รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - บริษัท Tapestry เจ้าของแบรนด์หรูสหรัฐฯ รวม COACH, KATE SPADE วันพฤหัสบดี (10 ส.ค.) ประกาศควบรวมกิจการบริษัท Capri Holdings ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Versace และ MICHEAL KORE ข้อตกลง 8.5 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มอำนาจการแข่งขันจากบริษัทแบรนด์หรูจากยุโรป LVMH เจ้าของกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง และดิออร์
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (10 ส.ค.) ว่า บริษัทกลุ่มแบรนด์หรูสหรัฐฯ มักจะแพ้คู่แข่งจากยุโรป เป็นต้นว่า LVMH เจ้าของกระเป๋าหลุยส์ วิตตองและดิออร์ ในขนาดจำกัดความสามารถทางการแข่งขัน
พบว่าบริษัท LVMH ของฝรั่งเศสปัจจุบันเป็นเจ้าของ 75 แบรนด์ ที่นอกจากหลุยส์ วิตตองและดิออร์แล้ว ยังรวมไปถึงแบรนด์เครื่องประดับทิฟฟานีของสหรัฐฯ
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า Tapestry นั้นเป็นเจ้าของแบรนด์กระเป๋า Kate Spade และ Coach ในวันนี้ (10) แถลงทางบริษัทตัดสินใจควบรวมกิจการกับบริษัท Capri Holdings สัญชาติสหรัฐฯ เจ้าของกระเป๋าแบรนด์ Michael Kors และแบรนด์ห้องเสื้ออิตาลีสุดหรูชื่อดัง Versace ด้วยข้อตกลง 8.5 พันล้านดอลลาร์
“การควบรวมของแบรนด์หรู Coach, Kate Spade และ Stuart Weitzman กับแบรนด์ Versace, Jimmy Choo และ Michael Kors จะช่วยสร้างกลุ่มธุรกิจแบรนด์หรูใหม่ที่ทรงอำนาจที่จะช่วยขับดันเพิ่มคุณค่าสำหรับผู้บริโภคของเรา พนักงาน ชุมชน และบรรดาผู้ถือหุ้นทั่วโลกได้” ซีอีโอบริษัท Tapestry โจแอนน์ ครีวอยเซอราต (Joanne Crevoiserat) กล่าวผ่านแถลงการณ์
ซึ่งภายใต้ข้อตกลงพบว่าผู้ถือหุ้นบริษัท Capri จะได้รับ 57 ดอลลาร์/หุ้น และมูลค่าหุ้นพุ้งขึ้น 60% ในช่วงต้นของการซื้อขาย ขณะที่หุ้นของ Tapestry ตกไปเกือบ 6%
รอยเตอร์รายงานว่า เยเลนา โซโคโลวา (Jelena Sokolova) นักวิเคราะห์ประจำ Morningstar แสดงความเห็นถึงดีลคควบรวม 8.5 พันล้านดอลลาร์ของกลุ่มธุรกิจแบรนด์หรูสหรัฐฯ ครั้งนี้ว่า
“ขนาดนั้นดูเหมือนจะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นและมากขึ้นในธุรกิจแบรนด์หรูสินค้าฟุ่มเฟือยจากการที่รวมทรัพยากรกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่กันจะสามารถเพิ่มการเติบโตให้แบรนด์เล็กของกลุ่มธุรกิจเหล่านั้นได้”
อย่างไรก็ตาม CNN ชี้ว่า การใช้จ่ายสำหรับสินค้าฟุ่มเฟือยนั้นลดลงในไม่กี่ไตรมาสผ่านมาโดยเฉพาะในสหรัฐฯ
ซึ่ง ฌอง-ฌักส์ กีโยนีย์ (Jean-Jacques Guiony) เจ้าหน้าที่หัวหน้าการเงินกลุ่มธุรกิจ LVMH ได้เคยกล่าวไว้ในเดือนที่ผ่านมาว่า ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายนั้นไม่จับจ่ายมากเหมือนที่เคยทำจากการที่ยอดขายตกไป 1% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า CNN สื่อสหรัฐฯ รายงาน
