โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุวานนี้ (7 ส.ค.) ว่ากรณีอดีตนายกรัฐมนตรี อิมราน ข่าน แห่งปากีสถานถูกจับถือเป็น “เรื่องภายใน” และวอชิงตันไม่ขอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้กฎหมายเล่นงานผู้นำฝ่ายค้านปากีฯ ซึ่งเคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์สหรัฐฯ เสียๆ หายๆ อยู่บ่อยครั้ง
ตำรวจปากีสถานบุกรวบตัว ข่าน ที่เมืองลาฮอร์ (Lahore) เมื่อวันเสาร์ (5) หลังจากศาลมีคำพิพากษาจำคุกอดีตนายกฯ เป็นเวลา 3 ปี ฐานนำของขวัญที่ได้รับจากการเยือนต่างประเทศไปขายอย่างผิดกฎหมาย
คำตัดสินของศาลยังส่งผลให้ ข่าน ซึ่งเวลานี้เป็นผู้นำฝ่ายค้านจากพรรค Tehreek-e-Insaf ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งทั่วไปในช่วงปลายปีนี้ได้
ข่าน ยืนกรานปฏิเสธทุกข้อหา และอ้างว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันกับกองทัพสมคบคิดกันสร้างข้อกล่าวหาอันเป็นเท็จเพื่อเล่นงานตน
“เราเชื่อว่านี่เป็นกิจการภายในของปากีสถาน” แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในงานแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ (7) เมื่อมีสื่อตั้งคำถามว่าสหรัฐฯ มองว่า ข่าน ถูกดำเนินคดีอย่างเป็นธรรมหรือไม่
“(ทั่วโลก) มีคดีความหลายๆ คดีซึ่งปราศจากหลักฐานที่น่าเชื่อถืออย่างเห็นได้ชัด และสหรัฐฯ คิดว่าเราจำเป็นต้องออกมาพูดอะไรบางอย่าง ทว่าในกรณีนี้เรายังไม่ตัดสินเช่นนั้น” มิลเลอร์ กล่าว
ข่าน ถูกถอดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากแพ้การลงคะแนนโหวตไม่ไว้วางใจเมื่อเดือน เม.ย. ปี 2022 ซึ่งตัวเขาเองอ้างว่าเป็นแผนของพวกนายพลในกองทัพปากีฯ ที่ได้รับการสนับสนุนจากวอชิงตัน
ทั้งสหรัฐฯ และกองทัพปากีสถานต่างออกมาปฏิเสธเรื่องนี้
นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า ปฏิกิริยาตอบสนองที่สหรัฐฯ มีต่อการจับกุมและดำเนินคดี อิมราน ข่าน นั้นถือว่า “เงียบ” จนผิดวิสัย เมื่อเทียบกับการที่วอชิงตันมักจะออกมาตำหนิการใช้กฎหมายเล่นงานนักการเมืองฝ่ายค้านในประเทศอื่นๆ
“การที่ ข่าน โทษสหรัฐฯ ว่าอยู่เบื้องหลังการโค่นอำนาจเขาเมื่อปีที่แล้วไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย และนับตั้งแต่นั้นสหรัฐฯ ก็ไม่เคยแสดงความคิดเห็นอะไรเกี่ยวกับการเมืองในปากีสถานอีก” มาดิฮา อัฟซาล นักวิเคราะห์จากโครงการนโยบายต่างประเทศของสถาบันบรุกกิงในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ระบุ
อิมราน ข่าน ถือเป็นนักการเมืองที่มีจุดยืนต่อต้านนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ มาตลอดเกือบทั้งชีวิต โดยในช่วงที่เขายังเป็นนักการเมืองดาวรุ่งก็เคยออกมาวิจารณ์ปฏิบัติการโดรนโจมตีกลุ่มติดอาวุธตามแนวชายแดนปากีฯ ฝั่งที่ติดกับอัฟกานิสถาน ซึ่งเขาชี้ว่าเข้าข่ายเป็นการฆ่าโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม (extra-judicial killings) และละเมิดอธิปไตยของปากีสถาน
ข่าน ยังแสดงความยินดีปรีดากับความพ่ายแพ้ของสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถานเมื่อปี 2021 โดยชี้ว่าการถอนทหารของนาโตและสหรัฐฯ ถือเป็นการ “ปลดโซ่ตรวนแห่งความเป็นทาส” ให้อัฟกานิสถาน
ไมเคิล คูเกลแมน ผู้อำนวยการศูนย์เอเชียใต้แห่งสถาบันคลังสมอง วิลสัน เซ็นเตอร์ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ระบุว่า การที่ ข่าน วิจารณ์สหรัฐฯ ไม่หยุดหย่อนในอดีตทำให้เขาไม่ได้รับความเห็นอกเห็นใจจากวอชิงตัน
“ผมเชื่อว่าสหรัฐฯ คงจะทำเป็นนิ่งเฉยไว้” คูเกลแมน กล่าว
ที่มา : รอยเตอร์
