสเมแกนและเจ้าชายแฮร์รีใช้คำบอกเล่าที่ปราศจากเครื่องพิสูจน์ ทำการโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์อังกฤษซ้ำไปซ้ำมา นั้น ความพยายามของพระราชสำนักที่จะรอมชอมและฟื้นฟูความสัมพันธ์ก็ได้ถึงจุดยุติ ทั้งสองพระองค์ทรงถูกเท ถูกลอยแพ และทรงหลุดจากเวทีสูงสุดของพระราชตระกูลเป็นที่แน่นอน
ดังนั้น ความสำคัญของทั้งสองก็น่าจะเสื่อมถอย หมดคุณค่า และไร้คอนเทนต์ที่จะดึงดูดความสนใจของชาวอเมริกัน เดลิเมลออนไลน์รายงาน
สภาพการณ์ตกอับเหล่านี้ปรากฏขึ้นควบคู่กับวี่แววแนวโน้มที่คนดังคับโลกทั้งหลายแห่กัน “ตีชิ่ง” รัชทายาทแห่งราชวงศ์อังกฤษลำดับที่ 5 ผู้ทรงตกกระป๋องเป็นที่เรียบร้อย โดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่า นอกจากที่ปรินซ์แฮร์รีและพระชายาเมแกน จะถูกมองเมินว่าเชื่อถือไม่ได้ และทำตัวเวอร์วังช่างฟูมฟายเกินเบอร์ อดีตพระสหายเหล่านี้ได้ทำการเลือกข้างชัดเจนที่จะไม่แสดงตนเป็นฝ่ายตรงข้ามกับพระราชสำนักอังกฤษ เดลิเมลออนไลน์ชี้ประเด็น
เมื่อทรงตกกระป๋องขนาดนี้ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อธุรกิจภายใต้แบรนด์เดอะซัสเซกซ์น่าจะหนักหนาสาหัสทีเดียว นักวิเคราะห์ชี้ประเด็นโดยให้เหตุผลว่าเมื่อปราศจากหัวโขนและปราศจากที่ยืนบนเวทีราชสำนัก ท่านผู้ชมอเมริกันที่ติดตามดรามาพระราชวงศ์อังกฤษอย่างงอมแงม จะหมดความสนใจในดัชเชสเมแกนกับเจ้าชายแฮร์รี ขณะที่เซเลบริตีทั้งปวงย่อมจะลดชั้นลดคุณค่าของทั้งสองพระองค์
สิ่งสำคัญเหนืออื่นใดที่อาจจะเกิดขึ้นคือ เมื่อแบรนด์เดอะซัสเซกซ์หมดพลังการตลาด ดีลธุรกิจที่คุยๆ กันอยู่ อาทิ ซูเปอร์ดีลกับยักษ์แฟชั่นค่ายดิออร์แห่งฝรั่งเศสน่าจะเดี้ยงไปหมด และค่ายเน็ตฟลิกซ์อาจจะตัดสินใจเททั้งสองพระองค์ แบบเดียวกับที่ค่ายสปอติฟายดำเนินการไปแล้ว
เมื่อทรงเผชิญกับแรงกดดันด้านรายได้ ควบคู่กับแรงกดดันทางสังคมที่กระทบโดยตรงต่อรายได้ ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์จึงทรงถูกฝ่ายต่างๆ จับตาว่าจะรับมือด้วยกลยุทธ์ใดบ้าง ล่าสุดนี้ เริ่มเห็นวี่แววแนวโน้มแล้ว เช่น อาจจะดูลู่ทางที่จะย้ายถิ่นฐานออกจากมอนเตซิโต และอาจจะเริ่มแอบๆ เป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาสินค้า คือ อุปกรณ์คลายประสาทเพื่อหน้าใสอ่อนเยาว์
ในบรรดาวิกฤติชีวิตต้อนรับเบิร์ธเดย์ปีที่ 42 ของดัชเชสเมแกน ซึ่งเต็มไปด้วยการ “ถูกเท” นั้น กรณีซูเปอร์ซุปตาร์เดวิด เบ็คแฮม และกรณีดาราเมกะสตาร์ฮอลลีวูด จอห์น ทราโวตา นับว่าอื้อฉาวเป็นที่สุด
ดัชเชสเมแกนเจอเบิร์ธเดย์ตกอับ ถูก เดวิด เบ็คแฮม ตัดขาด พอไปขอ จอห์น ทราโวลตา ยืมใช้เครื่องบินเจ็ต เขาก็ไม่เยสด้วย
ดัชเชสเมแกนแสนรักของปรินซ์แฮร์รีเริ่มต้นวัย 42 กะรัตในสภาพการณ์น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะเธอตกอยู่ในห้วงชีวิตที่ถูกเหล่าเซเลบริตีพากันตีชิ่ง แม้กระทั่งไปเดินเกมตีสนิทซุปตาร์ขาใหญ่เศรษฐีร้อยล้านแห่งฮอลลีวู้ด อันได้แก่ จอห์น ทราโวลตา ผู้ซึ่งเคยมีโมเมนต์งดงามกับปรินเซสไดอานา แต่ก็ปรากฏว่าแห้วสนิท และกลายเป็นการซ้ำเติมออนท็อปแก่ชะตาเศร้าที่ดัชเชสและปรินซ์ถูกซูเปอร์ซุปตาร์นาม เดวิด เบ็คแฮม ที่เคยสนิทสนมกันเนิ่นนาน ทำการ “เท” ด้วยความแค้น
เจ้าชายแฮร์รีกับพระชายาทรงไปสานสัมพันธ์ฉันมิตรกับ “จอห์น ทราโวตา” สื่อหัวสีจอมอิทธิพลของอังกฤษ เดอะซัน บอกว่าขอยืนยันข่าวนี้ โดยรายงานว่าทั้งสองพระองค์เชิญเมกะสตาร์แห่งฮอลลีวูดไปร่วมปาร์ตีกิจกรรมของมูลนิธิอาร์ชเวลล์ ณ โรงแรมเบเวอร์ลีฮิลส์ ห้องโปโลเลานจ์ ซึ่งหรูหราราคาแพงจัดจ้าน สลัดจานเด่นอยู่ที่ 1,900 ดอลลาร์ และบรรยากาศการสนทนาก็ดำเนินอย่างดีงาม
ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่า จอห์น ทราโวลตา มีความประทับใจอันดีงามกับเจ้าหญิงไดอานา พระมารดาผู้ล่วงลับของปรินซ์แฮร์รี โดยในโอกาสที่เจ้าหญิงตามเสด็จเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์แห่งเวลส์ไปเยือนสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการในปี 1985 ทั้งสองพระองค์เสด็จร่วมงานเลี้ยงต้อนรับที่ทำเนียบขาวโดยประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนเป็นเจ้าภาพ และมีดาราคนดังมากมายได้รับเชิญเข้าร่วม เช่น จอห์น ทราโวลตา คลินต์ อีสต์วูด ทอม เซลเลค ฯลฯ
ในโอกาสนั้น เจ้าหญิงทรงเต้นรำกับนักแสดงที่ฮอตที่สุดของยุคหลายเพลงนานกว่า 15 นาที รวมถึเเพลงสุดโปรดของมหาชนอย่างYou’re the One That I Want ซึ่งทราโวลตาให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนใภภายหลังว่า สิบห้านาทีนี้เป็นหนึ่งในช่วงชีวิตดันโดดเด่นอย่างยิ่ง เดอะซันรายงาน
ดังนั้น จึงไม่น่าประหลาดใจที่วีวีไอพีแห่งฮอลลีวูดจะตอบรับคำเชิญจากพระโอรสของเจ้าหญิงไดอานา เพื่อคุยกันถึงภารกิจของอาร์ชเวลล์ แม้ว่าบรรดาเซเลบอเมริกันทยอยตีชิ่งจากลา
อย่างไรก็ตาม การพบปะหารือระหว่างดยุกและดัชเชส กับทราโวลตาได้กลายเป็นมีตติงครั้งแรกและครั้งสุดท้าย หลังจากที่ดัชเชสออกปากขอสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง รอยัล รีลส์ สื่อหัวสีราชวงศ์ประเภทคลิปยูทูป รายงาน ดังนี้
ขณะที่ซุปตาร์มหาเศรษฐีหลายร้อยล้านอย่างทราโวลตาสะสมเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวไว้ทั้งสิ้น 7 ลำ ด้านดยุกกับดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ก็มีกำหนดการจะบินไปเยอรมนีในภารกิจการกุศลของปรินซ์ คือ อำนวยการกิจกรรมแข่งขันกีฬาทหารบาดเจ็บพิการนานาชาติ อินวิคตัสเกมส์ ในเดือนก.ย. ด้วยเหตุนี้ ดัชเชสผู้ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวเท่านั้น (แม้พระสวามีผู้เป็นรัชทายาทแห่งราชบัลลังก์อังกฤษลำดับต้นๆ มาตลอดพระชนม์ชีพ ทรงปรับพระไลฟ์สไตล์ลงมาเดินทางด้วยสายการบินพาณิชย์ในชั้นเฟิสต์คลาแล้วก็ตาม) จึงทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมสำหรับการพบปะสนทนากันครั้งแรก
‘ใครๆ ก็ทราบว่าดัชเชสเมแกนจะกริ้วหนักมาก หากเธอต้องลดตัวลงไปเดินทางด้วยเครื่องบินของสายการบินต่างๆ ดังนั้น ดัชเชสและพระสวามีได้ออกปากกับคุณน้าจอห์นว่า จะให้ยืมใช้เครื่องบินเจ็ตสุดหรูสักลำโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายได้ไหม’ รอยัล รีลส์ เล่าไว้บนยูทูป โดยอ้างแหล่งข่าวระดับวงในสุดๆ
ปรากฏว่า ซุปตาร์ทราโวลตา มิได้ตอบโอเคอบอุ่นเต็มใจแต่อย่างใด โดย รอยัล รีลส์เล่าดังนี้
‘จอห์น ทราโวลตา พูดว่าต้องขอคิดก่อน เพราะมีการบุ๊กจองไว้ล่วงหน้าเยอะทีเดียว แต่แล้วหลังจากมีตติงเลิกราผ่านไป คุณน้าทราโวลตา มิได้ติดต่อไปยังดยุกและดัชเชสเลย’
ข่าวการพบปะสนทนากับมหาเศรษฐีดารานักแสดงคนดังก้องโลกดังกล่าว ปรากฏออกมาไม่นานหลังมีข่าวอื้อฉาวว่า ซูเปอร์ซุปตาร์ “เดวิด เบ็คแฮม”พระสหายแนบแน่นยาวนานของปรินซ์แฮร์รีและพระชายา โกรธเคืองเดือดดาลการกระทำของสองพระองค์อย่างที่สุด ถึงขนาดที่ตัดสัมพันธ์กันเลยทีเดียว
ประเด็นเริ่มจากการที่ดยุกและดัชเชสทรงกล่าวหาว่าเดวิด เบ็คแฮม และภรรยา ไปเล่าเรื่องส่วนตัวของพวกตนในหลายกรรมหลายวาระ เดลิเมลออนไลน์รายงาน และบอกด้วยว่าเดวิด เบ็คแฮม บันดาลโทสะขั้นสุดต่อข้อกล่าวหา
แหล่งข่าวซึ่งใกล้ชิดกับ เดวิดและวิกตอเรีย เล่าว่าคนดังทั้งสี่โคจรมารู้จักกันเพราะทีมงานอาวุโสของเดวิดที่ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสื่อสารองค์กรเป็นเพื่อนกับ มาร์คัส แอนเดอร์สัน บิ๊กบอสฝ่ายสมาชิกของสโมสรโซโหเฮาส์ ซึ่งช่วยจัดนัดหมายให้นางเมแกน มาร์เคิล นักแสดงซีรีส์ Suits ได้เดทกับปรินซ์แฮร์รี
ในมิตรภาพเดิมของสามีภรรยาซุปตาร์ระดับโลกกับนางเมแกน มาร์เคิลในครั้งที่ยังเป็นแม่ม่ายหย่าร้าง และกำลังปลูกต้นรักกับปรินซ์แฮร์รีนั้น เดวิดได้ช่วยเหลือดูแลในเวลาที่เธอมาถึงอังกฤษไว้อย่างมหาศาล แหล่งข่าวในแวดวงครอบครัวเบ็คแฮม เล่าไว้กับเดลิเมลซันเดย์
ในวันที่ความเป็นสหายสนิทถึงคราวแตกหักยับเยินนั้นแหล่งข่าวรายนี้เล่าว่า เจ้าชายแฮร์รีทรงโทรศัพท์ไปกล่าวหาและต่อว่าเดวิดที่นำเรื่องส่วนตัวมากมายของพระองค์กับพระชายาไปเมาท์กระจาย ดังนั้น ซูเปอร์ซุปตาร์ระดับโลกอย่างเดวิด แบ็คแฮม จึงไม่ยอมทนให้หยามเกียรติลูกผู้ชาย และทำการเทปรินซ์และดัชเชสอย่างไม่เหลือเยื่อใย
ดังเห็นได้ว่า ในสุดยอดอีเวนต์รวมดาวชาวเซเลบแห่งปี 2023 เมื่อ 21 ก.ค. 2023 ซึ่งลิโอเนล เมสซี เปิดตัวลงเตะแมตช์ประเดิมกับทีมอินเตอร์ ไมอามี ของเดวิด เบ็คแฮม หวดแข้งกับทีมครูซ อาซูล และนำทีมคว้าชัยได้ 2-1 นั้น สารพัดคนเด่นดาวดังคับโลกแห่กันเข้าชมและเชียร์ พร้อมเฮฮาปาร์ตีกันครึกครื้นบนวีไอพีบ็อกซ์ ไม่ว่าจะเป็นเซเรนา วิลเลียมส์ คิม คาร์เดเชียน หรือ เลอบรอง เจมส์ แห่งลอสแอนเจลิส เลเกอร์ส ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ปรินซ์แฮร์รีและดัชเชสเมแกนไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมในซูเปอร์อีเวนต์นี้ เดลิเมลออนไลน์รายงาน
“เมแกน& แฮร์รี” ถูกสังคมเซเลบ‘เท’ ระนาว จิลล์ ไบเดน แห่ง US ที่เคยเมตตากัน ก็ตัดขาด ด้านเทย์เลอร์ สวิฟต์ คือ โน ในแบบแผนธุรกิจ
ประธานาธิบดีโจเซฟ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ และดร.จิลล์ ไบเดน ภริยาแสนสวย ตกเป็นข่าวฮือฮาทั่วโลกเมื่อเดือนที่แล้ว (ก.ค. 2023) หลังปรากฏข่าวย้อนอดีตว่าในเดือนก.ย. 2022 ซึ่งสองวีวีไอพีเดินทางไปเข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 นั้น เจ้าชายแฮร์รีกับดัชเชสเมแกนได้มอบหมายให้ทีมงานของพระองค์ประสานไปยังทำเนียบขาว เพื่อขอติดเครื่องบินประจำตำแหน่ง “แอร์ฟอร์ซวัน” กลับไปสหรัฐฯ ด้วย นิวยอร์กโพสต์ ค่ายข่าวเจ้ายักษ์รายงานประสานเสียงไปกับสื่อเจ้าพ่ออื่นๆ ทั่วโลก โดยมีการระบุผลว่า
ในการขอติดโบอิ้งแอร์ฟอร์ซวันกลับอเมริกาดังกล่าว ปรินซ์และดัชเชสถูกปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาโดยฉับพลัน
นิวยอร์กโพสต์อ้างแหล่งข่าววงในบอกว่า ความกังวลของทำเนียบขาวที่จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่พระราชโอรสและพระราชสุณิสาของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 มีอยู่ว่า เรื่องอย่างนี้จะแลดูไม่งาม ในเมื่อปรินซ์แฮร์รีและดัชเชสเมแกนได้ทำการโจมตีเล่นงานสถาบันกษัตริย์อังกฤษอย่างรุนแรงครั้งแล้วครั้งเล่า นับตั้งแต่ปี 2021 จดจนต้นปี 2023
หากคำขอนี้บรรลุผล สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ภาพถ่ายสุดหรูที่ปรินซ์กับดัชเชสก้าวเดินเคียงไปกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ขึ้นไปตามขั้นบันไดต่างๆ ของโบอิ้ง 747 แอร์ฟอร์ซวัน ภาพเยี่ยงนี้จะเป็นคำประกาศก้องโลกว่าปรินซ์กับดัชเชสมีแบคอัปแข็งแกร่งอย่างยิ่ง และพระราชวังบัคกิงแฮมก็น่าจะไม่แฮปปี ขณะที่สื่อมวลชนอังกฤษคงจะรุมประนามเดลิเมลออนไลน์วิเคราะห์
แหล่งข่าวของเดลิเมลออนไลน์ซึ่งทราบดีเกี่ยวกับขั้นตอนการพิจารณาตอบปฏิเสธ ได้ให้รายละเอียดว่าคำปฏิเสธกระเด้งออกมาจากฝั่งอเมริกันแบบว่าทันทีทันควัน โดยแทบจะไม่มีการไถ่ถามหารือใดๆ ทั้งสิ้น
“มันจะสร้างความโกลาหลน่ะ และจะทำให้ความสัมพันธ์กับสำนักพระราชวังและคิงพระองค์ใหม่ตึงเครียดขึ้นมา” แหล่งข่าวอีกสายหนึ่งกล่าวกับเดลิเมลออนไลน์
“ดรามา แอร์ฟอร์ซวัน” เริ่มจากที่ปรินซ์กับพระชายาเสด็จจากพระตำหนักในมอนเตซิโต รัฐแคลิฟอร์เนีย ไปดำเนินภารกิจการกุศลส่วนพระองค์ในสหราชอาณาจักร และเมื่อควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทรงสวรรคต ทั้งคู่จึงประทับในกรุงลอนดอนตลอดพระราชพิธีพระบรมศพ
ในห้วงเวลาสำคัญอย่างยิ่งนี้ ทั้งสองพระองค์ได้ประสบกับผลของการลาออกจากพระราชวงศ์ชั้นอาวุโส กล่าวคือ
ในเบื้องแรก ทรงไม่ได้รับเชิญร่วมรัฐพิธีที่เกี่ยวข้องกับพระราชพิธีพระบรมศพ โดยเฉพาะพิธีเลี้ยงต้อนรับแขกรับเชิญระดับวีวีไอพีจากนานาประเทศ อาทิ พระมหากษัตริย์ ประธานาธิบดี ซึ่งมีขึ้น ณ พระราชวัง บัคกิงแฮม เพราะพระราชวงศ์ที่ได้รับสิทธิเข้าร่วคือกลุ่มที่ทรงปฏิบัติพระราชกิจของสำนักพระราชวัง
ในวันต่อมา ปรินซ์และดัชเชสได้จุดประทับนั่งตามสถานภาพใหม่ คือขณะที่ครอบครัวของเจ้าชายวิลเลียมทรงประทับนั่งแถวแรกเหมือนพระราชบิดา ปรินซ์และดัชเชสต้องประทับนั่งในแถวที่สอง แต่ยังไม่เสียหน้ามากมายนัก เพราะทรงได้นั่งติดด้านหลังของพระราชบิดา
สภาพการณ์เหล่านี้ตอกย้ำให้ชาวโลกตระหนักว่าสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ทรงเอาจริงตามพระราชประเพณี ปรินซ์กับดัชเชสจึงต้องหลุดจากแวดวงของพระราชวงศ์ชั้นสูงสุด ซึ่งเป็นธรรมดาที่สังคมวีวีไอพีโลกจะทำการลดชั้นความสำคัญของทั้งสองพระองค์ลงตามสถานะที่เปลี่ยนไปในการนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และดร.จิลล์ ไบเดน ก็ต้องสร้างระยะห่างออกจากปรินซ์และดัชเชสเช่นกัน
ทั้งนี้ ท่านผู้ชมได้เห็นสัญญาณแรงชัดที่บ่งชี้ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และภริยา ได้เขยิบออกห่างปรินซ์แฮร์รีและดัชเชสเมแกน ตั้งแต่เดือนเม.ย. 2022 เมื่อดร.จิลล์ ไบเดน ปฏิเสธคำเชิญเข้าร่วมมหกรรมการแข่งขันกีฬานานาชาติอินวิคตัสเกมส์ ณ กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ อันเป็นมหกรรมกีฬารายการยักษ์ที่ปรินซ์แฮร์รีทรงก่อตั้งและส่งเสริมสนับสนุนมาโดยตลอดนับจากปีแรก 2014 ถึงปัจจุบัน นิวยอร์กโพสต์ให้ข้อมูล
ที่ผ่านมา ดร.จิลล์ ไบเดน เป็นประธานคณะทหารนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันนานาชาติอินวิคตัสเกมส์ ณ รัฐฟลอริดา สหรัฐฯ เมื่อปี 2016 ซึ่งเธอยังดำรงสุภาพสตรีหมายเลข 2 และแม้จะพ้นตำแหน่งไปแล้ว ในปี 2017 ทั้งดร.จิลล์ และอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตลอดจนอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก็ควงแขนกันเข้าร่วมกีฬาอินวิคตัสเกมส์ที่แคนาดา
อันที่จริงนั้น ดร.จิลล์ อยากจะตอบรับคำเชิญไปเข้าร่วมวิคตัสเกมส์ 2022 เดือนเม.ย. เพราะเธอให้ความสำคัญแก่กิจกรรมเพื่อทหารหาญอย่างสม่ำเสมอ แต่คณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอังกฤษแจ้งต่อสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ว่า ภาพอาจจะออกมาไม่ดีหากสุภาพสตรีหมายเลข 1 ปรากฏตัวในมหกรรมกีฬาที่เจ้าชายแฮร์รีทรงเป็นโต้โผใหญ่ เรื่องจึงลงเอยด้วยการมอบหมายให้ รมว.คมนาคม พีต บูติเจิจ และสามี ไปปฏิบัติหน้าที่แทน นิวยอร์กโพสต์รายงาน
หลังดัชเชสเมแกนถูกประธานาธิบดียูเอสและภริยาทำการเท เพราะครอบครัวหมายเลขหนึ่งเลือกที่จะถนอมน้ำพระทัยของกษัตริย์ชาร์ลส์ผู้เป็นมิตรกันมาเนิ่นนาน ดัชเชสได้พาตนเองไปโดนประสบการณ์เสียหน้าอย่างแรง เมื่อเธอไปจีบประจบขอใช้ประโยชน์จากความป็อบปูลาร์ของ “เทย์เลอร์ สวิฟต์” สุดยอดศิลปินนักร้องนักแสดงคอนเสิร์ตและซูเปอร์สตาร์เจ้าของรางวัลแกรมมีนับจำนวนไม่ถ้วน
กล่าวคือ ในห้วงที่ยังจัดทำคอนเทนต์Celeb Talk สำหรับพอดแคสต์อาร์เคอไทปส์บนแพลตฟอร์มสปอติฟาย ดัชเชสลงทุนจัดหนักจัดเต็ม เขียนจดหมายน้อยด้วยลายมือตนเองส่งไปยังสุดสวยเทย์เลอร์ สวิฟต์ เพื่อเรียนเชิญร่วมสนทนา Celeb Talk สักอีพีหนึ่ง ทั้งนี้วิธีทาบทามเรียนเชิญขนาดนี้ เป็นไปเพื่อให้เกียรติอย่างสุดๆ และส่วนใหญ่นั้น บุคคลเป้าหมายมักจะเกรงใจและยอมตอบรับเชิญ
แต่อุปสรรคต่อความสำเร็จของจดหมายส่วนตัวของดัชเชสที่จีบประจบ เทย์เลอร์ สวิฟต์ มีอยู่อย่างน้อย 2 ประการ
ซุปตาร์เทย์เลอร์ เป็นสาวสวยสุดยอดกตัญญูต่อคุณพ่อคุณแม่ในระดับที่คว้ามงกุฎ “ลูกสาวแห่งชาติ” ได้เลย โดยคุณพ่อสก็อตต์ สวิฟต์ ก็รักและทุ่มเทส่งเสริมเทย์เลอร์อย่างมากมาย ละม้ายกับที่คุณพ่อโทมัส มาร์เคิล เคยทำให้แก่เมแกน มาร์เคิล แต่ลงเอยแล้วนางเมแกน มาร์เคิลตัดขาดคุณพ่อได้ลงคอก่อนที่ปรินซ์แฮร์รีจะเสกสมรสกับเธอ นั่นคืออุปสรรคประการแรก
อุปสรรคประการที่สองซึ่งสำคัญยิ่งยวด ซุปตาร์เทย์เลอร์นิยมชมชอบคนดีมีน้ำใจต่อประชาชน ซึ่งทำให้เทพธิดานัยน์ตาสีฟ้าตัดสินใจร่วมมือกับปรินซ์วิลเลียม เป็นเจ้าภาพจัดกาลาดินเนอร์ระดมทุนประจำปี 2013 ให้แก่องค์กรการกุศลเพื่อคนไร้บ้านในประเทศอังกฤษ นามว่าCentrepoint ซึ่งมีปรินซ์วิลเลียมเป็นองค์อุปถัมภก โดยในงานไฮโซแห่งชาตินี้ มีศิลปินซูเปอร์สตาร์มากมาย อาทิ บองโจวี ไปร่วมจัดการแสดงที่พระราชวังบัคกิงแฮม ในงานเลี้ยงกาลาดินเนอร์ระดมทุนประจำปีขององค์กร Centrepoint
เทย์เลอร์ให้สัมภาษณ์ความประทับใจใหญ่หลวงต่อCenterpoint ว่าเธอได้เห็นเยาวชนเร่ร่อนสามารถเปลี่ยนแปลงตนเองหลังจากที่ได้รับความช่วยเหลือจาก Centerpoint และจากความทุ่มเทอย่างจริงใจของปรินซ์วิลเลียม
ในกาลาดินเนอร์การกุศลดังกล่าว เทพธิดาเทย์เลอร์จูงมือปรินซ์วิลเลียมไปขึ้นเวทีแจมกับ บองโจวี ในเพลงขวัญใจวัยรุ่นLivin’ on a Prayer และกลายเป็นข่าวครึกครื้นไปทั่วประเทศ เพราะปรินซ์ทรงช่วยบองโจวีกับเทย์เลอร์ร้องท่อนฮุกได้อย่างน่ารักน่ากรี๊ดเป็นที่สุด หลังจากนั้นนานทีเดียว ปรินซ์ทรงให้สัมภาษณ์ถึงประสบการณ์ส่วนตัวที่ทรงสุดปลื้ม บอกว่า
“คิดดูนะครับ ระดับเทย์เลอร์ สวิฟต์อ่ะครับ แตะแขนผม มองสบตาและบอกว่า‘มากันค่ะวิลเลียม ไปร้องเพลงด้วยกัน’ ผมก็ลุกขึ้น ตามเทย์เลอร์ไปเหมือนลูกหมาเดินละเมอครับ”
ปรินซ์วิลเลียมทรงเล่าถึง เทย์เลอร์ สวิฟต์ อย่างที่ให้เกียรติขั้นสุดขนาดนั้น บรรดาแฟนคลับล้วนบอกได้ตรงกันว่าทั้งสองวีวีไอพีเป็นสหายสนิทกันอย่างยิ่ง
วอลล์สตรีทเจอร์นัล (WSJ) ซึ่งเป็นสื่อหลักที่รายงานข่าวดัชเชสเมแกนทาบทามเชิญซุปตาร์เทย์เลอร์ รายงานด้วยว่า สาวสวิฟต์ นักร้องหญิงค่าตัวแพงที่สุดในโลก ได้มอบหมายให้ตัวแทนของเธอแจ้งปฏิเสธคำเชิญอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ WSJ นำเสนอข่าวดังกล่าว เพื่อประกอบไปกับรายงานข่าวการเจรจาระหว่างปรินซ์แฮร์รีและดัชเชสเมแกน กับเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งสื่อธุรกิจการเงินเจ้านี้สรุปว่าไอเดียใหญ่โต แต่เมื่อดำเนินการ ก็ทำได้ต่ำกว่ามาตรฐาน โดยระบุว่า ก่อนหน้านี้บรรดาผู้บริหารของสองค่ายธุรกิจบันเทิงจอมยักษ์ของโลก เน็ตฟลิกซ์ และสปอติฟาย กล่าวว่ารู้สึกผิดหวังที่ทั้งสองพระองค์ไม่ค่อยมีผลผลิตที่ร้อนแรงเปี่ยมสีสรร
ดัชเชสเมแกน&ปรินซ์แฮร์รีทรง“ดรามาเวอร์วัง - พูดจาเชื่อไม่ได้” คือ สาเหตุหนึ่งที่เซเลบฮอลลีวูด “เท” ทั้งสองพระองค์
การสูญเสียสัมพันธ์กับ เดวิดและวิกทอเรีย เบ็คแฮม เป็นเครื่องสะท้อนถึงปัญหาคลื่นใต้น้ำอันมหาศาลที่ทยอยบ่อนทำลายพลังการตลาดของดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ทั้งนี้ พวกผู้เชี่ยวชาญในสหรัฐฯ ชี้ประเด็นว่าเซเลบริตีทั้งฝั่งธุรกิจบันเทิงและฝั่งการเมืองพากันเอือมราชนิกุลตกกระป๋องคู่นี้ โดยเทรนหลักที่เป็นอยู่ขณะนี้คือ กระแสเซเลบพากันตีตัวออกห่าง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังเหตุการณ์ “ดรามาปาปารัซซีเวอร์วัง” กลางเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสองพระองค์ส่งข่าวไปยังสื่อมวลชนต่างๆ ว่าถูกรถช่างภาพปาปารัซซีกว่า 6 คันขับกวดไล่ล่าจะตามถ่ายภาพพระองค์อย่างชนิดที่ “เกือบจะเกิดหายนะถึงแก่ชีวิต”โดยไล่ตะบึงตะบอนไปตามถนนสายต่างๆ ในกรุงนิวยอร์กไม่ยอมเลิกรานานกว่า 2 ชั่วโมงพร้อมกันนี้ ยังโยงไปถึงโศกนาฏกรรมแห่งการเสียชีวิตของเจ้าหญิงไดอานา ในมรณกรรมรถคว่ำขณะหนีบรรดาปาปารัซซีที่ขับรถไล่ตามจะถ่ายพระรูป เมื่อ 26 ปีที่แล้ว
ด้านสื่อใหญ่น้อยพากันโหนกระแสข่าวนี้เป็นที่ครึกโครมหลายชั่วโมงตลอดเช้าวันพุธที่ 17 พ.ค.ในอังกฤษและสหรัฐฯ ก่อนกระแสจะวูบดับหายลับไปอย่างง่ายดายเมื่อทางการนิวยอร์ก ออกมาวิเคราะห์สภาพการณ์ว่า เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะดรามาขนาดนั้น
อาทิ ตำรวจนิวยอร์กสองนายที่ทราบข้อมูลใกล้ชิด ให้สัมภาษณ์แก่สื่อใหญ่น้อยทั้งปวงแบบสวนทาง โดยบอกว่ามีการขับรถไล่ตามถ่ายรูปจริง แต่ “ไม่ถึงขนาดเกือบจะเกิดหายนะถึงแก่ชีวิต” แค่เป็น “เหตุวุ่นวายบ้าง” เท่านั้น
ส่วนอีริก อาดัมส์ นายกเทศมนตรีแห่งนิวยอร์กซิตี บอกว่า “ยากที่จะเชื่อครับ ขับรถไล่กวดกันฝ่ากลางนิวยอร์กซิตีอย่างนั้นเป็นชั่วโมง” พร้อมบอกด้วยว่าไล่ตามกันดุเดือดขนาดนั้น แค่ 10 นาทีก็แย่แล้ว
สำนักงานตำรวจนิวยอร์กยืนยันสภาพการณ์ว่า ก็ไม่มีการชน ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ และเหนืออื่นใด หากเกิดเหตุกระทำความผิดร้ายแรงขนาดที่ให้ข่าวออกไปนั้น ตำรวจนิวยอร์กสองนายซึ่งขับรถนำรถเอสยูวีของคณะเจ้าชาย สามารถวิทยุขอกำลังหนุนมาจับกุมเหล่าร้ายพวกนี้ไปได้ทั้งหมด และเคลียร์ทางพาคณะกลับถึงที่พักได้อย่างง่ายดาย นอกจากนั้น หากมีอันตรายหมิ่นเหม่จะเกิดหายนะบาดเจ็บล้มตายในจุดต่างๆ ก็จะต้องมีประชาชนแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายไปยังตำรวจบ้าง ซึ่งก็ไม่มีการโทรศัพท์แจ้งแต่อย่างใด
(อ่านละเอียดที่https://mgronline.com/around/detail/9660000046280)
ดังนั้น จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้คนจะรู้สึกต่อต้านการให้ข่าวสร้างกระแส อีกทั้งจะโยงอุปนิสัยแบบนี้ไปยังข้อกล่าวหาร้ายแรงจำนวนมาก ที่เจ้าชายแฮร์รีกับดัชเชสเมแกนเคยใช้โจมตีพระราชวงศ์อังกฤษ
มิตเชลล์ แจ็กสัน นักประสานข่าวเซเลบสู่สื่อมวลชน ให้สัมภาษณ์เดอะไทมส์ สื่อค่ายยักษ์ลายครามเจ้าเก่าแก่ของอังกฤษ ดังนี้
“ปัญหาของเจ้าชายแฮร์รีกับดัชเชสเมแกนก็คือ หลังจากเรื่องราวทั้งปวงเกี่ยวกับการขับรถไล่ตามจะถ่ายภาพที่นิวยอร์กน่ะค่ะ คนเขาพากันรู้สึกประมาณว่าทั้งสองพระองค์ไม่น่าเชื่อถือ มีความดรามาเพ้อเจ้ออย่างหนัก และเรื่องนี้จะวนเวียนติดตรึงอยู่กับพระองค์ค่ะ”
คู่เซเลบริตีแห่งฮอลลีวูดที่ถูกสื่อมวลชนจับตาในกรณีตีชิ่งออกจากเจ้าชายแฮร์รีกับดัชเชสเมแกน คือ คู่หมั้นซูเปอร์สตาร์ “เคที เพร์รี กับ ออร์แลนโด บลูม” นักแสดงสุดหล่อจากอังกฤษ โดยเป็นอะไรที่ผู้สันทัดกรณีจับตามองมาตลอดหลายไตรมาสคฤหาสน์ของนักร้องสาวสุดยอดอเมริกันไอดอลผู้เป็นที่รักอย่างยิ่งในแวดวงเยาวชนอังกฤษ ตั้งอยู่ในมอนเตซิโต ใกล้เคียงกับพระตำหนักของปรินซ์แฮร์รี
สกูปหนึ่งของนิตยสารพีเพิลที่เล่าถึง เคที เพร์รี กับความเป็นพระสหายก๊วนมอนเตซิโต ชี้ให้เห็นว่าการพบปะสมาคมกันยังปรากฏอยู่ อย่างน้อยก็จดจนเดือนม.ค. 2023
โดยในปาร์ตีวงเล็กแต่สุดแสนจะเอ็กซ์คลูซีฟ ณ คฤหาสน์ของเอลเลน ดีเจนเนอริส กับภรรยานักธุรกิจคนสวย ปอร์เชีย เดรอสซี เมื่อ 31 ม.ค. 2023 สองมหาเศรษฐีนีเซเลบริตีมีการประกาศคำยืนยันเป็นคู่สามีภรรยา ควบคู่กับปาร์ตีวันเกิดของปอร์เชีย พร้อมกับเชิญเพื่อนสนิทเข้าร่วมที่ล้วนเป็นระดับA-Lister ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนเลิฟและเพื่อนบ้าน
แน่นอนว่า ในลิสต์แขกรับเชิญจะต้องมีคู่ของเจ้าชายแฮร์รีกับดัชเชสเมแกน อีกทั้งกวินเน็ธ พัลโทรว์ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน (หนึ่งในนางเอก Friends นามเรเชล) ตลอดจนคู่ของ เคที เพร์รี กับ ออร์แลนโด บลูม ซึ่งล้วนเป็นคณะเพื่อนบ้านมอนเตซิโต
อย่างไรก็ตาม ภายหลังต่อมาข่าวสะพัดออกไปในวงกว้างว่า เคที และคู่หมั้นชาวอังกฤษกลายเป็นอีกหนึ่งคู่เซเลบที่ผละออกจากแวดวงดัชเชสและปรินซ์ ซึ่งเล่นงานโจมตีอังกฤษหนักหนาเหลือเกิน
“ในช่วงหนึ่ง เคทีเคยสนิทกับดัชเชสและปรินซ์ค่ะ แต่เธอเดินทางบ่อย ก็จึงยากจะรักษามิตรไมตรีสนิทสนมไว้ได้” แหล่งข่าวรายหนึ่งบอกเดลิเมลออนไลน์อย่างสุภาพรอมชอม ขณะที่แหล่งข่าวอีกรายหนึ่งกล่าวว่า “เคทีตอบรับไปแสดงในคอนเสิร์ตฉลองพระบรมราชาภิเษกของพระเจ้าชาร์ลส์ ก็อาจเป็นได้ว่าเธอเลือกข้างแล้วหรือเปล่าก็ไม่ทราบ”
ด้านสื่อหัวสีนักขยี้ข่าวพระราชสำนักอีกหนึ่งค่ายใหญ่ คือ ดิเอ็กซ์เพรซ รายงานว่ายังมีเซเลบแห่งฮอลลีวูดระดับบิ๊กสตาร์อื่นๆ อีก ซึ่งเป็นที่ทราบกันแบบวงในสุดๆ ว่าหมดใจกับดัชเชสและปรินซ์ โดยเจ้าพ่อแท็บลอยด์อังกฤษนำข้อมูลมาเสนอ จากคำให้สัมภาษณ์ของพอลลา เฟรอลิค นักข่าวหลักของสื่อทีวีอเมริกันนิวส์เนชัน ซึ่งให้ชื่อซูเปอร์สตาร์ที่เลิกราไปแล้วสองราย
คนหนึ่งคือ “ร็อบ โลว์” ดารารูปหล่ออมตะไม่มีแผ่ว ซึ่งแสดงภาพยนตร์มากมาย อาทิ St. Elmo’s Fire และ About Last Night และอีกคนหนึ่งคือ “จูเลีย ลูอีส์-เดรย์ฟัส” ดาวตลกสาวคนดังขวัญใจคอซีรีส์ทั่วโลกจากซิทคอมเรื่อง เซนเฟลด์ และเรื่องวีป
พร้อมนี้ ดิเอ็กซ์เพรซตั้งประเด็นไว้ว่าบรรดาซูเปอร์สตาร์ชั้นนำแห่งฮอลลีวูด ที่ตีตัวออกห่างเจ้าชายแฮร์รีและดัชเชสเมแกน ล้วนเป็นผู้ที่มีคฤหาสน์อยู่ในมอนเตซิโตนั่นเอง
กรณีเลิกคบและเป็นข่าวกระฉ่อนเพราะปรินซ์ทำให้เสียชื่อเสียง คือ โมนิกา เกลเลอร์ แห่งซิทคอมชุดFriends หรือก็คือ คอร์ตนีย์ ค็อกซ์ นั่นเอง
อีกหนึ่งซุปตาร์นักร้อง กับซุปตาร์นักแสดง คือ “มารายห์ แครีย์” กับ “คอร์ตนีย์ ค็อกซ์” ซูเปอร์สตาร์ผู้เป็นที่รักของท่านผู้ชมทั่วโลกในบทบาทโมนิก้า แกลเลอร์ แห่งซีรีส์ยอดบันเทิงชุดFriends 10 ซีซันไม่มีแผ่ว ก็อยู่ในข่าวว่า ไม่ไหวจะคบ กับปรินซ์แฮร์รีและพระชายา
ในกรณีของคอร์ตนีย์ ค็อกซ์ เดลิเมลออนไลน์รายงานว่า “คอร์ตนีย์ ค็อกซ์” ไม่ชอบใจเลยที่ปรินซ์แฮร์รีไปเขียนเล่าในหนังสือชีวประวัติส่วนพระองค์ SPARE (วางแผง 10 ม.ค. 2023) ว่าตอนที่ตามบรรดาเพื่อนไฮโซไซตีของพระองค์ไปเฮฮาปาร์ตีและนอนค้างที่นิวาสสถานของ คอร์ตนีย์ ค็อกซ์ (เจ้าของบ้านไม่อยู่) นั้น พระองค์ไปลองเห็ดวิเศษ หรือก็คือ Magic Mushrooms อันเป็นยาเสพติดประเภท 5 ที่คนไทยเรียกกันว่า เห็ดขี้ควาย ซึ่งทำให้เกิดอาการจิตหลอน
ในการนี้ เจ้าชายสายปาร์ตี (พระฉายาที่สื่อมวลชนเคยตั้งถวายปรินซ์แฮร์รี) ทรงเล่าว่าตอนเดือนม.ค. 2016 ทรงเสด็จจากอังกฤษไปพักผ่อนที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐฯ พร้อมพระสหาย 2 ราย และทรงมีโอกาสไปเบิกบานปาร์ตีที่บ้านคอร์ตนีย์ ค็อกซ์ ซึ่งเป็นดาราซีรีส์ที่พระองค์หลงใหลขนาดที่ทรงคิดว่าตนเองคือ แชนด์เลอร์ (ตัวละครที่แต่งงานกับโมนิก้าในซีรีส์ Friends)
ปรินซ์เล่าเปิดใจว่า ได้ไปเที่ยวบ้านคอร์ตนีย์ แถมยังได้พบคอร์ตนีย์ตัวจริงอีกต่างหาก ซึ่งเป็นอะไรที่ทรงบอกว่าเหมือนความฝันที่เหนือจริง ทรงเล่าว่าตอนแรกเป็นปาร์ตีที่บ้านของแฟนเพื่อน แล้วย้ายไปต่อที่บ้านของคอร์ตนีย์ โดยสาวน้อยของเพื่อนบอกว่าจะได้สนุกมากขึ้น เพราะที่ทางกว้างขวางกว่า และช่วงนั้น คอร์ตนีย์ เดินทางไกลไปทำงานหลายวัน และอนุญาตไว้แล้วว่าสาวน้อยจะพาเพื่อนไปปาร์ตีถล่มบ้านเมื่อใดก็ได้ “ผมน่ะโอเคแหละ แล้วผมก็เป็นแฟนพันธุ์แท้ของซีรีส์เฟรนด์ การไปปาร์ตีถล่มบ้านคอร์ตนีย์เป็นอะไรที่น่าสนุกมาก และแล้ว... คอร์ตนีย์กลับเข้าบ้าน” ปรินซ์เขียนเล่าไว้อย่างนั้น โดยบอกด้วยว่าเจ้าของบ้านไม่ว่าอะไรพวกพระองค์เลย แถมเธอยังโทรศัพท์ชวนเพื่อนดารามาสมทบอีกสองสามคน โดยหนึ่งในนั้นคือนักแสดงที่พระองค์ชื่นชอบ ซึ่งทรงเอ่ยถึงด้วยคำว่า นักแสดงจากเรื่องแบทแมนเลโก (วิลล์ อาร์เนตต์ ที่พากย์เสียงแบทแมนในเรื่องThe LEGO Batman)
“มันเจ๋งมากครับ แต่ในใจผมออกจะสับสน เพราะ... เธอคือโมนิก้า และผมก็เป็นแชนด์เลอร์ ผมสงสัยตนเองว่าผมจะรวบรวมความกล้าไปบอกเธออย่างนั้นไหม ในรัฐแคลิฟอร์เนียจะมีเตกิลา มหาศาลพอที่จะทำให้ผมกล้าหาญได้ขนาดนั้นหรือเปล่า” เขียนโดยปรินซ์แฮร์รี
ปรินซ์เล่าต่อไปว่าดาราคนนั้นพาพระองค์กับเพื่อนไปหยิบเครื่องดื่มที่ตู้เย็นพระองค์จึงเห็นกล่อง แบล็ก ช็อกโกแลตเห็ดวิเศษ และมีเสียงบอกมาว่าหยิบทานได้ตามสบาย พระองค์กับเพื่อนจึงนำมาทานหลายอัน แล้วซดเตกีลาตาม
หลังจากนั้นสักพัก เห็ดขี้ควายก็ออกฤทธิ์ ปรินซ์เล่าว่าทรงเข้าห้องน้ำและเริ่มเห็นตัวปีศาจต่างๆ ทั้งตัวถังขยะ และทั้งสุขภัณฑ์ต่างๆ หลังจากนั้น เพื่อนของพระองค์ที่ทานเห็ดขี้ควายก็มีอาการประสาทหลอน เห็นเสื้อแจ๊กเก็ตเป็นมังกร
หนังสือ SPARE ออกวางแผงเมื่อ 10 ม.ค. 2023 และแล้วความวุ่นๆ ของเห็ดขี้ควายที่เจ้าชายแฮร์รีไปทดลองเสวยที่บ้านคอร์ตนีย์ได้กลายเป็นหนึ่งในบรรดาเรื่องกระฉ่อนทั้งปวง
ในการนี้คอร์ตนีย์เลือกที่จะเก็บตัว ไม่ออกมาตอบโต้หรืออธิบายใดๆ และต่อมาในวันที่ 31 ม.ค. เจ้าชายและพระชายาเสด็จเข้าร่วมปาร์ตีสุดหรูที่บ้านเอลเลนกับปอร์เชียสุดเลิฟ พร้อมกันนี้ ในบรรดาเพื่อนรักและเพื่อนบ้านของเจ้าภาพรวมประมาณ 20 ราย มีคอร์ตนีย์กับเจนนิเฟอร์ อนิสตัน ได้รับเชิญด้วย
เท่านั้นเอง ข่าวก็สะพัดอีกรอบว่า คอร์ตนีย์ ไม่ทักทายไม่สนทนากับปรินซ์และพระชายา
โดยสามัญสำนึกแล้ว คอร์ตนีย์ ตลอดจนวิลล์ (ซึ่งสนิทกันมากในช่วงหนึ่ง แต่มิได้ลงเอยเป็นแฟนกัน) ก็สมควรจะเคืองว่าทำไมปรินซ์จะต้องเล่าแบบเอ่ยนาม ในเมื่อมันไม่ใช่เรื่องดีงามต่อภาพลักษณ์ของนักแสดงยอดนิยมที่วางตัวได้โอเคมาโดยตลอด
จนกระทั่งปลายก.พ. 2023 ซึ่งคอร์ตนีย์ได้รับรางวัลเกียรติยศครั้งสำคัญ คือ ได้เป็นดาวดวงหนึ่งใน Walk of Fame แห่งฮอลลีวูด เธอให้สัมภาษณ์แก่นิตยสารวาไรตีว่าสาวน้อยจากแอละแบมาอย่างเธอนั้น มาโด่งดังในอุตสาหกรรมบันเทิงยังไง แล้ววาไรตีนำคำบอกเล่าส่วนที่เกี่ยวกับเจ้าชายสายปาร์ตีกับเห็ดวิเศษไปไว้ตอนท้ายสุดของบทสัมภาษณ์ด้วย
คอร์ตนีย์เล่าอย่างผู้ใหญ่เปี่ยมวุฒิภาวะ โดยระมัดระวังไม่ให้มีมุมที่เรื่องจะถูกนำไปขยี้ต่อ ตลอดจนมิให้เจ้าชายแฮร์รีเสียหาย พร้อมกับขยับกรอบเวลาให้กลายเป็นว่า เรื่องเกิดขึ้นเมื่อสองสามปีที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะช่วยเคลียร์ให้ วิลล์ อาร์เนตต์ พ้นจากการพัวพันกับเห็ดวิเศษอันแสนอันตรายซึ่งใครสักคนนำไปวางในตู้เย็นบ้านเธอ
เธอเริ่มต้นด้วยการยอมรับว่าเจ้าชายแฮร์รีกับพระสหายไปปาร์ตีที่บ้านเธอจริง เธอได้พบปะกับพระองค์จริงตามที่พระองค์เล่าไว้ แล้วเล่าว่าในช่วงนั้นเธอไม่อยู่บ้าน แต่อนุญาตให้เพื่อนสาวรุ่นน้องมาพักค้างได้ และเนื่องจากสาวเจ้าเป็นแฟนของเพื่อนปรินซ์ คณะฮาเฮก๊วนซูเปอร์ไฮโซจึงได้ไปปาร์ตีสนุกสนานที่บ้านเธอ
“พระองค์อยู่ที่บ้านสองวัน ทรงน่ารักจริงๆ ค่ะ” คอร์ตนีย์เล่าสู่วาไรตีพลางหัวเราะสุภาพ
“ดิฉันยังไม่ได้อ่านหนังสือของพระองค์นะคะ แต่ก็อยากฟังเรื่องราวของหนังสือ เพราะได้ยินว่าบันเทิงมาก แต่ก็ใช่ค่ะ หนังสือเล่มนี้ย้อนกลับเข้าใส่ดิฉัน ดิฉันไม่บอกนะคะว่ามีเห็ดนั่นอยู่ในบ้าน และที่แน่ๆ ดิฉันไม่ได้เอามาแจกค่ะ” คอร์ตนีย์ ค็อกซ์ กล่าวเคลียร์ตนเองออกจากยาเสพติดประเภท 5 นั้นไว้อย่างชัดเจน
ส่วนสำหรับข่าวเมาท์กระฉ่อนว่าเธอยุติความเป็นพระสหายแล้ว และเมื่อเจอปรินซ์แฮร์รีในงานปาร์ตีบ้านเอลเลน ก็เมินไม่เข้าไปคุยด้วย โดยมีพยานรู้เห็นราวยี่สิบคน คอร์ตนีย์อธิบายแบบตัดจบทุกกอซซิปอย่างผู้ใหญ่ โดยยอมรับง่ายๆ พร้อมอธิบายด้วยข้ออ้างพื้นๆ ว่า “เห็นพระองค์สนทนากับคนอื่น ก็ไม่อยากเข้าไปขัดจังหวะน่ะค่ะ”
ในหลายๆ สาเหตุที่นำพาให้เซเลบริตีมากมายตัดสินใจยุติความเป็นพระสหายของเจ้าชายแฮร์รีกับดัชเชสเมแกน ยังมีหนึ่งสาเหตุที่นักวิเคราะห์มีความเห็นตรงกันว่าเป็นปัจจัยที่เสริมที่ไม่ควรมองข้าม
โดย พอลลา เฟรอลิก กล่าวกับดิเอ็กซ์เพรซว่า เซเลบริตีรายใหญ่ๆ ในอุตสาหกรรมบันเทิงของฮอลลีวูด ไม่ต้องการเลือกอยู่ข้างเจ้าชายแฮร์รีกับดัชเชสเมแกนเพราะมีความเสี่ยงที่จะสร้างความเสียหายแก่ธุรกิจของพวกเขา ดังนั้น ส่วนใหญ่จึง “จงใจจะตีตัวออกห่าง” เพื่อเลือกอยู่ข้างเดียวกับพระราชสำนักอังกฤษ เพราะตลาดอังกฤษเป็นตลาดใหญ่ เมื่อโปรดักชันใดที่เงินถุงเงินถัง ต้องการโปรโมทภาพยนตร์และเพลง ก็มักที่จะเชิญเสด็จพระราชวงศ์ชั้นผู้ใหญ่เข้าร่วมในพิธีเปิดตัวกันอย่างอลังการ
ตอกย้ำกระแสถูกตีจาก: ภรรยาซุปตาร์‘เอลเลน’ เป็นเซเลบเดียวที่ร่วมฉลองเบิร์ธเดย์& พระชายาเมแกนเริ่มโฆษณาแอบแฝง?
การวิเคราะห์ข้างต้นของพอลลา เฟรอลิก มีความน่าเชื่อถือทีเดียวเมื่อไล่เรียงตัวเซเลบริตีที่มาฉลองวันเกิด 42 กะรัตของดัชเชสเมแกน ซึ่งตกอยู่ในสัปดาห์แรกของเดือนนี้ (ส.ค. 2023)
กิจกรรมวันเกิดของพระชายาเมแกนมี 4 รายการ โดยได้เซเลบริตีเพียงรายเดียวมาเข้าร่วม เริ่มจากการฉลองอุ่นเครื่องในวันจันทร์ที่ 31 ก.ค. พระชายาออกไปดูหนังเรื่อง บาร์บี กับ “ปอร์เชีย เดรอสซี” นักธุรกิจอเมริกัน-ออสซี ภรรยาของเอลเลน ดีเจนเนอริส และมีเพื่อนสาวอีกสองสามคน แต่ไม่มีซุปตาร์เอลเลนไปด้วย ดูหนังเสร็จก็ไปดินเนอร์แบบก๊วนสาวสวยที่ ซาน ยิซีโดร ภัตตาคารสุดหรูท่ามกลางทิวเขางามของมอนเตซิโต ก่อนจะเลิกราไปเงียบๆ ปราศจากภาพหรือคลิปบนโซเชียลมีเดียใดๆ
ก่อนเบิร์ธเดย์หนึ่งวัน ดยุกแห่งซัสเซกซ์พาพระชายาไปดินเนอร์หรูที่ภัตตาคารอิตาเลียน เตรลูเน โดยเชิญเพื่อนสนิทคบกันเนิ่นนานของดัชเชส นามว่า เฮดเธอร์ ดอร์เรก กับสามีร่วมฉลองด้วยกัน ทั้งสองเป็นเจ้าของธุรกิจฐานะดี แต่ยังไม่ถึงระดับเซเลบริตี โดย ดอร์เรก เป็นเจ้าของสตูดิโอออกกำลังกายและโยคะ 6 แห่ง ส่วนสามีเป็นเจ้าของแอปออมทรัพย์ Grand
พอถึงวันเกิด ทั้งสองพระองค์ไม่ออกจากบ้าน ไม่โพสต์สิ่งใดขึ้นโซเชียลมีเดีย
วันที่ 8 ส.ค. หลายนิตยสารชั้นนำรายงานว่ามีคนเห็นดัชเชสเมแกนกับเพื่อนสาวสามนางไปร่วมคอนเสิร์ตของเทย์เลอร์ สวิฟต์ที่โซไฟสแตเดียม แอลเอ โดยมีเพื่อนสาวรุ่นเก่าแก่ชาวอังกฤษที่ทำงานให้ดัชเชสในด้านประชาสัมพันธ์และดีลกับสื่อมวลชน แต่ไม่มีสหายเซเลบริตีอยู่ในกลุ่มนี้ และไม่ปรากฎการนำภาพถ่ายขึ้นอวดบนโซเชียลมีเดีย นอกจากนั้นไม่มีผู้ใดยืนยันได้ว่าเธอนั่งอยู่ตรงไหน แต่ที่แน่ๆ ไม่ได้อยู่ในชั้นวีวีไอพีของชาวเซเลบ
ปิดท้ายเป็นนัดทานอาหารฉลองวันเกิดย้อนหลังกันกับเพื่อนสาวสองคนเมื่อ 15 ส.ค. โดยคนหนึ่งเป็นนักประพันธ์ อีกคนหนึ่งเป็นช่างทำสีผมเจ้าของร้านซาลอนความงามและบำบัความเครียด ชื่อคาดี ลี เธอก่อตั้งเว็บไซต์และ blog สนับสนุนธุรกิจดังกล่าวในชื่อว่า ไฮบราวฮิปปี ทั้งนี้ ปาร์ตีวงจิ๋วนี้มีภาพถ่ายที่ระลึก ซึ่งถูกนำขึ้นอินสตาแกรมโดยคาดี ลี
อันที่จริง ชีวิตของดัชเชสเมแกนแสนเหงาไร้เงาสหายเซเลบริตี ดำเนินมาได้สองสามเดือนเป็นอย่างน้อยแล้ว โดยนับเนื่องได้ตั้งแต่ที่พระสวามีแฮร์รีทรงเข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระบิดาคิงชาร์ลส์ที่สามในเดือนพ.ค. 2023 ซึ่งปรากฏว่าสถานะและบทบาทที่ทรงได้รับคือ “พระราชวงศ์ชั้นนอก” อาทิ จุดที่ประทับนั่ง และการไม่ได้เข้าพระราชอีเวนต์สำคัญ ดังนั้น จึงเป็นที่ประจักษ์ของชาวเซเลบทั้งปวงว่า ทรงตกพระกระป๋องแล้ว
นอกจากนั้น ยังมีกรณีอัปยศปาปารัซซีขับรถตามถ่ายพระรูป ก็ส่งผลในทางลบหนักมาก ต่อภาพลักษณ์ของทั้งสองพระองค์
สองเหตุการณ์ตกอับดังกล่าวถูกถล่มทับด้วยข่าวร้ายด้านธุรกิจและรายได้ เมื่อพอดแคสต์อาร์เคอไทปส์ของดัชเชสเมแกนถูกสปอติฟายบอกเลิกในเดือนมิ.ย. 2023 ไม่มีการต่อสัญญาไปสู่ซีซันที่สอง
ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้สามารถเป็นเหตุจูงใจให้เกิดกระแสแรงๆ ที่สังคมคนรวยคนมีชื่อเสียงคนเซเลบริตี พิจารณาแล้วตัดสินใจว่าการตีตัวออกห่างคือนโยบายความสัมพันธ์ที่ปลอดภัย
ในการนี้ เดลิเมลออนไลน์ให้หลายกรณีตัวอย่างของ‘เมแกนแสนเหงา’ โดยบอกว่า ดัชเชสเมแกนปรากฏตัวไปที่ต่างๆ ตามลำพังบ่อยเหลือเกินในช่วงเดือนมิ.ย.หลังข่าวร้ายจากสปอติฟาย เช่น เดินหน้าเครียดพลางคุยโทรศัพท์มือถือไปตามถนนในมอนเตซิโต (โดยมี รปภ. เดินตามห่างๆ)
หลังนั้นมีคนเห็นเตร็ดเตร่แบบโซโล่ จูงเจ้ากาย หมาน้อยน่ารัก ไปเดินตลาดนัดสินค้าจากฟาร์มซึ่งจัดกันกลางแจ้งในมอนเตซิโตโดยแทบจะไม่มีใครจำดัชเชสเมแกนผู้แสนโด่งดังได้ ยกเว้นกลุ่มชาวบ้านสามสี่คนที่ทักทายและเธอก็ยิ้มเปี่ยมไมตรีตอบไป ส่วน รปภ. ตามดูแลห่างๆ เช่นเคย
ต่อมาในเดือนส.ค. ช่วงที่พระสวามีเดินทางไปงานระดมเงินบริจาคเพื่อองค์การกุศลเซนทีเบลที่โตเกียวและสิงคโปร์เดลิเมลออนไลน์รายงานว่าดัชเชสเดินเคร่งเครียดตามลำพังเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 ส.ค. หลังไปทำธุระที่บ้านหลังหนึ่ง
ทั้งนี้ เดลิเมลออนไลน์ระบุจากภาพถ่ายตอนเดินกลับออกมาจากบ้านดังกล่าวว่า บนข้อมือซ้ายบริเวณชีพจรของด้ชเชสคนดังมีแผ่นแปะลดความเครียด ยี่ห้อNuCalm ซึ่งมีสรรพคุณในการส่งคลื่นกระเพื่อมจากชีพจร ไปตามเส้นเลือดสู่หัวใจและระบบประสาทของสมอง เพื่อให้ปล่อยสารสื่อประสาทที่เรียกว่า GABA A และ GABA B เข้าไปสร้างดุลยภาพในระบบประสาทอัตโนมัติ ด้วยการยับยั้งฮอร์โมนภายในระบบประสาทส่วนกลางที่เป็นต้นเหตุของความดันโลหิตสูง ความทุกข์ใจ และการนอนไม่หลับ ดังนั้น สมองจึงผ่อนคลาย สงบสบาย และนอนหลับพักผ่อนได้อย่างดี
ในภาพลอบถ่ายดังกล่าว ดัชเชสมีสีหน้าหมองคล้ำคร่ำเครียด และมีจังหวะหนึ่งที่ภาพจับให้เห็นว่าเธอพลิกข้อมือเสยผม จึงเห็นแผ่นแปะลดความเครียดได้อย่างถนัดชัดเจน ในความหมองคล้ำนี้ นักวิเคราะห์แฟชั่นพากันทักถามถึงความผิดปกติของดัชเชสว่า อากาศอุ่นขึ้นมาแล้ว พ้นช่วงหนาวเหน็บแล้ว ทำไมเธอยังสวมเสื้อโค้ดตัวหนา พร้อมผูกผ้าพันคอปิดร่างกายตั้งแต่ใต้คางจดจนชายโครง!?!
ในการนี้ มีเกร็ดเรื่องราวประหลาดเล็กน้อย เมื่อบริษัทSolace Lifesciences ผู้ผลิตแผ่นน NuCalm นำภาพถ่ายของดัชเชสที่แปะผลิตภัณฑ์ชิ้นละ 4 ดอลลาร์นี้ ไปโฆษณาขายของ พร้อมเชื้อเชิญให้ประชาชนทดลองใช้ฟรีนั้น ดัชเชสผู้ประกาศหวงแหนความเป็นส่วนตัวไว้อย่างมากมาย มิได้มีปฏิกิริยาโต้ตอบใดๆ ไม่ต่อว่า ไม่เรียกร้องให้ยุติ ไม่ขู่จะฟ้องร้องดำเนินคดี ซึ่งนับเป็นอะไรที่ผิดปกติอย่างยิ่ง
เดลิเมลออนไลน์นำความเห็นของนิก เอเด ผู้เชี่ยวชาญด้านแบรนด์และวัฒนธรรม ขึ้นเสนอในข่าวบอกว่าดัชเชสตั้งใจให้เกิดภาพถ่ายนี้
“นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกครับที่ดัชเชสเมแกนขยับข้อมือให้กล้องจับภาพของ NuCalm บนข้อมือเธอได้ถนัดถนี่” นิก เอเด กล่าว
สถานการณ์ความเครียดของดัชเชสเมแกนอดีตนักแสดงคนดังแห่งซีรีส์ Suits หายไปอย่างหมดจดภายใน 5 ราตรี โดยเมื่อ 15 ส.ค.ที่เธอไปฉลองวันเกิดย้อนหลังกับเพื่อนนักเขียนและเพื่อนสาว คาดี ลี ช่างทำสีผมเจ้าของซาลอนความงามที่ให้บริการคลายความเครียดนั้น ภาพที่ระลึกของสามหญิงบนอินสตาแกรมเผยให้เห็นรอยยิ้มแจ่มใสของดัชเชส ซึ่งไม่มีการยืนยันว่าเป็นผลงานของNuCalm หรือของ คาดี ลี หรือเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจอินฟลูเอนเซอร์
จับตาอนาคตดัชเชสจะคืนสู่วงการฮอลลีวูด? พระสวามีจะทรงยอมหรือ? แต่ปล่อยข่าวแล้วว่าจะย้ายถิ่นฐานออกจากมอนเตซิโต
หากข่าวลือสะพัดว่าดัชเชสเมแกนใกล้จะเตียงหักจากพระสวามีแฮร์รี ซึ่งกระหึ่มอย่างยิ่งในช่วงมิ.ย. จดจนต้น ส.ค. มีความเป็นจริงอยู่บ้าง สาเหตุหนึ่งก็คือความขัดแย้งในเรื่องอนาคตแห่งชีวิตการงานของดัชเชสนั่นเอง
ในเมื่อแนวโน้มทางการเงินของทั้งสองพระองค์ถูกกระทบจากรายได้ที่จะหายไปในหมวดธุรกิจกับสปอติฟาย ดัชเชสย่อมจะรู้สึกถึงความจำเป็นในการสร้างช่องทางอาชีพที่เธอถนัด คือ การงานด้านภาพยนตร์และโทรทัศน์ ตลอดจนธุรกิจอินฟลูเอนเซอร์เชียร์สินค้าแบรนด์หรู
สิ่งที่ดัชเชสเมแกนมีในมือคือ หนังสือสัญญาที่เธอลงนามกับเจ้าพ่อแห่งธุรกิจนายหน้าหางานด้านธุรกิจบันเทิงและโฆษณา นามว่า วิลเลียม มอร์ริส เอนดีเวอร์
แต่ปัญหาคือพระสวามีแฮร์รี ผู้ทรงหึงหวงพระชายาอย่างยิ่งยวด น่าจะไม่ให้ไฟเขียวอย่างเด็ดขาด ดังเห็นได้ว่า แม้กระทั่งการแสดงฉากเลิฟซีนของเมแกน มาร์เคิล ในห้วงที่ทั้งสองยังไม่รู้จักกัน ก็เป็นอะไรที่บาดพระทัยปรินซ์อย่างสาหัส โดยทรงเล่าในหนังสือ SPARE ว่าทรงต้องเข้าคอร์สบำบัดความเดือดดาลหึงหวงด้วยวิธีช็อตไฟฟ้า กว่าจะสามารถลบคลิปภาพยนตร์ที่กรีดดวงพระทัยพระองค์ออกไปจากสมองได้
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าปมขัดแย้งนี้น่าจะเป็นสิ่งหนึ่งแห่งต้นเหตุข่าวลือดยุกและดัชเชสอาจถึงเวลาเตียงหัก โดยจะทดลองแยกห่างกันเพื่อทบทวนกล่องดวงใจ
หนึ่งสัปดาห์หรือกว่านั้นที่เจ้าชายแฮร์รีปลีกตัวออกจากพระตำหนักมอนเตซิโต ไปปฏิบัติภารกิจระดมเงินบริจาคเพื่อองค์กรการกุศลเซนทีเบลในโตเกียวและสิงคโปร์ เห็นได้ว่าเจ้าชายทรงมีความสุขล้นเหลือ และช่วงหลังจากทริปดังกล่าว ท่านผู้ชมยังไม่ได้เห็นทั้งสองพระองค์ออกมาสวีทโชว์ให้ชาวโลกชื่นใจ อีกทั้งยังไม่มีข่าวปล่อยออกมาถึงการดำเนินงานในอนาคต
ในการนี้ ยูเอสแมกกาซีนนำเสนอไว้ในสกูปเด่นประจำฉบับว่า ทั้งสองพระองค์อยู่ระหว่างการวางแผนงานสำหรับชีวิตการงานในช็อตต่อไป โดยสิ่งที่ถูกปล่อยข่าวออกมาแล้ว ได้แก่ การซื้อลิขสิทธิ์นวนิยาย Meet Me At The Lake เพื่อที่ทั้งสองพระองค์จะนำแสดงและมอบให้ เน็ตฟลิกซ์ นำไปฉาย แต่นั่นก็ยังมีโอกาสจะพลิกจะพลิ้วขึ้นมา
สำหรับส่วนที่แน่นอนแล้วคือ หมายกำหนดการของปรินซ์จะต้องเสด็จไปทรงงานในทวีปแอฟริกาเพื่อสร้างเนื้อหาซีรีส์สารคดี Heart of Invictus ป้อนแก่ เน็ตฟลิกซ์ แล้วอย่างนี้พระชายาเมแกนจะดำเนินตนเองอย่างไรกันแน่ หลังได้ทดลองแยกกันใช้ชีวิตมาห้วงหนึ่งแล้ว เรื่องอย่างนี้ต้องรอติดตามข่าวกันต่อไป โดยปรินซ์น่าจะไม่โอเคที่จะจ่ายค่าเช่าเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวให้พระชายาใช้เดินทาง
พร้อมนี้ยังมีอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องจับตา คือ แหวนหมั้นเพชรลูกเขื่อง สามเม็ดงามราคา 120,000 ปอนด์ หรือราว 5.4 ล้านบาท บนนิ้วนางของดัชเชสเมแกน ได้หายหน้าไปสองสามเดือนแล้ว นัยของความเคลื่อนไหวนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่เชียว
เหนืออื่นใด ยังมีอีกปัจจัยหนึ่งที่แหล่งข่าวของยูเอสแมกกาซีน ซึ่งเป็นคนวงในเหลือเกินของพระเอกแฮร์รี กับนางเอกเมแกน ได้เปิดเผยไว้ คือ “ทั้งสองพระองค์ตรึกตรองอยู่ในเรื่องการย้ายถิ่นฐานอีกรอบหนึ่ง หนนี้อาจจะไปอยู่มาลิบู”ซึ่งถ้าเป็นจริงก็เท่ากับจะทิ้งถิ่นเซเลบริตีแห่งมอนเตซิโต ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของลอสแอนเจลิสราว 60 ไมล์
โดยปรินซ์อาจจะขายพระตำหนัก 14 ล้านดอลลาร์เพื่อทำกำไรและเพื่อช่วยสภาพคล่อง แล้วไปมีความสุขสบายที่สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายและพ้นออกจากเรื่องยุ่งๆ ของชุมชนเซเลบลงมาอักโขก็เป็นได้ ทั้งนี้เจ้าชายราศีกันย์เยี่ยงปรินซ์แฮร์รีซึ่งให้ความสำคัญแก่เสถียรภาพทางการเงิน จะทรงระมัดระวังรักษาทรัพย์สินดั้งเดิมอันมากมายของพระองค์มิให้ร่อยหรอ และจะเน้นใช้จ่ายจากรายได้ใหม่เท่านั้น
พร้อมนี้ แหล่งข่าวอีกรายหนึ่งบอกยูเอสแมกกาซีนว่า “ทั้งสองพระองค์ดูๆ เลือกๆ บ้านใหม่ ณ มาลิบู กันอยู่จ้ะ”
ประเด็นสุดท้ายแต่เปี่ยมความหมายมากที่สุดคือ ความขัดแย้งระหว่างดยุกกับดัชเชส ต่อแนวคิดการใช้ชีวิตในอนาคต จะจบด้วยดีหรือไม่
การจะจบลงด้วยดี มีวิธีเดียวคือ วิธีที่ดยุกจะทรงสบายพระทัยหากพระชายายุติความปรารถนาที่จะหวนคืนวงการฮอลลีวู้ด ตลอดหลายปีมานี้ เจ้าชายแฮร์รีทรงพัฒนาวุฒิภาวะขึ้นมาอย่างเข้มแข็ง และทรงตระหนักดีว่าพระชายาจะไม่สามารถหวนกลับไปดำเนินชีวิตต่ำกว่ามาตรฐานมหาเศรษฐีนีได้ดังนั้น เธอย่อมจะยอมสละฮอลลีวูด เพื่อรักษาเสาหลักชีวิตนามปรินซ์แฮร์รีไว้ให้เหนียวแน่น
ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายของพระเอกราชนิกูลกับนางเอกสามัญชนคู่นี้ ยังมีอีกหลายอีพีและหลายซีซันให้ติดตามกันยาวๆ
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา: เดลิเมลออนไลน์ เดอะซัน ดิเอ็กซ์เพรซ รอยัล รีลส์ รอยัล คอนฟิเดนเชียล เดอะมิร์เรอร์ พีเพิล โอเคแมกกาซีน เฮลโหลแมกกาซีน ยูเอสแมกกาซีน)