เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - ประชาชนแคนาดาจำนวนมากอพยพออกจากบ้านเรือนวันศุกร์ (18 ส.ค.) ระหว่างที่แคนาดาทั้งประเทศเกิดไฟป่าราว 1,000 ลูก และมีกว่า 200 ลูกกำลังลุกไหม้อยู่ในดินแดนนอร์ทเวสเตอร์ริทอรีส์ตะวันตกเฉียงเหนือ หมอกควันพิษไฟป่าคละคลุ้งปกคลุมท้องฟ้าลอยข้ามไปถึงสหรัฐฯ จังหวัดบริติชโคลัมเบียประกาศฉุกเฉิน
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (19 ส.ค.) ว่า เยลโล่ไนฟ์ (Yellowknife) ซึ่งเป็นเมืองเอกของนอร์ทเวสเตอร์ริทอรีส์ (Northwest Territories) ที่มีประชากรอาศัยราว 20,000 คน และตามชุมชนอื่นๆ ของดินแดนถูกสั่งอพยพออกไป ขณะที่เจ้าหน้าที่ไฟป่ากำลังพยายามหาทางดับไฟป่า 236 ลูก ระหว่างที่ไฟป่ามุ่งหน้าสู่เมือง และไฮเวย์เส้นสำคัญของประเทศ
แคนาดาซึ่งเวลานี้เกิดไฟป่าทั่วประเทศจำนวนกว่า 1,000 ลูก ในปีที่รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด ต้องเจอวิกฤตไฟป่าปีที่ร้ายแรงมากที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา
ประชาชนที่เยลโล่ไนฟ์ จำนวน 19,000 คนถูกสั่งอพยพออกไปในค่ำวันศุกร์ (18)
นายกเทศมนตรีเมืองเยลโล่ไนฟ์ รีเบคกา อัลตี (Rebecca Alty) กล่าวผ่านงานแถลงข่าวว่า “การอพยพประสบความสำเร็จครั้งใหญ่” และเสริมต่อว่า “พวกเราตามความจริงสามารถอพยพออกไปได้ทั้งเมือง”
ทั้งนี้ พบว่าไฟป่าลูกที่อยู่ห่างจากเมืองไปราว 15 กม. และยังไม่มีความก้าวหน้าเกิดขึ้นนักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลไฟป่านอร์ทเวสเตอร์ริทอรีส์แสดงความกังวลใจในสถานการณ์ที่มันอาจจะมุ่งหน้าเข้าเมือง
“ไฟป่าอาจกำลังจะใกล้เข้ามาในเวลานี้จากไม่กี่วันที่ผ่านมาพวกเรายังไม่ประสบความสำเร็จในการดับไฟป่า และได้รับความช่วยเหลือน้อยมากจากสภาพอากาศ” เขากล่าว
เจ้าหน้าที่ไฟป่าชี้ว่า ถึงแม้จะมีวันดีเกิดขึ้นเพียงแค่ 2 วัน แต่มันยังห่างไกลจากความสำเร็จ พวกเรายังไม่ออกจากป่า
ซึ่งในคืนวันศุกร์ (18) ทรูโดแถลงว่า ทางรัฐบาลของเขาได้ส่งทรัพยากรทางทหารเป็นจำนวนมากเพื่อช่วยดับไฟป่า และการอพยพทางอากาศในนอร์ทเวสเตอร์ริทอรีส์
โฆษกคณะรัฐมนตรีรัฐบาลนอร์ทเวสเตอร์ริทอรีส์ระบุว่า ปัจจุบันมีประชากรราว 29,500 หรือ 65% ถูกสั่งอพยพออกไปแล้ว หลังการอพยพทางอากาศเกิดขึ้นก่อนหน้าจากเยลโล่ไนฟ์ในการอพยพทางอากาศฉุกเฉินจำนวน 1,000 คน ในวันพฤหัสบดี (17) และมีที่นั่งเหลืออีกเกือบ 2,000 ที่นั่งวันศุกร์ (19)
CBS ของแคนาดารายงานว่า ผู้คนที่ต้องการอพยพออกไปวันพฤหัสบดี (17) ยืนรอแถวที่ยาวเคลื่อนตัวช้าท่ามกลางสภาพลมพัดแรง
รอยเตอร์รายงานขณะที่จังหวัดบริติชโคลัมเบียซึ่งที่ผ่านมาประสบกับลมแรงและปรากฏการณ์ฟ้าผ่าโดยที่ไม่มีฝนตกในช่วงตลอด 36 ชั่วโมงที่ผ่านมาได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
ซึ่งขณะที่สถานการณ์ไฟป่ากำลังเลวร้ายลงในวันศุกร์ (18) นายกรัฐมนตรีประจำจังหวัดบริติชโคลัมเบีย แดเนียล อีบีย์ (Daniel Eby) สั่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินครอบคลุมทั้งจังหวัดเพื่อเขามีอำนาจฉุกเฉินเพื่อที่จะรับมือวิกฤตไฟป่าได้ทันท่วงที
“นี่ถือเป็นฤดูไฟป่าที่ร้ายแรงที่สุดของจังหวัด” อีบีย์แถลง
เขากล่าวต่อว่า “การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน..เป็นการสื่อสารไปยังประชาชนทั่วทั้งจังหวัดในความร้ายแรงของสถานการณ์ที่กำลังเลวร้ายลง” อีบีย์กล่าว
และเสริมต่อว่า “มันจะช่วยสนับสนุนเครื่องมือทางกฎหมายให้พวกเราในการออกคำสั่งและเพื่อทำให้มั่นใจว่ามีทรัพยากร”
ไฟป่าได้ทำลายสิ่งปลูกสร้างไม่กี่แห่งในเวสต์ เคโลว์นา (West Kelowna) ขณะที่ถนนไฮเวย์เส้นสำคัญ ทรานส์แคนาดา (The TransCanada) ที่มีชื่อเสียงได้ถูกปิดลงช่วงใกล้กับเชส (Chase) ราว 400 กม. ห่างจากเมืองแวนคูเวอร์ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และระหว่างโฮป (Hope) ห่างออกไปราว 150 กม. ทางตะวันออกของเมืองแวนคูเวอร์และหมู่บ้านลิตตัน (Lytton) แต่บรรดานักขับสามารถใช้ทางอ้อมได้
ทั้งนี้ มีประชาชนราว 5,000 คนในพื้นที่ชั้นในจังหวัดบริติชโคลัมเบียอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้เนื่องมาจากปัญหาไฟป่า
ซึ่งไฟป่าแคนาดาได้ทำให้ทรัพยกรของท้องถิ่นหมดไปจนต้องขอการสนับสนุนจากรัฐบาลกลางแคนาดา และการสนับสนุนจากนอกอีก 13 ประเทศ และมีนักดับเพลิง 4 คนเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ รอยเตอร์รายงาน