เอเจนซีส์/เอพี/MGRออนไลน์ - เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำออสเตรเลีย แคโรไลน์ เคนเนดี (Caroline Kennedy) ส่งสัญญาณเป็นนัยแสดงถึงดีลความเป็นไปได้ที่ผู้ก่อตั้งวิกิลีกส์ จูเลียน แอสซานจ์ ในเรือนจำอังกฤษจะเดินทางกลับไปที่ออสเตรเลียบ้านเกิด ต้อนรับนายกรัฐมนตรีแดนดาวน์อันเดอร์ แอนโธนี อัลบานีส มีกำหนดเยือนทำเนียบขาวเป็นทางการปลายเดือนตุลาคมนี้เพื่อกระชับความสัมพันธ์
เดลีเมล สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (14 ส.ค.) ว่า ผู้ก่อตั้งวิกิลีกส์สื่อเสรี จูเลียน แอสซานจ์ (Julian Assange) ต้องหลบซ่อนอยู่ในสถานทูตเอกวาดอร์ในปี 2012 ก่อนที่จะถูกตำรวจอังกฤษบุกจับกุมในปี 2019 และถูกส่งเข้าเรือนจำเบลมาร์ช (HM Prison Belmarsh) ในกรุงลอนดอนมาตั้งแต่นั้นระหว่างต่อสู้ทางกฎหมายหลีกเลี่ยงการถูกส่งตัวไปดำเนินคดีในสหรัฐฯ ความผิดจารกรรมลับเปิดเผยความลับกองทัพสหรัฐฯ และการสื่อสารลับทางการทูตสหรัฐฯ ตลอดทั้งปี 2010 ภายใต้ความช่วยเหลือจากอดีตทหารสหรัฐฯ เชลซี แมนนิง (Chelsea Manning)
คดีแอสซานจ์กลายเป็นอุปสรรคระหว่างความสัมพันธ์ทางการทูตสหรัฐฯ-ออสเตรเลีย และภายในออสเตรเลียเองยังมีแรงกดดันนายกรัฐมนตรี แอนโธนี อัลบานีส ให้เดินหน้าผลักดันเรียกร้องให้วอชิงตันยกเลิกการติดตามตัวแอสซานจ์กลับไปดำเนินคดีตามข้อหา
หนังสือพิมพ์ซิดนีย์มอร์นิงเฮอรัลด์รายงานวันจันทร์ (14) ว่า กลุ่มอดีตอัยการสูงสุดออสเตรเลียเรียกร้องให้อัลบานีสหาทางช่วยแอสซานจ์ โดยวิตกว่าเจ้าพ่อวิกิลีกส์อาจต้องเสียชีวิตอยู่ในเรือนจำที่สหรัฐฯ หากว่าคดีของเขาไม่ได้ยุติในเร็ววันนี้
ซึ่งการก้าวเข้ามาของอดีตอัยการสูงสุดออสเตรเลียทั้งระดับประเทศและระดับท้องถิ่นเกิดขึ้นหลังเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำออสเตรเลีย แคโรไลน์ เคนเนดี (Caroline Kennedy) ได้ออกมาส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่จะมีข้อตกลง plea deal ในการที่เขาต้องยอมรับความผิดในบางข้อหาที่จะเปิดโอกาสให้แอสซานจ์สามารถเดินทางกลับบ้านที่ ออสเตรเลีย ได้สำเร็จ
สหรัฐฯ ต้องการตัวแอสซานจ์กลับไปเพื่อดำเนินคดี 17 กระทงตามความผิดกฎหมายจารกรรมลับสหรัฐฯ (US Espionage Act) รวมไปถึงข้อหาการแฮกจารกรรม
เอพีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีอัลบานีสมีกำหนดการเยือนทำเนียบขาวอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 ต.ค.ที่จะถึงเพื่อจะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน และจะหารือในปัญหาภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก รวมไปถึงโอกาสสำหรับการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานสะอาดและปัญหาด้านสภาพอากาศโลกซึ่งเป็นประเด็นที่ออสเตรเลียให้ความสำคัญ
เดลีเมลรายงานต่อว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำออสเตรเลียได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ซิดนีย์มอร์นิงเฮอรัลเกี่ยวกับผู้ก่อตั้งวิกิลีสก์ว่า “จริงๆ มันไม่ใช่ประเด็นปัญหาทางการทูต แต่ดิฉันคิดว่ามันมีทางออกแน่นอน”
เคนเนดียืนยันว่า “มันมีหนทางที่จะแก้ไขมัน”
แต่อย่างไรก็ตาม เธอย้ำว่าข้อตกลงสำคัญนี้ต้องขึ้นอยู่กับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เท่านั้น
จูเลียน แอสซานจ์ต้องใช้เวลานานร่วม 13 ปีในการต่อสู้คดีความนับตั้งแต่เขาถูกสวีเดนกล่าวหาในคดีข่มขืน และตามมาด้วยคดีจารกรรมความลับสหรัฐฯ ส่งให้เขาต้องอยู่ในเรือนจำอังกฤษมานานถึง 4 ปี ซึ่งเวลาของเขาเริ่มที่จะหมดลงถึงช่องทางรอดที่จะไม่ต้องถูกส่งตัวไปอเมริกา
เคนเนดีกล่าวกับซิดนีย์มอร์นิงเฮอรัลว่า “มันเป็นคดีกำลังดำเนิน” เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดข้อตกลง plea deal แต่ย้ำว่าต้องขึ้นอยู่กับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เท่านั้น
เธอกล่าวอย่างให้ความหวังว่า มันยังมีทางออกที่จะแก้ไขมันได้ และเสริมว่า “คุณสามรถอ่าน (หนังสือพิมพ์) เหมือนที่ดิฉันสามารถทำได้”
น้องชายของจูเลียน แอสซานจ์ คือ เกเบรียล ชิปตัน (Gabriel Shipton) แสดงความเห็นกับซิดนีย์ มอร์นิงเฮอรัล เกี่ยวกับการออกมาส่งสัญญาณจากเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ว่า
“เอกอัครราชทูต แคโรไลน์ เคนเนดี จะไม่มีวันพูดในสิ่งนี้หากว่าพวกเขาไม่ต้องการทางออก”
และเสริมว่า “พวกอเมริกันต้องการให้สิ่งนี้ออกไปจากจานของพวกเขา”
อย่างไรก็ตาม ทั้งนี้เดลีเมลชี้ว่า ข้อตกลงอาจจำเป็นต้องการให้แอสซานจ์บินไปสหรัฐฯ เพื่อขึ้นศาลที่นั่นก่อนที่เขาจะได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับไปออสเตรเลียเพื่อรับโทษใดโทษหนึ่ง
บรรดาผู้สนับสนุนจูเลียน แอสซานจ์ หวังว่า เขาจะได้รับข้อหาที่รุนแรงน้อยลงในการแลกเปลี่ยนกับข้อตกลงยอมรับสารภาพความผิดและช่วงเวลาที่รับโทษในเรือนจำอังกฤษสำหรับการลงโทษเขา