เอเจนซีส์ - ตัวเลขผู้เสียชีวิตไฟป่าที่เกาะเมาอี (Maui) รัฐฮาวาย ล่าสุด วันนี้ (11 ส.ค.) มีไม่ต่ำกว่า 53 ราย ผู้ว่าการรัฐประกาศเป็นวันหัวใจสลาย บ้านเรือนกว่าพันหลังวอดกลางกองเพลิง เดินหน้าระดมค้นหาผู้รอดชีวิตต่อ หน่วยงานยามฝั่งช่วยประชาชนในพื้นที่หนีตายกระโดดลงมหาสมุทรได้ 14 คนในวันแรก ส่วนประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในรัฐฮาวาย ส่งกำลังทหารสหรัฐฯ เข้ารัฐช่วยเหลือ
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวานนี้ (10 ส.ค.) ว่า ผู้ว่าการรัฐฮาวาย จอช กรีน (Josh Green) กล่าวในงานแถลงข่าววันพฤหัสบดี (10) อัปเดตจำนวนผู้เสียชีวิตไฟป่าเกาะเมาอี (Maui) ล่าสุดว่ามีไม่ต่ำกว่า 53 คน และบ้านเรือนจำนวน 1,400 หลังโดนเผาทำลายอิงตัวเลขล่าสุดจากบีบีซีของอังกฤษ ขณะที่ประชาชนจำนวนมากจำเป็นต้องหาที่อยู่อาศัยชั่วคราวในเวลานี้ หลังไฟป่าลามอย่างรวดเร็ว
กรีนชี้ว่า ไฟป่าเกาะเมาอีกลายเป็นวิกฤตธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐฮาวาย
อ้างอิงจาก CBS News ของสหรัฐฯ พบว่า มีไฟป่าหนึ่งลูกที่เกือบทำลายเมืองลาไฮนา (Lahaina) ที่เก่าแก่นั้นก่อนหน้าถูกควบคุมไว้ได้แล้วราว 80% แต่ทว่ายังไม่มีไฟป่าลูกใดถูกควบคุมไว้ได้โดยสมบูรณ์ในเวลานี้
กรีนกล่าวในงานแถลงข่าวเตือนว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตปัจจุบันอาจแซงหน้าตัวเลขผู้เสียชีวิตเหตุโศกนาฏกรรมภัยพิบัติสึนามิของรัฐปี 1960 ที่มีคนตายสูงถึง 61 ราย อ้างอิงจากสกายนิวส์ของอังกฤษ
เดอะการ์เดียน และสกายนิวส์ชี้ว่า บรรดาเจ้าหน้าที่ยังคงเร่งการอพยพจำนวนมหาศาลและค้นหาผู้รอดชีวิตต่อไปอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย แต่ทว่าหัวหน้าตำรวจ จอห์น เพลเลเทีย (John Pelletier) ให้ตัวเลขผู้สูญหายไว้ที่ 1,000 คน โดยชี้ว่า การที่ไฟฟ้าดับจะยิ่งเป็นการยากต่อการติดต่อและค้นหาคนเหล่านั้น
ทั้งนี้ ในวันพฤหัสบดี (10) ยังพบว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ได้ใช้อำนาจประธานาธิบดีออกคำสั่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินบนเกาะเมาอีเพื่อทำการปลดล็อกความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ไปให้ท้องถิ่น
นอกจากนี้ ก่อนหน้าในวันพุธ (9) ไบเดนยังออกคำสั่งให้กองทัพสหรัฐฯ ส่งกำลังทหารเข้ารัฐฮาวายสำหรับวิกฤตไฟป่า
สื่อ NavyTimes ทางการทหารรายงานว่า ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวในแถลงการณ์ค่ำวันพุธ (9) ว่า ตัวเขาได้ออกคำสั่งให้ทรัพยากรทั้งหมดที่มีอยู่ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ออกไปช่วยรัฐฮาวาย และเสริมต่อว่าหน่วยงานยามฝั่งสหรัฐฯ และกองทัพเรือนั้นสนับสนุนในการตอบโต้วิกฤตและการกู้ภัย ขณะที่กองทัพนาวิกโยธินสหรัฐฯ ได้ส่งฝูงเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กบินไปช่วยที่รัฐฮาวายเช่นกัน
ทั้งนี้ ไฟป่าที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลทำให้ประชาชนในพื้นที่บนเกาะเมาอีต้องกระโดดลงไปในทะเลเพื่อหนีเอาตัวรอด และอยู่ในน้ำนานหลายชั่วโมง โดยหน่วยงานยามฝั่งสหรัฐฯ ในวันอังคาร (8) สามารถช่วยคนขึ้นมาจากมหาสมุทรได้ 14 คน รวมเด็ก 2 ราย
เดอะการ์เดียนรายงานว่า เจ้าหน้าที่รัฐฮาวายกำลังเตรียมศูนย์การประชุมในเมืองโฮโนลูลูเพื่อให้กลายเป็นที่พักพิงชั่วคราวแก่ผู้ประสบภัยที่รับได้สูงสุด 4,000 คน
ขณะที่สนามบินคาฮูลูอี (Kahului) บนเกาะเมาอีนั้นจะถูกเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่อาศัยผู้ประสบภัยราว 2,000 คนสำหรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่งเดินทางมาถึง หรือสำหรับคนที่เที่ยวบินถูกสั่งยกเลิก
บีบีซีของอังกฤษรายงานว่า การท่องเที่ยวฮาวายได้รับผลกระทบหนักจากวิกฤตไฟป่าเกาะเมาอี องค์การการท่องเที่ยวฮาฮาย HTA เปิดเผยว่า มีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่ต่ำกว่า 14,000 คน ถูกย้ายออกไปจากเกาะเมาอีในวันพุธ (9) ซึ่งอาจจะเดินทางกลับบ้านหรือเข้าไปท่องเที่ยวในส่วนอื่นๆ ของรัฐฮาวาย
ซึ่งภายในค่ำวันพฤหัสบดี (10) คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวร่วม 14,500 คนเดินทางออกไป
เจ้าหน้าที่เกาะเมาอีเปิดเผยว่า ไฟป่าที่กำลังลุกลามอย่างหนักในเวลานี้มาตั้งแต่วันอังคาร (8) นั้นเชื่อว่ามีความรุนแรงมากขึ้นจากอานิสงส์ของพายุเฮอร์ริเคนดอร่า (Hurricane Dora) ที่ผ่าน สื่ออังกฤษชี้ว่า ซึ่งในเวลานี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดถึงสาเหตุการเกิดไฟป่าบนเกาะเมาอี