เอเจนซีส์ - หน่วย SWAT ของ FBI บุกเข้าถึงบ้านเครก โรเบิร์ตสัน (Craig Robertson) ชายผู้ต้องสงสัยวัย 75 ปี สาวก MAGA ทรัมป์ พร้อมหมายจับและหมายค้นก่อนยิงเสียชีวิตคาบ้านพักที่รัฐยูทาห์เมื่อวันพุธ (9 ส.ค.) หลังเจ้าตัวถือปืนจ่อเจ้าหน้าที่ ไม่กี่ชั่วโมงก่อนประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน จะเดินทางเข้ารัฐในช่วงค่ำวันเดียวกัน พบชายผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวโพสต์ข้อความคุกคามในวันอาทิตย์ (6) ยืนยัน จะนำปืนสไนเปอร์ไรเฟิลแบบติดลำกล้อง M24 ของตัวเองออกมาขัดปัดฝุ่นไว้พร้อมต้อนรับ
เดอะการ์เดียน สื่อสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (10 ส.ค.) ว่า กลายเป็นเรื่องระทึกขวัญไปเมื่อเจ้าหน้าที่ FBI ได้ลงมือสังหารผู้ต้องสงสัยคุกคามการเดินทางเข้ามาในรัฐยูทาห์ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน หลังชายผู้ต้องสงสัยเจ้าของปืนสไนเปอร์ไรเฟิลแบบติดลำกล้อง M24 ได้โพสต์ข้อความในวันอาทิตย์ (7) ทางโซเชียลมีเดีย เป็นข้อความคุกคามที่ส่อเพื่อต้องการลอบสังหารผู้นำสหรัฐฯ ระหว่างการเยือนรัฐยูทาห์
ทั้งนี้ พบว่าทีมหน่วย SWAT ของ FBI บุกบ้านของ เครก ดีลิว โรเบิร์ตสัน (Craig Deleeuw Robertson) วัย 75 ปี สาวก MAGA ทรัมป์ตัวเอ้ที่เมืองโพรโว (Provo) ทางใต้ของเมืองซอล์ตเลค ซิตี ซึ่งเหตุการยิงเกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.15 น.ตามเวลาท้องถิ่นไม่กี่ชั่วโมงหลังเครื่องแอร์ฟอร์ซวันจะนำไบเดนมาเยือนที่รัฐแห่งนี้ในช่วงค่ำของวันเดียวกัน
คูเปอร์ โรบินสัน (Cooper Robinson) เพื่อนบ้านของโรเบิร์ตสันเปิดเผยกับสื่อรัฐยูทาห์ KSL ว่าระหว่างตัวเองกำลังเดินจูงสุนัขอยู่ในละแวกนั้นราว 05.30 น. และได้เห็นรถตำรวจ 6 คันล้อมบ้านผู้ต้องสงสัยไว้
โรบินสันให้สัมภาษณ์ว่า “ผมไม่ได้เห็นอะไรมากจากจุดที่ผมอยู่ ผมได้ยินแต่เสียงเท่านั้น” พร้อมเสริมต่อว่า ผมได้ยินเสียงดังมากคล้ายระเบิดซึ่งเจ้าตัวสันนิษฐานว่าอาจเป็นระเบิดแสง
พร้อมกันนั้น คนเหล่านั้นประกาศผ่านไมโครโฟนมีข้อความว่า “เครก โรเบิร์ตสัน ได้โปรดออกมาพร้อมกับชูมือขึ้น” เพื่อนบ้านกล่าวว่าคนเหล่านี้พูดซ้ำหลายครั้ง
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงาน เจ้าหน้าที่หน่วย SWATได้ออกคำสั่งต่อคนร้ายในขณะที่โรเบิร์ตสันกำลังถือปืนจ่อไปที่กลุ่มเจ้าหน้าที่เอเยนต์พิเศษ อ้างอิงจากแหล่งข่าวบังคับใช้กฎหมายสหรัฐฯ ที่รู้ในเรื่องนี้
โรเบิร์ตสันเผชิญหน้ากับข้อหาความผิดตามกฎหมายรัฐบาลกลางสหรัฐฯ 3 ข้อหาซึ่งเป็นหมายแบบปิดลับในวันอังคาร (8) รวมถึงเป็นภัยคุกคามต่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมถึงแสดงอิทธิพล ขัดขวาง และข่มขู่ต่อเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ด้วยการคุกคาม
เจ้าหน้าที่สอบสวนสหรัฐฯ ชี้ว่า คนร้ายดูเหมือนจะครอบครองปืนสไนเปอร์ไรเฟิล และปืนอีกหลายกระบอก รวมไปถึงชุดพรางตัวแบบเพื่อซุ่มยิง
ซึ่งหนึ่งในข้อความคุกคามเมื่อวันอาทิตย์ (6) อ้างอิงวันที่จากคำฟ้องเอกสารสหรัฐฯ ในรายงานภาพข่าวเอพีที่เป็นข้อความจากโรเบิร์ตสันบนโซเชียลมีเดียต่อการเดินทางเข้ามาในรัฐยูทาห์ของไบเดนในค่ำวันพุธ (9) มีใจความว่า
“ผมได้ยินมาว่าไบเดนกำลังจะเดินทางมาที่ยูทาห์” และเขากล่าวทางโพสต์ต่อว่า “ขุดชุดพรางตัวเก่าของตัวเองออกมาและทำความสะอาดปัดฝุ่นปืนสไนเปอร์ไรเฟิล M24 ขอต้อนรับการมาของตัวตลกทำเนียบขาว”
ทั้งนี้ ปืนสไนเปอร์ไรเฟิล M24 เป็นปืนไรเฟิลแบบติดลำกล้องสำหรับพิสัยการยิงไกล
สื่อท้องถิ่นรัฐยูทาห์ KSL เปิดเผยต่อว่า โรเบิร์ตสันเคยโพสต์ถึงประธานาธิบดีไบเดนมีใจความว่า
“ในความฝันของผม ผมได้เห็นร่างของโจ ไบเดนในมุมมืดของอาคารลานจอดรถในดี.ซี.ที่หัวของเขาถูกตัดนอนจมกองเลือด ฮูเร่”
และดูเหมือนว่าเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ผู้ตายยังได้โพสต์ข่มขู่คุกคามนักการเมืองพรรคเดโมแครตระดับสูงคนอื่นและอัยการสหรัฐฯ ที่ดำเนินคดีเอาผิดอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางความเกลียดชังและความรุนแรงที่มีมากขึ้นโดยมีเป้าหมายไปที่ทั้งผู้นำระดับท้องถิ่น และระดับชาติระหว่างอเมริกากำลังเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไปในปี 2024
และไบเดนได้ประกาศตัวลงชิงสำหรับสมัยที่ 2 ท่ามกลางการขับเคี่ยวจากตัวเต็งของฝ่ายพรรครีพับลิกัน เช่น ทรัมป์ และผู้ว่าการรัฐฟลอริดา รอน เดอ ซานเตส ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้อำนวยการ FBI คริสโตเฟอร์ เรย์ (Christopher Wray) เรียกว่าเป็นระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับภัยคุกคามที่มีต่อเจ้าหน้าที่ FBI ตามการรายงานของ CNN
เดอะการ์เดียนรายงานว่า ซึ่งตามเอกสารของศาล พบว่า เครก โรเบิร์ตสันถูกอ้างอิงโยงว่า เป็น "การลอบสังหารประธานาธิบดีสหรัฐฯ" และเป็นภัยคุกคามต่ออัยการเขตแมนแฮตตัน อัลวิน แบรกก์ (Alvin Bragg) ที่ดำเนินคดีทรัมป์ และต่อรัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ เมอร์ริค การ์แลนด์ (Merrick Garland) และต่ออัยการประจำรัฐนิวยอร์ก เลติเทีย เจมส์ (Letitia James)
ทั้งนี้ ไบเดนได้รับรายงานสรุปเหตุการณ์ FBI บุกยิงผู้ต้องสงสัยคุกคามเอาชีวิตเขาในวันพุธ (10) ระหว่างที่เขากำลังอยู่ในรัฐนิวเม็กซิโก ซึ่งไบเดนได้ขึ้นกล่าวกับต่ออุตสาหกรรมก่อนที่จะบินเข้าเมืองซอล์ทเลค ซิตี รัฐยูทาห์หลังจากนั้น