เอเจนซีส์ - ทหารสหรัฐฯ 2 นายโดนจับกุมหลังชายเยอรมันวัย 28 ปีถูกแทงเสียชีวิตในคืนวันเสาร์(19 ส.ค)ในงานคาร์นิวัล Säubrenner fair ชื่อดังประจำเมืองวิตต์ลิค (Wittlich) หลังพบมีการทะเลาะวิวาทจนมีคนตายในที่สุด
NBC News สื่อสหรัฐฯรายงานวานนี้(21 ส.ค)ว่า ตำรวจเยอมันเมือง Trier กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า ผู้ต้องสงสัย 2 คนที่ถูกจับกุมจากเหตุพลเมืองเยอรมันวัย 28 ปีเสียชีวิตในคืนวันเสาร์(19)ที่งานคาร์นิวัล Säubrenner fair ชื่อดังประจำเมืองวิตต์ลิค( Wittlich) ทางตะวันตกของเยอรมัน ถูกระบุตัวว่าเป็นทหารสหรัฐฯวัย 25 ปีและ 26 ปีตามลำดับ
ซึ่งคนทั้งคู่เดินทางไปเยือนสวนที่เกิดเหตุพร้อมกับเพื่อน
ตำรวจเยอรมันแถลงว่า ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่มองกลุ่ม 4 คนนี้ว่าเป็นพยานเห็นเหตุการณ์แต่ทว่าหลังจากนั้นได้พุ่งความสนใจไปที่ผู้ต้องสงสัย 2 คนที่เป็นทหารสหรัฐฯซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยยศและตำแหน่งของคนทั้งสอง
NBC News รายงานว่า ตำรวจเยอรมันยังไม่เปิดเผยรายละเอียดถึงผู้ตายเช่นกัน โดยในวันจันทร์(21) เปิดเผยเพียงว่า ผู้ตายเป็นพลเมืองเมืองเบียร์วัย 28 ปี
ทหารอเมริกัน 2 นายที่ก่อเหตุประจำฐานทัพอากาศสปังดาห์เลม (Spangdahlem) ในเยอรมัน ซึ่งตั้งใกล้กับเมืองที่เกิดเหตุ ซึ่งหลังจากทั้งคู่โดนตำรวจเยอรมันจับกุมแล้วทั้ง 2 ถูกส่งมอบต่อให้กับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯเพื่อทำการสอบสวนซึ่งสอดคล้องกับกระบวนการสถานะกองกำลังนาโต
กองทัพอากาศสหรัฐฯที่ทหารทั้ง 2 นายสังกัดยืนยันการสอบปากคำพร้อมกับเปิดเผยว่า หลังจากโดนสอบแล้วทหารอเมริกันที่กระทำผิดวัย 25 ปีและวัย 26 ปีถูกส่งเข้าเรือนจำสหรัฐฯ
ผู้บัญชาการกองบินรบที่ 52 พันเอก เควิน ครอฟตัน (Kevin Crofton) กล่าวแถลงว่า “นี่ไม่เป็นสิ่งที่ทนได้และเป็นโศกนาฎกรรที่สามารถป้องกันได้ในชุมชนที่สงบสุขของพวกเรา”
และเสริมต่อว่า “พวกเราขอขอบคุณตำรวจท้องถิ่นเยอรมันและผู้นำเมืองวิตต์ลิค สำหรับความเป็นพันธมิตรของพวกเขาและความอดทนระหว่างการสอบสวนกำลังดำเนินการ”
ตามการแถลงการณ์ระบุว่า ทหารสหรัฐฯทั้งสองจะยังคงอยู่ในเรือนจำสหรัฐฯระหว่างการสอบสวน
ด้านนายกเทศมนตรี โจอาคิม โรเดนเคิร์ช (Joachim Rodenkirch) แสดงความรู้สึกผ่านแถลงการณ์จากเมืองวิตต์ลิค วันเสาร์(19)ว่า เขารู้สึกตกใจและเศร้าใจที่ชายหนุ่มคนหนึ่งต้องเสียชีวิตลงไปอย่างโหดร้ายในงาน Säubrenner fair ที่คนจำนวนมากเฉลิมฉลองอย่างสันติ
ทั้งนี้พ่อเมืองยังกล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นได้เปลี่ยนเมืองแห่งนี้ไปในชั่วข้ามคืนในงานคาร์ดินัลซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของเมือง