เอพี/เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - สถานีโทรทัศน์ทางการจีนรายงานวันอังคาร (1 ส.ค.) ตัวเลขผู้เสียชีวิต 11 คน สูญหายอีก 27 คนหลังเกิดน้ำท่วมหนักแถบภูเขาใกล้กรุงปักกิ่ง ขณะที่เกาหลีใต้สุดสลด สภาพอากาศร้อนคร่าชีวิตพลเมืองไป 12 คน และที่ญี่ปุ่นอีก 3 คน รวมเด็ก 13 ปี เกิดขึ้นหลังตำรวจสหรัฐฯ กล่าวโทษเครื่องปรับอากาศรถบรรทุกหลังทำลูกสุนัขเตรียมฝึกเพื่อเป็นสุนัขตำรวจรัฐอินเดียนา ดับไม่ต่ำกว่า 8 ตัวกลางอากาศที่ร้อนจัดในวันพฤหัสบดี (27 ก.ค.) วันเดียวกันกับที่องค์การสหประชาชาติออกมายืนยัน ภาวะโลกร้อนส่งผลทำให้กรกฎาคมกลายเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์
เอพีรายงานวันนี้ (1 ส.ค.) ว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักนานติดต่อหลายวันส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่จีนต้องสั่งปิดสถานีรถไฟ รวมไปถึงอพยพประชาชนพื้นที่เสี่ยงออกไปอาศัยในโรงยิมกีฬาของโรงเรียนท้องถิ่นชั่วคราว สถานีโทรทัศน์ทางการจีน CCTV รายงานวันอังคาร (1)
สถานการณ์ที่ปรากฏพบบ้านเรือนในภูมิภาคกรุงปักกิ่งถูกน้ำท่วม ถนนถูกตัดขาด และรถยนต์เกยกันเป็นชั้น เอพีชี้ว่า เกิดขึ้นหลังกรุงปักกิ่งที่ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพอากาศแห้งนั้นกลับพบกลับระดับน้ำฝนที่มากกว่าปกติตกลงมา
ขณะเดียวกัน ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นต้องพบกับการเสียชีวิตจากคลื่นความร้อนจำนวนรวมกัน 15 คน
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในเกาหลีใต้มีจำนวน 12 คน ส่วนใหญ่เป็นคนสูงอายุ เกิดมาจากปัญหาเกี่ยวกับสภาพอากาศร้อนจัดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ญี่ปุ่นเห็นตัวเลขเสียชีวิต 3 ราย รวมเด็กอายุ 13 ปีอยู่ในนั้น เสียชีวิตระหว่างเด็กหญิงกำลังเดินทางกลับมาจากชมรมโรงเรียน
โดยเด็กหญิงพบหมดสติล้มลงบริเวณทางเท้าในวันศุกร์ (28 ก.ค.)
สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า มีไม่ต่ำกว่า 5 คนจากทั้งหมดที่เสียชีวิตเมื่อสุดสัปดาห์เป็นเกษตรกร และเมื่อดูตามช่วงอายุพบว่า 7 คน จากจำนวนทั้งหมด 12 รายที่เสียชีวิตมีอายุมากกว่า 70 ปี รวมไปถึงส่วนหนึ่งที่มีอายุราว 90 ปี
เดอะการ์เดียนรายงานว่า เกาหลีใต้ประกาศเตือนภัยคลื่นความร้อนมาตั้งแต่วันอังคาร (29 ก.ค.) หลังพบอุณหภูมิสูงเกิน 35 องศาเซลเซียส
ซึ่งสัปดาห์ก่อนหน้าโน้นมีผู้เสียชีวิต 3 รายเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับสภาพอากาศร้อน
การเสียชีวิตเนื่องมาจากอากาศร้อนยังเกิดขึ้นในสหรัฐฯ ซึ่งภายในกลางเดือนที่ผ่านมาทำให้คนเสียชีวิตในเมืองฟินิกซ์ รัฐแอริโซนา ไปแล้ว 18 คน อ้างอิงจาก axios ของสหรัฐฯ ซึ่งนอกเหนือจากคนแล้ว เป็นที่น่าสะเทือนขวัญเพราะพบว่าอากาศร้อนจัดยังทำให้ว่าที่เจ้าหน้าที่สุนัข K-9 ของรัฐอินเดียนา 8 ตัว จากทั้งหมด 18 ตัวเสียชีวิต
ยูเอสเอทูเดย์รายงานวันอาทิตย์ (30 ก.ค.) ว่า มีลูกสุนัขสายพันธุ์เยอรมันเชฟเพิร์ดอย่างน้อย 8 ตัว เสียชีวิตภายในรถบรรทุกที่เดินทางจากสนามบินชิคาโก โอ’แฮร์ ไปเมืองมิชิแกน รัฐอินเดียนาในวันพฤหัสบดี (27 ก.ค.) หลังเครื่องปรับอากาศของรถบรรทุกเกิดเสีย
ซึ่งลูกสุนัขทั้งหมดนั้นกำลังเตรียมพร้อมเพื่อเข้ารับการฝึกเพื่อเป็นตำรวจสุนัข K9 ที่แข็งขันต่อไป แต่ต้องมาจบชีวิตก่อน
มีการเปิดเผยว่า การเสียชีวิตเกิดมาจากสภาพด้านในร้อนจัด
“มีไม่กี่ตัวที่ตายอยู่ในจุดที่เกิดเหตุ และอีกจำนวนมากที่ล้มอย่างรวดเร็วหลังจากนั้น” เอพีอ้าง
ทางตำรวจแก้ตัวว่า สถานการณ์นี้ไม่ใช่การทารุณสัตว์ หรือการละเลยขั้นร้ายแรงแต่เป็นเครื่องปรับอากาศเสีย
สภาพอากาศรุนแรงทั่วโลกที่พร้อมใจกันเกิดขึ้นและกระทบมนุษย์และสัตว์อยู่ในเวลานี้ องค์การสหประชาชาติได้ออกมายืนยันแล้วว่า กรกฎาคมถือเป็นเดือนที่มีอากาศร้อนจัดที่สุด
CBS News ของสหรัฐฯ รายงานว่า องค์การสหประชาชาติแถลงวันพฤหัสบดี (27 ก.ค.) ว่า องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก
(World Meteorological Organization) ของยูเอ็น ร่วมกับสำนักงานบริการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโคเปอร์นิคัสยุโรป (European Copernicus Climate Change Service) ของสหภาพยุโรปได้พบว่า เดือนกรกฎาคมปีนี้กลายเป็นเดือนที่ร้อนจัดที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมาในโลกใบนี้
ซึ่งการจดบันทึกย้อนหลังไปไกลสุดตั้งแต่ยุค 40 เอเอฟพีชี้
เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเตร์เรส ได้กล่าวในเชิงตลกจากสำนักงานใหญ่ที่เมืองนิวยอร์ก ว่า เฟสโลกที่อบอุ่นได้ผ่านไป เพราะตอนนี้เป็นเฟสโลกกำลังเดือดพล่านแล้ว
ทั้งนี้ ตามการรายงานพบว่า อุณหภูมิ 23 วันแรกของเดือนกรกฎาคมโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 16.95 องศาเซลเซียส สูงกว่าการบันทึกก่อนหน้าที่ 16.63 องศาเซลเซียสเมื่อกรกฎาคม ปี 2019