xs
xsm
sm
md
lg

Update : "ไฟป่ารัฐฮาวาย" ดับเลย 93 โศกนาฏกรรมไฟป่าใหญ่สุดของสหรัฐฯ รอบ 100 ปี พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 มีพระราชสาสน์ถึง "ไบเดน"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์/เอพี  - ยอดเสียชีวิตไฟป่ารัฐฮาวายล่าสุดมีไม่ต่ำกว่า 93 คน การค้นหาและกู้ภัยยังคงมีต่อไป สำนักงานบริหารฉุกเฉินกลางสหรัฐฯ FEMA กุมขมับอาจต้องใช้ถึง 6 พันล้านดอลลาร์เพื่อซ่อมแซม ด้านพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ส่งพระราชสาสน์แสดงความเสียพระทัยอย่างสุดซึ้งต่อโศกนาฏกรรมไฟป่าครั้งนี้ ส่วนเจ้าของร้านออนไลน์ AMAZON ชื่อดังใจป้ำประกาศบริจาค 100 ล้านดอลลาร์ช่วยเกาะเมาอี

NBC News รายงานล่าสุดวันนี้ (13 ส.ค.) ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟป่ารัฐฮาวายเพิ่มกว่า 93 คนแล้ว ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงระดมความพยายามเพื่อที่จะควบคุมการแพร่กระจายของไฟป่าในเมืองลาไฮนา (Lahaina) ไฟป่าอัปคันทรีย์ เมาอี (Upcountry Maui) เจ้าหน้าที่เปิดเผยในช่วงต้นของวันอาทิตย์ (13)

สิ่งปลูกสร้าง 3 แห่งในโอลินดา (Olinda) และอีก 16 แห่งในคูลา (Kula) โดนไฟป่าอัปคันทรีย์ เมาอีทำลาย รายงานจากแถลงการณ์ของเมาอี เคาน์ตี (Maui County)

อย่างไรก็ตาม ข่าวอัปเดตที่เข้ามาได้เสริมว่า ไฟป่า Pulehu/Kīhei ถูกควบคุมได้เบ็ดเสร็จ 100% แล้วในวันเสาร์ (12) ชี้ให้เห็นไปถึงเปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ไฟป่าได้ถูกล้อมโดยเส้นควบคุม" และยังสะท้อนไปถึงโอกาสที่ไฟป่าจะแพร่ลามออกไปไกลกว่าขอบเขตเดิมของมันเข้าไปสู่พื้นที่ใหม่"

ทั้งนี้ ก่อนหน้าในวันเดียวกัน (13) เอพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่รัฐฮาวายเปิดเผยว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากไฟป่าเกาะเมาอี (Mauii Island) ของรัฐฮาวาย มาจนถึงวันเสาร์ (12) อยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 89 คน และเชื่อว่าตัวเลขจะสูงขึ้น ขณะที่จำนวนผู้สูญหายยังมีสูงถึง 1,000 คน

การเพิ่มขึ้นของยอดเสียชีวิตเกิดขึ้นท่ามกลางเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่มาพร้อมขวานและสุนัขกู้ภัยเดินท่องไปตามพื้นที่ไฟป่าเพื่อค้นหาร่างของผู้เสียชีวิตในกองเพลิง

ผู้ว่าการรัฐฮาวาย จอช กรีน (Josh Green) กล่าวยืนยันวานนี้ (12) ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจะยังคงเพิ่มขึ้น ส่วนตัวเลขผู้สูญหายมีสูงถึง 1,000 คน

ไฟป่ารัฐฮาวายครั้งนี้กลายเป็นไฟป่าที่ร้ายแรงที่สุดในรอบ 100 ปี ของสหรัฐฯ แซงหน้าไฟป่าแคมป์ไฟร์ (Camp Fire) ทางเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียปี 2018 ที่มีผู้เสียชีวิต 85 คน อ้างอิงจากดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษ

ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจเมาอี จอห์น เพลเล็ตเทียร์ (John Pelletier) แถลงว่า มีผู้เสียชีวิต 2 ราย จากทั้งหมด 89 รายถูกบ่งชี้เอกลักษณ์บุคคล โดยบรรยายถึงความยากลำบากในการบ่งชี้เอกลักษณ์บุคคลเนื่องมาจาก “พวกเราได้เก็บร่างผู้เสียชีวิตที่มันแตกเป็นชิ้นๆ”

เขาย้ำว่าถึงแม้เกาะเมาอีจะดำเนินการตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลช้า แต่ทว่าต้องทำอย่างรอบคอบที่สุด

เขากล่าวว่า ใช้วิธีการตรวจสอบดีเอ็นเอแบบด่วนสำหรับการตรวจสอบ

ผู้บัญชาการตำรวจเกาะเมาอียังเปิดเผยต่อว่า ปฏิบัติการค้นหาและช่วยชีวิตในปัจจุบันครอบคลุมแค่ 3% ของพื้นที่ทั้งหมด เพลเลตเทียร์ ยอมรับว่า เป็นปฏิบัติการที่คืบหน้าช้า แต่เขาให้สัญญาว่ามันจะดีขึ้นในไม่ช้า อ้างอิง NBC News ของสหรัฐฯ

ขณะเดียวกัน พบว่า เกาะเมาอีอาจมีปัญหากับห้องเก็บศพที่มีจำกัดหลังจากผู้เสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มขึ้น

เอพีรายงานว่า มีอาคารบ้านเรือนไม่ต่ำกว่า 2,200 หลังเสียหาย หรือถูกทำลายที่เมาอีตะวันตก ซึ่ง 86% ของจำนวนนี้เป็นที่อยู่อาศัยประชาชน ผู้ว่าการรัฐฮาวายกล่าว

ดิอินดีเพนเดนท์ชี้ว่า ทั่วทั้งเกาะคาดการณ์ว่าต้องใช้เงินสำนักงานบริหารฉุกเฉินกลางสหรัฐฯ FEMA ร่วม 6 พันล้านดอลลาร์เพื่อบูรณะใหม่ ซึ่งในวันศุกร์ (11) พบว่า FEMA ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไม่ต่ำกว่า 150 คน รวมทีมค้นหาออกเดินทางมาที่เกาะเมาอี

พร้อมกันนี้ได้เปิดเผยว่า พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษได้ทรงมีพระราชสาสน์แสดงความเสียพระทัยมายังประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน จากเหตุโศกนาฏกรรมไฟป่ารัฐฮาวาย ซึ่งข้อความในพระราชสาสน์ระบุว่า ทั้งพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลลา แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษทรงมีความเสียพระทัยอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวเหยื่อที่ต้องเสียชีวิตในกองเพลิงจากเหตุการณ์นี้

สื่ออังกฤษรายงานว่า เป็นที่ฮือฮาหลัง เจฟฟ์ เบโซส ผู้ก่อตั้งร้านออนไลน์ชื่อดัง AMAZON และคู่หมั้น ลอเรนซ์ ซานเชซ วันศุกร์ (11) ประกาศบริจาค 100 ล้านดอลลาร์ช่วยเหลือการบูรณะเกาะเมาอี

นอกจากนี้ ในวันเสาร์ (12) บริษัทเดินเรือสมุทรชื่อดังของนอร์เวย์ Norwegian Cruise Line ได้บริจาค 50,000 ดอลลาร์เพื่อช่วยผู้ประสบภัยบนเกาะเมาอี NBC News รายงานและชี้ว่า มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากติดอยู่ในสนามบินเป็นเวลาหลายชั่วโมงหลังจากถูกอพยพออกไป

หนึ่งในนั้นคือ อเล็กซ์ ลี (Alex Lee) และครอบครัวจากรัฐนอร์ทแคโรไลนาเดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะเมาอี และได้เห็นควันดำเหนือท้องฟ้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้น

ส่งผลทำให้คนทั้งหมดตัดสินใจอพยพออกไปและตั้งหลักอยู่ที่สนามบินเมาอีทันที




กำลังโหลดความคิดเห็น